Samsung เปิดตัว Galaxy S21 Series 5G สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกของปี 2021 ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งทีมงาน @flashfly เคยพาไปสัมผัสเครื่องจริงอย่างใกล้ชิดมาแล้วทั้ง 3 รุ่น แต่ในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ Galaxy S21 Ultra 5G โดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นรุ่นท็อปสุดของ Series และมาพร้อมสเปกที่ดีที่สุด เมื่อเทียบกับ Galaxy S21 5G และ Galaxy S21 Plus 5G
สเปกหลัก
- การเชื่อมต่อไร้สาย 5G, Wi-Fi 6E, Bluetooth, Ultra Wideband, NFC
- จอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X (3200×1440) ขนาด 6.8 นิ้ว
- กล้องหลัง 4 ตัว 108 + 12 + 10 + 10 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 40 ล้านพิกเซล
- ชิปประมวลผล Exynos 2100
- ความจำ RAM 16GB + ROM 512GB (รุ่นบนสุด)
- เซ็นเซอร์ Ultrasonic Fingerprint sensor, Accelerometer, Barometer, Gyro sensor, Geomagnetic sensor, Hall sensor, Proximity sensor, Ambient Light Sensor
- ระบบปฏิบัติการ Android 11
- แบตเตอรี่ 5,000mAh
- เทคโนโลยีการชาร์จ Super Fast Charging, Fast Wireless Charging 2.0 และ Wireless PowerShare
- บอดี้ 165.1 x 75.6 x 8.9 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 229 กรัม
- ป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
ดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G ได้รับการออกแบบใหม่ เช่นเดียวกับ Galaxy S21 และ Galaxy S21 Plus แต่ในรุ่น Galaxy S21 Ultra จะมีขนาดหน้าจอและบอดี้ใหญ่ที่สุด รวมถึงกรอบกันชนกล้องหลังก็ใหญ่กว่าอย่างชัดเจน เนื่องจากมีจำนวนกล้องหลังมากกว่า
ดีไซน์ด้านหน้าใช้จอแสดงผลแบบ Infinity-O เจาะหลุมไว้ที่กึ่งกลางบริเวณขอบจอด้านบน เพื่อติดตั้งกล้องเซลฟี่ ส่วนขอบด้านข้างใช้วัสดุโลหะ AL7s10 Metal Frame ครอบทับด้วยแผงกระจก Corning Gorilla Glass Victus ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Phantom Silver และ Phantom Black แต่ยังมีสีพิเศษ Phantom Titanium, Phantom Navy และ Phantom Brown ที่สั่งซื้อได้ผ่านทางเว็บไซต์ทางการของ Samsung
ด้านหน้าเต็มไปด้วยพื้นที่ของจอแสดงผล ที่มีขอบด้านข้างโค้งมนเล็กน้อย และเป็นดีไซน์เกือบจะไร้กรอบ โดยใช้จอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X (3200×1440) ขนาด 6.8 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรช 120Hz และยังเป็นรุ่นแรกของ Galaxy S series ที่สนับสนุนปากกา S Pen
หน้าจอใช้ดีไซน์แบบ Infinity-O เจาะหลุมไว้ที่กึ่งกลางบริเวณขอบจอด้านบน เพื่อวางกล้องหน้า 40 ล้านพิกเซล
ขอบด้านข้างมีความบาง 8.9 มิลลิเมตร ถึงแม้จะให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh
ด้านขวาดมือมีปุ่มปรับระดับเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์ (สามารถแตะหน้าจอ 2 ครั้ง เพื่อเปิดหรือปิดจอแสดงผลแทนการกดปุ่มเพาเวอร์ได้)
ด้านบนมีไมโครโฟน 2 ตัว และยังมีไมโครโฟนอีกตัวที่ด้านล่าง ทำให้การบันทึกเสียง รวมถึงการสนทนาชัดเจน
ด้านล่างมีลำโพง, พอร์ต USB Type-C, ไมโครโฟน และ ถาดใส่ซิมการ์ด
