หลังจากทีมงาน @flashfly แกะกล่องพร้อมพรีวิว realme X7 Pro 5G ให้ได้ชมกันไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะพาไปสำรวจสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดของ realme ให้มากขึ้น โดย realme X7 Pro 5G มาพร้อมสโลแกน “ดีไซน์บางเบา เรือธงทรงพลัง” ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าจับตามองอย่างมากในช่วงท้ายปี 2563 เนื่องจากอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ มาอย่างครบครัน ส่วนจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง เลื่อนลงมาชมรีวิวกันได้เลย
สเปกหลัก
- รองรับ 5G แบบ 2 ซิมการ์ด Dual-SIM Dual Standby
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.0, NFC, USB Type-C
- จอแสดงผล Super AMOLED อัตราการรีเฟรช 120Hz
- กล้องหน้า 32MP In-Display Selfie Camera
- กล้องหลัง 64MP AI Quad Camera
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 1000+
- มีเทคโนโลยีระบายความร้อน
- ความจำ RAM 8GB + ROM 128GB
- ลำโพงคู่ พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos
- ระบบมอเตอร์ Super Vibrated Tactile Engine
- ระบบปฏิบัติการ realme UI บนพื้นฐาน Android 10
- เซ็นเซอร์ Magnetic induction sensor, Light sensor, Proximity sensor, Gyro-meter, Acceleration sensor
- ระบบนำทาง GPS, Glonass, Beidou, Galileo, QZSS
- แบตเตอรี่ 4500mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge
- ขนาดบอดี้ 160.8 x 75.2 x 8.5 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 184 กรัม
ดีไซน์บางเบา
realme X7 Pro 5G ได้รับการออกแบบมาให้มีดีไซน์บางเป็นพิเศษ และน้ำหนักเบา เพื่อให้พกพาได้อย่างสบายมือ โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 184 กรัม ขณะที่ส่วนขอบด้านข้างก็มีความบางเพียง 8.5 มิลลิเมตร ถึงแม้จะไม่ใช่สมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในตลาด แต่ realme X7 Pro 5G ก็มีความบางกว่าที่ควรจะเป็น เพราะได้รับการออกแบบหน้าจอใหม่ให้บางลง 29.4% ส่วนหนึ่งมาจากเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ที่บางลงกว่าเดิมถึง 91%
ในประเทศไทย realme X7 Pro 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Aerolite Black (โทนสีเข้ม) และ Iridescent (ดีไซน์ไล่ระดับสี) แต่ละสีใช้เทคนิคการผลิตแตกต่างกัน
Aerolite Black ใช้พื้นผิวเลนส์นูนระดับไฮเอนด์ ผ่านแกะสลักเส้นพื้นผิวระดับไมครอนด้วยเครื่องจักรที่ดีที่สุด ทำให้เกิดเอฟเฟกต์เลเยอร์ตรงกลางที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเอฟเฟกต์สามเหลี่ยมบริเวณขอบตัวเครื่อง
Iridescent หรือสีรุ้งใช้กระบวนการผลิตที่เรียกว่า Double-Grain, Double-Pated และ Anti-Glare Glass อย่างแรกพื้นผิวที่แตกต่างกันสองแบบจะถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างพื้นผิวหลายชั้น จากนั้นหุ้มด้วยสารเคลือบสองชั้น เพื่อให้เกิดการไหลเวียนของสี ทำให้โดดเด่นมากขึ้น และในขั้นตอนสุดท้าย ใช้เทคโนโลยี AG เพื่อปรับปรุงพื้นผิวสัมผัสตัวเครื่อง
สำหรับสี Iridescent ถือว่ามีความพิเศษที่สุดของ realme X7 Pro 5G เพราะนอกจากจะใช้เทคนิคไล่ระดับสีอย่างสวยงามแล้ว ยังมีการสลักสโลแกน DARE TO LEAP ของ realme ขนาดใหญ่ไว้ที่ด้านหลังด้วย
