สมาร์ทวอชท์ Samsung Galaxy Watch 3 ได้รับการเปิดตัวพร้อมกับสมาร์ทโฟนเรือธง Galaxy Note 20 series เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยไปเรียบร้อยแล้วมีให้เลือก 2 ขนาดคือ 41 มม. และ 45 มม. ส่วนจะมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจบ้าง? ทีมงาน @flashfly พร้อมแล้วที่จะรีวิวให้ชมกัน
สเปกหลักของ Samsung Galaxy Watch 3
- จอแสดงผล ขนาด 1.4 นิ้ว สำหรับรุ่น 45 มม. หรือ 1.2 นิ้ว สำหรับรุ่น 41 มม.
- ชิปประมวลผล Exynos 9110 Dual-Core 1.15GHz
- ความจำ RAM 1GB + ROM 8GB
- ระบบปฏิบัติการ Wearable OS 5.5 บนพื้นฐาน Tizen
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0, Wi-Fi (b/g/n), NFC (มีรุ่นรองรับ LTE ให้เลือกด้วย)
- ระบบนำทาง GPS/GLONASS/Beidou/Galileo
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Barometer, Gyro sensor, Light Sensor, Optical Heart Rate Sensor, Electrical Heart Rate Sensor
- แบตเตอรี่ 340mAh สำหรับรุ่น 45 มม. หรือ 247mAh สำหรับรุ่น 41 มม.
- รองรับการชาร์จแบบไร้สาย
- ขนาดตัวเรือน 45 x 46.2 x 11.1 มม. สำหรับรุ่น 45 มม. หรือ 41 x 46.2 x 11.1 มม. สำหรับรุ่น 41 มม.
- สนับสนุนการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Android 5.0 ขึ้นไป ที่มี RAM อย่างน้อย 1.5GB และ iOS 9.0 ขึ้นไป
ดีไซน์หรูหราสุดคลาสสิค
Samsung Galaxy Watch 3 ได้รับการออกแบบมาอย่างหรูหรา เหมือนนาฬิกาข้อมือระดับพรีเมี่ยม เพิ่มความโดดเด่นให้กับข้อมือของผู้สวมใส่ มาพร้อมตัวเรือนสแตนเลส สายหนังแท้ ทั้งขนาด 41 มม. และ 45 มม. ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Bluetooth หรือ Bluetooth + LTE ก็มีให้เลือก 3 สี เช่นเดียวกัน ได้แก่ Mystic Silver, Mystic Black และ Mystic Bronze ซึ่งเป็นเฉดสีที่เข้ากับ Galaxy Note 20 series
Samsung Galaxy Watch 3 มาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED ความละเอียด 360 x 360 พิกเซล ให้สีสันคมชัดแม้อยู่นอกอาคาร รองรับฟีเจอร์ Always-on Display ป้องกันรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass DX
จอแสดงผลของ Samsung Galaxy Watch 3 เป็นระบบสัมผัส สามารถควบคุมทุกฟังก์ชั่นผ่านการปัดและแตะหน้าจอ นอกจากนี้ ขอบตัวเรือน ยังออกแบบมาให้สามารถหมุนเพื่อควบคุมหรือนำทางหน้าจอได้ เพิ่มความสะดวกมากขึ้น
ผู้ใช้งาน Samsung Galaxy Watch 3 สามารถสร้างหน้าปัดได้ด้วยตัวเอง หรือ ดาวน์โหลดได้จาก Galaxy Store ที่มีให้เลือกกว่า 80,000 รูปแบบ และยังสามารถปรับแต่งการแสดงผลหน้าจอได้มากถึง 40 แบบ
ด้านข้างตัวเรือนมีปุ่มกด 2 ปุ่ม โดยปุ่มบนเรียกว่าปุ่ม Back ใช้กดเพื่อย้อนกลับ ส่วนปุ่มล่างเรียกว่าปุ่ม Home ใช้กดเพื่อกลับสู่หน้าจอโฮม หรือถ้าอยู่หน้าจอโฮมอยู่แล้ว สามารถกดเพื่อเข้าสู่หน้าจอที่แสดงแอพทั้งหมด
ปุ่ม Home ยังสามารถตั้งค่าให้กด 2 ครั้ง เพื่อเปิดแอพหรือฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อย หรือ กดค้างไว้เพื่อเรียก Bixby นอกจากนี้ ยังใช้เป็นปุ่มเปิดสมาร์ทวอชท์เมื่อกดค้างไว้ โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าไปตั้งค่าปุ่ม Home สำหรับการกด 2 ครั้ง หรือ กดค้าง เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ที่ต้องการได้ที่ การตั้งค่า > ขั้นสูง > ปุ่มหน้าหลัก > กดสองครั้ง หรือ กดค้าง