นอกจากนี้ Samsung Galaxy S21 Ultra 5G ยังได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำ IP68 สามารถทนต่อน้ำสะอาดที่ความลึกสูงสุด 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที
จอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G ยังคงมีความโดดเด่นที่จอแสดงผล โดยใช้จอภาพ Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด 3200 x 1440 พิกเซล ขนาด 6.8 นิ้ว ให้สีที่แม่นยำและสมจริงด้วยระดับสี 100% ในช่วงสี DCI-P3 และให้ความสว่างสูงสุด 1,500 นิต และมีอัตราส่วนคอนทราสต์ 3,000,000:1
จอแสดงผลของ Samsung Galaxy S21 Ultra 5G ยังให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 120Hz และสามารถปรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอโดยอัตโนมัติ (ระหว่าง 10 – 120Hz) ตามประเภทของคอนเท้นต์ที่กำลังรับชมหรือใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการดูฟีดในโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือ วิดีโอต่างๆ
นอกจากหน้าจอจะแสดงสีสันอย่างคมชัด ผู้ผลิตก็ยังใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยด้วยฟีเจอร์ Eye Comfort Shield ช่วยลดความเมื่อยล้าของสายตา ด้วยการปรับตัวกรองแสงสีฟ้าโดยอัตโนมัติตามช่วงเวลาของวัน คอนเท้นต์ที่กำลังรับชม รวมถึงให้สอดคล้องกับเวลานอนของผู้ใช้งาน
รองรับปากกา S Pen
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G เป็นสมาร์ทโฟน Galaxy S Series รุ่นแรก ที่สนับสนุนปากกา S Pen แต่ไม่ได้แถมมาให้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานสามารถนำปากกา S Pen ของแท็บเล็ต Galaxy Tab หรือ สมาร์ทโฟน Galaxy Note Series รุ่นใหม่ๆ มาใช้งานได้ โดยสนับสนุนฟีเจอร์ต่างๆ เหล่านี้…
– รองรับ Screen Off Memo วาดเขียนได้ทันทีแม้หน้าจอปิดอยู่ โดยต้องจ่อปลายปากกาลงบนหน้าจอก่อนแล้วกดหนึ่งครั้ง
- รองรับฟีเจอร์ Air Command ซึ่งมีทั้ง การเลือกอัจฉริยะ, Live Messages, AR Doodle, แปลภาษา, PENUP รวมถึงฟีเจอร์ในการเขียนบันทึก เขียนบนหน้าจอ และเพิ่มแอพอื่นๆ ที่ต้องการไว้ใน Air Command ได้
- รองรับแอพ Samsung Notes และเปิดแอพได้ทันใจ เพียงกดค้างที่ปากกา แล้วแตะหน้าจอ 2 ครั้ง
- รองรับการตัดต่อรูปภาพและวิดีโอในแอพ Gallery
การใช้งานปากกา S Pen ร่วมกับ Samsung Galaxy S21 Ultra 5G เกือบจะมีความสามารถเทียบเท่าการทำงานบน Galaxy Note Series แต่ยังขาดฟีเจอร์ Air Actions และยังไม่สามารถใช้ปากกาเป็นรีโมทควบคุมระยะไกล
ระบบความปลอดภัย
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G ใช้วิธีการปลดล็อคด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอแบบ Ultrasonic แต่ได้รับการปรับปรุงให้มีขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้น จึงสามารถปลดล็อคได้แม่นยำและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก ใครที่ได้สัมผัสจะรู้ทันทีว่าไวกว่าเดิมจริง
สำหรับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน ยังคงได้รับการป้องกันด้วยแพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัย Knox ที่ช่วยปกป้องสมาร์ทโฟนตั้งแต่ระดับฮาร์ดแวร์ และการอนุญาตใช้งานข้อมูลและแอปต่างๆ และยังได้เพิ่มระบบความปลอดภัยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วย Samsung Knox Vault แพลตฟอร์มความปลอดภัยระดับชิปเซ็ต (SoC)