realme X7 Pro 5G มาพร้อมจอแสดงผล Full HD+ AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรช 120Hz พร้อมเจาะหลุมไว้ที่มุมบน สำหรับวางกล้องเซลฟี่ และยังติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอด้วย
พื้นที่ขอบจอมีความบางเฉียบ โดยเฉพาะกรอบด้านล่างของหน้าจอ OLED มีความบางลดลง 10% เนื่องจาก realme ได้นำกระบวนการบรรจุ COP แบบใหม่มาใช้
กล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ติดตั้งไว้ในหลุมที่มุมบนหน้าจอ ซึ่งได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 จึงสามารถป้องกันเลนส์แตก กรณีเผลอทำสมาร์ทโฟนตกหล่น
ลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา ซ่อนอยู่ในตะแกรง ซึ่งถูกวางไว้เหนือจอแสดงผล สุดขอบด้านบน
ด้านหลังวางโลโก้ realme ในแนวตั้ง เนื่องจากการใช้งานสมาร์ทโฟนในยุคปัจจุบันถูกออกแบบมาให้ใช้งานในแนวนอนเสียส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะ ดูหนัง เล่นเกม หรือ ใช้งานกล้อง ซึ่งกล้องหลังของ realme X7 Pro 5G ก็ติดตั้งมาให้ 4 ตัว พร้อมแฟลช LED วางรวมกันในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีขอบมุมโค้งมน
ขอบด้านข้างมีความบาง 8.5 มิลลิเมตร ติดตั้งปุ่มปรับระดับเสียงไว้ทางซ้ายมือ หรือ ทางขวาของจอแสดงผล
ปุ่มเพาเวอร์ถูกวางแยกไว้ที่ด้าน โดยมีเส้นสีเหลืองบนปุ่มเป็นจุดสังเกต
ด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง
ด้านล่างจะพบกับถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 5G ทั้ง 2 ซิม (Dual Nano-SIM) แต่ไม่รองรับการ์ด MicroSD ถัดมาเป็นรูไมโครโฟน, ช่องต่อ USB Type-C และ ตะแกรงลำโพง
เช่นเดียวกับเรือธงหลายรุ่นในตลาด realme X7 Pro 5G ไม่มีช่องต่อหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร แต่ภายในกล่องก็แถม Adapter หรือตัวแปลงมาให้ สำหรับแปลง USB Type-C ให้รองรับแจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
หน้าจอ Super AMOLED รีเฟซ 120Hz
realme X7 Pro 5G มาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.55 นิ้ว ให้อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 91.6% รองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 120Hz ตอบสนองการสัมผัสหน้าจอได้อย่างลื่นไหล ให้ประสบการในการเล่นเกมและรับชมวิดีโอ ดีกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปที่ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 60Hz และยังมีอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอ 240Hz
จอแสดงผลของ realme X7 Pro 5G ใช้วัสดุเรืองแสง E3 ซึ่งสว่างกว่าวัสดุ E2 ถึง 30% มีการปรับความสว่าง 4096 ระดับ โดยความสว่างจะถูกปรับโดยอัตโนมัติภายใต้สภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน เพื่อให้การแสดงผลชัดเจนและคมชัดขึ้น
จอแสดงผลของ realme X7 Pro 5G ให้ความสว่างสูงสุดถึง 1,200 นิต สนับสนุนขอบเขตสี 100% DCI-P3, 103% NTSC และมีอัตราความคมชัด 6,000,000:1
นอกจากความคมชัด จอแสดงผลของ realme X7 Pro 5G ยังออกแบบมาเพื่อปกป้องดวงตาของผู้ใช้งาน ด้วยโหมดป้องกันดวงตา รวมถึงฟังก์ชั่นลดแสงเหมือน DC และป้องกันแสงสโตรโบสโคปความสว่างต่ำ ขณะที่ตัวหน้าจอก็ได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