ด้านหลังติดตั้งเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคอลไว้ตรงกลาง และซ่อนไมโครโฟนกับช่องระบายแรงดันไว้ตามขอบ
นอกจากดีไซน์ที่หรูหรา Samsung Galaxy Watch 3 ยังออกแบบมาให้มีความทนทานเป็นพิเศษ ป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IP68 และ 5ATM สามารถสวมใส่ลงสระว่ายน้ำได้ รวมถึงทนต่อแรงสั่นสะเทือนตามมาตรฐาน MIL-STD 810G
ตรวจสุขภาพอย่างละเอียด
Samsung Galaxy Watch 3 มาพร้อมฟีเจอร์ดูแลสุขภาพของผู้สวมใส่อย่างละเอียด สมกับสโลแกน “สมาร์ทวอทช์ที่ก้าวล้ำไปอีกขั้น แจ้งเตือนสุขภาพคุณในทุกที่” โดยเป็นสมาร์ทวอชท์รุ่นแรกของโลกที่ที่สามารถวัดความดันโลหิตทั้ง Systolic/Diastolic, การวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) และ ออกซิเจนในกระแสเลือด (SpO2) ได้ด้วยตัวเอง
รวมถึงฟังก์ชั่นตรวจวัดสุขภาพมาตรฐานไม่ว่าจะเป็น อัตราการเต้นหัวใจ, ความเครียด, คุณภาพในการนอนหลับ, ติดตามรอบเดือน และ ตรวจจับการล้ม อีกทั้งยังมีระบบวิเคราะห์การออกกำลังกายด้วย Exercise Analysis รวมไปถึง Fitness Program ที่ช่วยให้ผู้สวมใส่ออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น
**ทั้งนี้ ฟีเจอร์ ECG และ SpO2 ต้องรอการอนุมัติจากหน่วยงานด้านสาธารณสุข จึงจะเปิดให้ใช้งานได้
ติดตามการออกกำลังกายอัตโนมัติ
Samsung Galaxy Watch 3 มีระบบติดตามการออกกำลังกายอัตโนมัติ โดยจะเริ่มทำงานหลังจากออกกำลังกายไปแล้วประมาณ 10 นาที และยังฟีมีเจอร์คอยแจ้งเตือนหรือกระตุ้นให้ผู้สวมใส่ลุกมาขยับร่างกาย ถ้าหากสมาร์ทวอชท์พบว่านั่งนานเกิน 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่น Exercise Analysis ช่วยวิเคราะห์คุณภาพการออกกำลังกาย เพื่อช่วยปรับปรุงการออกกำลังกายให้ดีขึ้น และป้องกันการบาดเจ็บถ้าหากออกกำลังกายผิดวิธี
Samsung Galaxy Watch 3 ยังมีฟีเจอร์ช่วยออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรันนิ่งโค้ช (วิ่งพร้อมผู้ฝึกสอนส่วนตัว), บริหารกล้ามเนื้อแขน, วิ่ง, เดิน, ขี่จักรยาน, เดินทางไกล, ว่ายน้ำ รวมถึงการออกกำลังกายกับเครื่องออกกำลังกายต่างๆ
ออกกำลังกายที่บ้านได้สนุกขึ้น
ถ้าหากสภาพอากาศข้างนอกไม่เอื้ออำนวย เจ้าของ Samsung Galaxy Watch 3 ก็สามารถออกกำลังกายในบ้านได้อย่างสนุก ด้วยโปรแกรมสอนออกกำลังกายมากกวา 120 โปรแกรม ที่ให้ผู้สวมใส่ทำตามได้ง่ายๆ โดยเลือกโปรแกรมการออกกำลังกายในสมาร์ทโฟนที่จับคู่กับ Galaxy Watch 3 แล้วส่งภาพฉายขึ้นจอทีวี ซึ่งจะแสดงอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ขณะออกกำลังกายด้วย
ทั้งนี้ โปรแกรมสอนออกกำลังกาย จะต้องใช้แอพ SmartThings ของ Samsung และจำเป็นต้องใช้การเชื่อมต่อ Bluetooth
ติดตามการนอนหลับ
Samsung Galaxy Watch 3 สามารถสวมใส่ก่อนเข้านอนได้ เพื่อวัดคุณภาพในการนอนหลับ ทั้งในช่วงของวงจร REM หรือช่วงหลับฝัน, เวลาในการหลับลึก และเวลารวมของการนอนหลับ จากนั้นจะประเมินผลเป็นคะแนน เพื่อให้ผู้สวมใส่ดูพัฒนาการของการนอนหลับในแต่ละคืนที่ผ่านมาได้อย่างชัดเจน โดยสามารถดูคะแนนได้จากสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกันผ่านแอพ Galaxy Wearable