นอกจากนี้ Samsung ยังเพิ่มเครื่องมือใหม่ ที่ช่วยปกป้องและตรวจสอบความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน โดยผู้ใช้งานสามารถลบข้อมูล Metadata ของตำแหน่งที่อยู่ออกจากรูปภาพก่อนทำการแชร์ได้ และด้วยฟังก์ชัน Private Share ผู้ใช้ยังสามารถกำหนดรายชื่อบุคคลที่จะเข้าถึงเนื้อหา พร้อมทั้งระยะเวลาในการเข้าใช้งาน เพื่อการแบ่งปันคอนเท้นต์ได้อย่างไร้กังวล
กล้องหน้า
ขณะที่ Galaxy S21 5G และ Galaxy S21 Plus มาพร้อมกล้องหลัง 10 ล้านพิกเซล แต่ Galaxy S21 Ultra ได้รับกล้องหน้า 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 ขนาดพิกเซล 0.7 ไมครอน มุมมองกว้าง 80 องศา และรองรับระบบออโต้โฟกัส PDAF โดยสามารถถ่ายวิดีโอในระดับ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที
กล้องหลัง
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G ติดตั้งกล้องหลัง 4 ตัว พร้อม Laser AF ประกอบด้วยกล้อง Ultra-wide, กล้อง Wide และกล้อง Telephoto แบบคู่ โดยกล้องตัวหลัก หรือกล้อง Wide ใช้เซ็นเซอร์แบบโปรเวอร์ชั่นใหม่ ขนาด 108 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์กล้องที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy ทำให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพ 12 bit HDR ด้วยสีสันที่คมชัดมากขึ้นถึง 64 เท่า และช่วงไดนามิกกว้างขึ้นกว่า 3 เท่า เมื่อเทียบกับ Galaxy S20 Ultra
- กล้องหลัก ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.8 ระบบออโต้โฟกัส PDAF มีระบบกันสั่น OIS
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.2 มุมมองกว้าง 120 องศา ระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel
- กล้อง Telephoto 1 ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.4 รองรับออปติตอลซูม 3 เท่า ระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel มีระบบกันสั่น OIS
- กล้อง Telephoto 2 ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/4.9 รองรับออปติตอลซูม 10 เท่า ระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel มีระบบกันสั่น OIS
ซูมไกล 100 เท่า
ด้วยระบบกล้อง Telephoto แบบคู่ ช่วยให้ Samsung Galaxy S21 Ultra 5G รองรับ Space Zoom ที่สามารถซูมได้ไกลสุด 100 เท่า โดยใช้ประโยชน์จากกล้อง Telephoto 1 ที่มี ออปติตอลซูม 3 เท่า และ กล้อง Telephoto 2 ที่มีออปติตอลซูม 10 เท่า และทั้งคู่ยังใช้ระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel จึงสามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัดในระยะไกล
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G ยังมีฟีเจอร์ Zoom Lock ช่วยให้ถ่ายภาพได้นิ่งโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง เมื่อมีการซูมเข้าตั้งแต่ 20 เท่าขึ้นไป และสมาร์ทโฟนตรวจจับได้ว่าไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลา 2-3 วินาที Zoom Lock จะเปิดใช้งานและทำภาพให้นิ่งโดยอัตโนมัติ
โหมดถ่ายภาพในเวลากลางคืน