ด้วยเทคโนโลยี Super AMOLED ทำให้จอแสดงผลของ realme X7 Pro 5G รองรับฟีเจอร์ Always On Display แสดงเวลา วันที่ ระดับแบตเตอรี่ รวมถึงระบุตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจออยู่ตลอดเวลา จึงสามารถปลดล็อคสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
กล้องหลัง 4 ตัว 64 ล้านพิกเซล
realme X7 Pro 5G มาพร้อมระบบกล้องหลัง 4 ตัว 64MP AI Quad Camera ประกอบด้วยกล้องตัวหลัก 64 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ของ Sony IMX686 ส่วนกล้องอีก 3 ตัว มีส่วนช่วยในการถ่ายภาพมุมกว้าง ภาพบุคคล และ ภาพใกล้วัตถุ โดยกล้องทั้ง 4 ตัว มีรายละเอียดแตกต่างกันดังนี้
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 ระบบเลนส์ 6P ใช้เซ็นเซอร์ของ Sony IMX686
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.25 มุมมองกว้าง 119 องศา
- กล้อง B&W Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 รองรับการถ่ายภาพในระยะใกล้เพียง 4 เซนติเมตร
realme X7 Pro 5G รองรับการถ่ายภาพในความละเอียดสูงด้วยโหมด Pro 64MP Mode สามารถปรับค่ากล้องได้เอง ไม่ว่าจะเป็นความเร็วชัตเตอร์, ความไวแสง ISO, สมดุลสีขาว และ รองรับการเปิดรับแสงนานสูงสุด 32 วินาที เหมาะสำหรับการถ่ายรูปในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย เพื่อเก็บครบทุกรายละเอียด
ออกไปเก็บภาพบรรยากาศยามค่ำคืนในช่วงเทศกาลวันคริสมาสต์ตลอดจนวันขึ้นปีใหม่ ด้วย Super Nightscape 4.0 โซลูชั่นใหม่สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืน โดยแยกความแตกต่างออกเป็น 4 โหมด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น เพียงเปิดโหมด Nightscape แล้วกดชัตเตอร์ ก็ได้ภาพถ่ายในเวลากลางคืนออกมาสวยงามแล้ว
โหมด Ultra Nightscape รองรับการถ่ายภาพในที่มืดอย่างชาญฉลาด สามารถรวบรวมแสงในสภาพแวดล้อมที่มืดมาก เพื่อให้มองเห็นรายละเอียดอย่างชัดเจน โหมดขาตั้งกล้อง Tripod Mode สามารถตั้งเวลาเปิดรับแสงให้ยาวนานเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยให้ออกมาสวยงามมากยิ่งขึ้น
โหมด Pro Nightscape เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับมืออาชีพ สามารถสังเคราะห์หลายเฟรม ทำให้การถ่ายภาพกลางคืนมีคุณภาพดีที่สุด นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เช่น การวาดภาพด้วยแสง เป็นต้น
โหมดถ่ายภาพมุมกว้าง Ultra-wide Angle ของ realme X7 Pro 5G มาพร้อมฟังก์ชั่น Portrait Distortion Correction ป้องกันการบิดเบือนของใบหน้า เมื่อพบใบหน้าปรากฏตามขอบเฟรม รูปทรงของใบหน้าจะถูกปรับให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ทำให้การถ่ายภาพบุคคลมุมกว้างดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะการถ่ายภาพหมู่
นอกจากนี้ ยังมีโหมด Chroma Boost ช่วยทำให้ภาพมีเลเยอร์มากขึ้น และดูมีชีวิตชีวา ด้วยการเพิ่มสีให้เสมือนจริงมากที่สุด, AI Scene Recognition สามารถระบุสิ่งที่ต้องการถ่ายภาพ เพื่อปรับค่ากล้องให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ, Bokeh Effect Control ควบคุมความเบลอของฉากหลังได้, AI Beauty สำหรับถ่ายภาพใบหน้าให้ดูดีขึ้นอย่างธรรมชาติ และยังมีฟิลเตอร์ช่วยเปลี่ยนโทนสีหรืออารมณ์ของภาพถ่าย