เป็นอิสระจากสมาร์ทโฟน
Samsung Galaxy Watch 3 สามารถใช้งานได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องพกพาสมาร์ทโฟนติดตัวไปด้วยตลอดเวลา และเพื่อไม่ให้พลาดการติดต่อ ผู้สวมใส่สามารถตอบกลับข้อความที่ส่งเข้ามาได้ทันที ด้วยระบบตอบกลับอัจฉริยะ หรือ Smart Reply ที่จะวิเคราะห์ข้อความที่ส่งมาพร้อมกับแนะนำคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับข้อความนั้นๆ โดยรองรับข้อความตอบกลับภาษาไทยด้วย ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกมากขึ้น เนื่องจากตอนนี้ Galaxy Watch 3 ยังไม่สามารถพิมพ์ภาษาไทยเพื่อตอบกลับข้อความได้
นอกจากระบบตอบกลับอัจฉริยะ Galaxy Watch 3 ยังมีรูปภาพอิโมจิให้ส่งทางข้อความด้วย และมีให้เลือกหลายหมวดหมู่ หรือ ถ้าใครถนัดใช้ภาษาอังกฤษ ก็สามารถใช้คำสั่งเสียงพูดเป็นภาษาอังกฤษแล้วแปลงเป็นข้อความได้ทันที
สำหรับการโทรผ่าน Samsung Galaxy Watch 3 สามารถทำการโทรได้ทันที เพราะมีไมโครโฟนกับลำโพงมาให้ในตัว หรือ จะต่อหูฟัง Bluetooth ก็จะช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวได้ดีกว่า
ใช้งานยาวนาน 2 วัน
Samsung Galaxy Watch 3 สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 2 วันเต็ม ซึ่งภายในกล่องจะมีอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย มีแม่เหล็กช่วยยึดเกาะมาให้เพียงเส้นเดียว สามารถเชื่อมต่อกับ Samsung Galaxy Watch 3 ได้อย่างสะดวก เพียงแค่แปะด้านหลังของสมาร์ทวอชท์ลงไป และนำพอร์ต USB ไปเสียบกับแหล่งจ่ายไฟก็พร้อมชาร์จทันที
สำหรับผู้ใช้งานที่มีสมาร์ทโฟนและรองรับฟีเจอร์ Wireless PowerShare ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับ Samsung Galaxy Watch 3 ได้เช่นกัน เพียงวางสมาร์ทวอชท์ไว้บนด้านหลังของสมาร์ทโฟน
สรุป
Samsung Galaxy Watch 3 เป็นสมาร์ทวอชท์ที่มีดีไซน์หรูหรา แต่มาพร้อมฟีเจอร์ติดตามสุขภาพแบบครบครันทั้งการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG), ออกซิเจนในเลือด (SpO2), ตรวจจับการล้ม, วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ติดตามคุณภาพการนอนหลับ รวมถึงฟีเจอร์ติดตามการออกกำลัง และการทำกิจกรรมตลอดทั้งวัน
Samsung Galaxy Watch 3 ยังรองรับการแจ้งเตือนจากแอพต่างๆ ของสมาร์ทโฟน หรือจะใช้ฟังก์ชั่นการโทรก็ทำได้อย่างอิสระ เมื่อใช้รุ่น Bluetooth + LTE แต่รุ่น Bluetooth ก็สามารถโทรออกหรือรับสายได้เช่นกัน หากอยู่ในรัศมีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน 2 วัน
ราคา
Samsung Galaxy Watch 3 พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว โดยมีให้เลือก 5 รุ่น ได้แก่
- Samsung Galaxy Watch 3 ตัวเรือน 41 มม. Bluetooth ราคา 12,900 บาท
- Samsung Galaxy Watch 3 ตัวเรือน 41 มม. LTE ราคาปกติ 15,900 บาท ลดเหลือ 13,900 บาท
- Samsung Galaxy Watch 3 ตัวเรือน 45 มม. LTE ราคาปกติ 16,900 บาท ลดเหลือ 14,900 บาท
ทั้ง 2 รุ่น มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Mystic Bronze, Mystic Silver และ Mystic Black ตัวเรือนสแตนเลส จับคู่กับสายหนังแท้ นอกจากนี้ ขนาด 45 มม. ยังมีรุ่นพิเศษ Galaxy Watch 3 Titanium Edition ราคา 21,900 บาท มีเฉพาะสี Mystic Black ตัวเรือนไทเทเนียม พร้อมสายโลหะ