Night Mode ของ Samsung Galaxy S21 Ultra 5G ใช้เซ็นเซอร์ Bright Night เวอร์ชั่นใหม่ ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Nona-binning 12MP และการลดจุดรบกวนของภาพ (Noise reduction) ช่วยให้ภาพถ่ายในที่แสงน้อยหรือในยามค่ำคืนออกมาคมชัด ให้สีสันสดใส มีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพภายในห้องที่มีแสงน้อย หรือเก็บภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามในช่วงเวลากลางคืน
โหมดถ่ายภาพบุคคล
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G ได้รับการปรับปรุงโหมดถ่ายภาพบุุคคลให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยใช้ AI มาช่วยในการวิเคราะห์ใบหน้า มุม กับทิศทางของแสง และการทำให้ภาพดูมีมิติ ทำให้ได้ภาพถ่ายบุคคลเหมือนถ่ายในสตูดิโอ พร้อมด้วยฟิลเตอร์ BLUR, STUDIO, HIGH-KEY MONO, LOW-KEY MONO, BACKDROP และ COLOR POINT ช่วยเปลี่ยนฉากหลังตามอารมณ์ที่ต้องการ
ถ่ายวิดีโอ 8K
กล้องหลังของ Samsung Galaxy S21 Ultra 5G สามารถถ่ายวิดีโอในรูปแบบ HDR10+ และรองรับความละเอียดสูงสุด 8K ที่ 24 เฟรมต่อวินาที พร้อมด้วยฟีเจอร์ 8K Video Snap สำหรับเก็บภาพถ่ายความละเอียดสูงสุด 33 ล้านพิกเซล จึงไม่ต้องตัดสินใจเลือกระหว่างการถ่ายวิดีโอหรือภาพนิ่งอีกต่อไป และสามารถอัพโหลดวิดีโอ 8K ลงบน YouTube ได้โดยตรง แต่ก่อนอัพโหลด ยังสามารถตัดต่อเพิ่มเติมได้ในแอพ Gallery และถ้ามีปากกา S Pen ก็ช่วยให้การตัดต่อเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น
การถ่ายวิดีโอยังมาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว Super Steady ให้ภาพเคลื่อนไหวราบรื่น โดยใช้ AI ช่วยกำจัดอาการสั่นไหวต่างๆ เหมือนกับกับใช้กิมบอลถ่ายขณะเคลื่อนที่ และยังมีโหมด Super Smooth 60fps Video ให้เฟรมเรทราบรื่นแม้จะถ่ายวิดีโอในภาวะแสงน้อยก็ตาม โดยจะปรับ fps ให้อัตโนมัติ เพื่อให้วิดีโอของสวยงามอยู่เสมอในทุกสภาพแสง
ตัวอย่างภาพถ่าย
ประสิทธิภาพ
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด Exynos 2100 ถูกสร้างขึ้นด้วยกระบวนการ 5nm EUV ประกอบด้วยซีพียู 2.9GHz Single-core (Cortex-X1) + 2.8GHz Triple-core (Cortex-A78) + 2.2GHz Quad-core (Cortex-A55) ให้ประสิทธิภาพ single-core เพิ่มขึ้น 19% ประสิทธิภาพ multi-core เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นก่อน
ชิปประมวลผล Exynos 2100 ประกอบด้วยจีพียู Mali-G78 MP14 ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน พร้อมด้วย NPU แบบ 3-core สำหรับประมวลผลด้าน AI ที่เร็วกว่ารุ่นก่อน 2 เท่า และยังใช้พลังงานแบตเตอรี่ที่น้อยลงกว่าเดิมถึง 20%
Exynos 2100 ยังมีชิปโมเด็ม 5G ในตัว สนับสนุน 5G mmWave 7.35Gbps (DL) / 3.67 Gbps (UL), 5G Sub-6GHz 5.1Gbps (DL) / 1.92 Gbps (UL) รวมถึง 4G LTE Cat.24 8CA 3Gbps (DL) / Cat.18 4CA 422Mbps (UL)
ด้านความจำ Samsung Galaxy S21 Ultra 5G ให้ RAM สูงถึง 16GB จับคู่กับ ROM 512GB จึงเก็บข้อมูลได้อย่างจุใจ ถึงแม้จะไม่มีช่องใส่การ์ด microSD มาให้ก็ตาม และยังมีอีก 2 ตัวเลือก ได้แก่ RAM 12GB + ROM 128GB และ RAM 12GB + ROM 256GB
แบตเตอรี่
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ให้อายุการใช้งานยาวนานตลอดทั้งวันพลังงานยังเหลือเฟือ และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 25W Super Fast Charging สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้มากกว่า 50% ในเวลาเพียง 30 นาที แต่ไม่ได้แถม Power Adapter มาให้ในกล่อง