กล้องหลังของ realme X7 Pro 5G สามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที และรองรับการบันทึกในโหมด Slow Motion ความละเอียด 1080p ที่ 120 เฟรมต่อวินาที การถ่ายวิดีโอในเวลากลางคืนก็ได้รับการปรับปรุงด้วย Ultra Nightscape Video ช่วยเพิ่มความสว่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ 46% สามารถถ่ายวิดีโอในเวลากลางคืน ที่ความละเอียด 1080p ด้วยอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที ได้อย่างราบรื่น และยังใช้อัลกอริทึมมาช่วยวิเคราะห์ฉากหลังแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ประสิทธิภาพของสีบนหน้าจอสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานมากขึ้น
เพิ่มความสนุกให้กับการถ่ายวิดีโอด้วย AI Color Portrait Video สามารถแยกฉากหลังออกจากตัวบุคคล เพื่อเปลี่ยนโทนสีฉากหลังเป็นขาว-ดำแบบเรียลไทม์ แต่ยังคงสีสันให้กับตัวบุคคลที่อยู่เบื้องหน้า
realme X7 Pro 5G สามารถถ่ายวิดีโอด้วยกล้อง Ultra Wide เพื่อให้ได้ภาพในมุมกว้างขึ้น 4 เท่า รองรับ Real-time Bokeh Effect Video สามารถเบลอฉากแบบเรียลไทม์ และ มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว UIS และ UIS MAX Video Stabilization
กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล
realme X7 Pro 5G ติดตั้งกล้องเซลฟี่ ไว้ในหลุมที่มุมบนหน้าจอ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง f/2.45 มุมมองกว้าง 80 องศา มาพร้อมโหมด Beauty ที่ขาดไม่ได้ มีฟิลเตอร์สำหรับเปลี่ยนโทนสีภาพตามอารมณ์ต่างๆ รองรับ HDR เพิ่มความคมชัดเมื่อถ่ายเซลฟี่ย้อนแสง
กล้องหน้าของ realme X7 Pro 5G ยังรองรับการถ่ายภาพในโหมด Portrait พร้อมเอฟเฟต์ Bokeh ละลายฉากหลัง สามารถควบคุมความเบลอได้ อีกทั้งยังมีโหมด Super Nightscape สำหรับถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืน
กล้องหน้าของ realme X7 Pro 5G สามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด Full HD 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที มีโหมด Slow Motion ความละเอียด 1080p ที่ 120 เฟรมต่อวินาที และรองรับโหมด Timelapse
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ประสิทธิภาพเรือธงชิป Dimensity 1000+ ใช้งาน 5G พร้อมกัน 2 ซิม รองรับ Wi-Fi 6
realme X7 Pro 5G ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธง MediaTek Dimensity 1000+ 5G Processor ผลิตด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร ประกอบด้วย CPU แบบ 8-core ความเร็วสูงสุด 2.6GHz พร้อมด้วย GPU – ARM Mali-G77 MC9 สามารถทำคะแนนจากแอพพลิเคชั่น AnTuTu V8.4.5 ได้มากกว่า 540,000 คะแนน
MediaTek Dimensity 1000+ มาพร้อมชิปโมเด็ม 5G ทำให้ realme X7 Pro 5G สนับสนุนการมาตรฐานการสื่อสารมาตรฐานใหม่ล่าสุด และพร้อมใช้งาน 5G ทันทีตั้งแต่แกะกล่อง เพียงใส่ซิมการ์ดที่รองรับระบบ 5G และอยู่ในพื้นที่ให้บริการ และยังสามารถใส่ซิมการ์ด 5G ได้พร้อมกัน 2 ซิม แบบ 5G+5G Dual-SIM Dual Standby
realme X7 Pro 5G รองรับ 5G ครอบคลุมคลื่นความถี่หลักอย่างสมบูรณ์และเสถียร ไม่ว่าจะเป็น 5G NSA n1 / n3 / n5 / n7 / n8 / n20 / n28 / n38 / n40 / n41 / n77 / n78 และ 5G SA n1 / n3 / n41 / n78 / n79 ยังรองรับเทคโนโลยีการตรวจจับสัญญาณเครือข่ายของ MediaTek 5G UltraSave สำหรับจัดการโหมดการทำงานของโมเด็มแบบเรียลไทม์ สามารถปรับโหมดการทำงานและการใช้พลังงานแบบไดนามิก ตามสภาพแวดล้อมเครือข่ายและเงื่อนไขการรับ-ส่งข้อมูล
