สมาร์ทโฟนปัจจุบันนั้นมีหลากหลายราคาให้ได้เลือกซื้อ เพื่อที่สามารถจะเข้าถึงได้กับทุกคน สำหรับคนที่ทุนหนาก็จะไปเล่น iPhone หรือ Samsung Galaxy S21 แต่สำหรับคนทุนน้อยก็มีสมาร์ทโฟนราคาเบากระเป๋าให้ได้เลือกซื้อที่ราคาเริ่มเพียง 1 พันบาทเท่านั้น
สมาร์ทโฟนนั้นมาพร้อมกับกล้องในตัวที่ถูกพัฒนาขึ้นทุกวัน ทำให้ความต้องการกล้องแบบดิจิทัลนั้นลดลงสำหรับคนที่เป็นมือโปรในด้านการถ่ายภาพและบุคคลที่ไม่ได้ต้องการถ่ายภาพแบบคมกริบชัดเจน พวกเขาเลยเลือกกล้องบนสมาร์ทโฟนมากกว่า ทำให้ยอดขายกล้องแบบดิจิทัลนั้นลดลงมากตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมาและหวังว่ากล้อง Mirrorless จะเข้ามาช่วยในจุดนี้
ซึ่งความเป็นจริงเราไม่สามารถที่จะนำกล้องบนสมาร์ทโฟนมาเทียบกับกล้องดิจิทัลได้ แต่การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของกล้องสมาร์ทโฟนทำให้คุณภาพของรูปที่ออกมานั้นแตกต่างเพียงรายละเอียดบางส่วนเท่านั้น สำหรับผู้ใช้ทั่วไปอาจจะมองไม่ออกและไม่สามารถที่จะแยกแยะได้
โดยในปี 2007 เป็นยุคที่กล้องดิจิทัลขายดีเป็นอย่างและสมาร์ทโฟนเพิ่งจะเปิดตัว ต่อมาจนปี 2010 นั้นเป็นยุครุ่งเรืองของกล้องดิจิทัลอย่างแท้จริง โดยขายไปได้ถึง 121.5 ล้านหน่วย
แต่สมาร์ทโฟนก็เริ่มที่จะใส่พิกเซลมามากขึ้น และมีเลนส์ที่ดีขึ้นตามลำดับ ทำให้พัฒนาในส่วนของความตื้นลึก ความชัดเจนและประสิทธิภาพได้เป็นอย่างมาก ถึงแม้สภาพรอบข้างนั้นจะมืดทึบ
การพัฒนานี้ทำให้วงการกล้องดิจิทัลเริ่มที่จะสั่นคลอน ยอดขายตกลงเรื่อยๆ จนถึงปี 2019 ที่สุดท้ายมียอดขายเพียง 15.2 ล้านหน่วย นับเป็นเปอร์เซ็นแล้วถือว่าลดลงไปถึง 87% อีกทั้งการมาของโรค COVID-19 ทำให้ยิ่งตกต่ำลงโดยในปี 2020 ขายได้เพียง 8.9 ล้านหน่วยเท่านั้น
แต่กับสมาร์ทโฟนที่นับวันยิ่งขายดีขึ้นและมีรุ่นราคาย่อมเยามากขึ้น อีกทั้งกล้องนั้นได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงฐานลูกค้าที่ไม่ได้ต้องการกล้องที่เลิศเลอขนาดถ่ายได้คมกริบ ไม่ได้รู้เรื่องการปรับ ISO และปัจจัยที่ทำให้ภาพสวยแบบขั้นโปร ลูกค้าเหล่านี้เพียงต้องการอุปกรณ์ที่สามารถใข้งานได้เท่านั้น
ชาร์ทนี้แสดงถึงยอดขายกล้องดิจิทัลและยอดขาย iPhone ตั้งแต่ปี 2003 โดยเห็นได้ชัดว่าตั้งแต่ปี 2011 นั้นยอดขายนั้นสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง ทำให้อนาคตของกล้อง Digital นั้นดูจะมืดมน ต้องมาติดตามว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
ที่มา – techarena