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G ยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย Fast Wireless Charging 2.0 สูงสุด 15W และ Wireless PowerShare ชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ เพียงนำอุปกรณ์นั้นมาวางบนด้านหลัง Galaxy S21 Ultra 5G ไม่ว่าจะเป็นหูฟังไร้สาย สมาร์ทวอทช์ สมาร์ทโฟน โดยอุปกรณ์เหล่านี้ ต้องรองรับเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายของ Qi
Ultra Wideband
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G รองรับเทคโนโลยี Ultra Wideband (UWB) ซึ่งในอนาคต จะสามารถใช้สมาร์ทโฟนปลดล็อคประตูรถยนต์แทนกุญแจได้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้งานได้กับรถยนต์บางรุ่นที่ผลิตในปี 2022 เป็นต้นไป แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยี Ultra Wideband สามารถใช้งานได้แล้วกับฟีเจอร์ AR Finder สำหรับเขียนข้อความเสมือนจริง (Virtual message) เมื่อต้องการขอความช่วยเหลือจากผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Samsung เพื่อค้นหาสิ่งของที่หายไป
ปัจจุบัน AR Finder รองรับการทำงานระหว่างอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี Ultra Wideband (UWB) ซึ่งมีอยู่ในสมาร์ทโฟน Galaxy S21 Ultra, Galaxy S21 Plus , Galaxy Note 20 Ultra 5G และ Galaxy Z Fold 2
สรุป
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดใน Galaxy S21 Series 5G โดยมีความสามารถด้านการถ่ายภาพที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน อีกทั้งยังเป็นรุ่นเดียวใน Series เดียวกันที่สนับสนุนการใช้งานร่วมกับปากกา S Pen ช่วยให้การใช้งานด้านตัดต่อภาพหรือวิดีโอสะดวกขึ้น รวมไปถึงรองรับการวาดเขียน จดบันทึกได้แบบสมาร์ทโฟน Galaxy Note Series
จึงทำให้ Galaxy S21 Ultra 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะสำหรับนักสร้างคอนเท้นต์ โดยเฉพาะผู้ใช้งานที่เป็น Vlog สามารถใช้ Galaxy S21 Ultra 5G ถ่ายวิดีโอ 8K แล้วตัดต่อก่อนอัพโหลดลง YouTube ได้โดยตรง เรียกได้ว่าทำงานตั้งแต่ต้นจนจบในเครื่องเดียว
ราคา
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Phantom Silver และ Phantom Black แต่ยังมีสีพิเศษ Phantom Titanium, Phantom Navy และ Phantom Brown ที่สั่งซื้อได้ผ่านทางเว็บไซต์ Samsung.com โดยมีราคาแตกต่างกันดังนี้
- RAM 12GB + ROM 128GB ราคา 39,900 บาท
- RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 42,900 บาท
- RAM 16GB + ROM 512GB ราคา 45,900 บาท
ทั้งนี้ สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S21 Series 5G ทุกรุ่น มาพร้อมกับบริการ Samsung Care+ (ซัมซุง แคร์ พลัส) ให้บริการส่งช่างเทคนิคจากศูนย์บริการซ่อมถึงบ้านในพื้นที่ให้บริการที่กำหนดโดย Samsung หรือบริการรับ-ส่ง เครื่องซ่อมในกรณีอยู่นอกพื้นที่ให้บริการหรือมีการเปลี่ยนอะไหล่ รวมถึงครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ หน้าจอแตก และความเสียหายที่เกิดจากของเหลวเป็นระยะเวลา 1 ปี