ไม่เพียงแต่รองรับ 5G ที่เป็นมาตรฐานใหม่ของระบบเซลลูล่าร์ แต่ยังสนับสนุนการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 (802.11ax) ช่วยให้การเชื่อมต่อไร้สายทำงานได้ดีขึ้นแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีผู้ใช้หนาแน่น ช่วยให้ระยะการส่งข้อมูลที่ไกลขึ้น และมีความเร็วในการส่งข้อมูลที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ที่ติดอยู่กับ Wi-Fi 5 (802.11ac)
ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 1000+ ยังเป็นชิป 5G SoC ตัวแรกของ MediaTek ที่รองรับรูปแบบการถอดรหัสวิดีโอ AV1 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสตรีมวิดีโอล่าสุดและทันสมัยที่สุด นอกจากนี้ ยังมีโปรเซสเซอร์ AI ถึง 6 ตัว เพื่อรองรับพลังประมวลผลที่ทรงพลังสูงสุด 4.5 TOPS ตรงตามความต้องการของสมาร์ทโฟนเรือธง มอบความสามารถกล้อง AI ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพและวิดีโอได้อย่างสมบูรณ์แบบในเวลาเดียวกันโดยไม่สูญเสียคุณภาพ
เล่นเกมลื่นไหล
realme X7 Pro 5G รองรับการเล่นเกมได้อย่างสนุกลื่นไหล ด้วยชิปประมวลผลระดับเรือธง MediaTek Dimensity 1000+ 5G และยังมาพร้อมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนให้ทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Hyper Boost 3.0 ทำให้ประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร CPU เพิ่มขึ้นถึง 30% ลดการใช้พลังงานเครื่องถึง 12% ส่งมอบประสบการณ์การเล่นเกมระดับ eSports
Game Space ให้ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม ด้วยการปรับประสิทธิภาพแบบไดนามิก สามารถเปิดใช้งานโหมดห้ามรบกวน เพื่อปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ ทำให้มีสมาธิอยู่กับเกม จึงเล่นเกมได้สนุกพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น
Super Vibrated Tactile Engine ระบบสั่นสะเทือนแบบ 3 มิติ เพิ่มพลังและความรู้สึกด้วยการตอบสนองการสั่นสะเทือน เพื่อให้ทุกการสัมผัสกลายเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริงมากยิ่งขึ้น
ระบบเสียงคุณภาพสูง
realme X7 Pro 5G ตอบสนองความบันเทิงด้วยระบบเสียง Dolby Atmos และรองรับ Hi-Res Audio ซึ่งได้รับการรับรองด้านเอฟเฟกต์เสียงที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้ realme X7 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนเพื่อความบันเทิง เหมาะสำหรับการรับชมภาพยนตร์ ฟังเพลง และทำให้การเกมเล่นเกมมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ปลดล็อคหน้าจอได้รวดเร็ว
realme X7 Pro 5G ซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล โดยใช้เซ็นเซอร์ที่มีความบางกว่ารุ่นก่อนถึง 91% แต่ยังคงให้ความแม่นยำและปลอดภัยในการใช้งาน อีกทั้งยังสแกนลายนิ้วมือได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 350 มิลลิวินาที ตั้งแต่เริ่มสแกนจนปลดล็อคสำเร็จ
นอกจากนี้ ยังรองรับการสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค หรือที่เรียกกันว่า Face Unlock โดยใช้กล้องเซลฟี่ช่วยสแกนใบหน้า
แบตใหญ่ชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charger
realme X7 Pro 5G แถมอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ 65W SuperDart Charger (10V/6.5A) มาให้ในกล่อง สามารถชาร์จแบตขนาดใหญ่ 4500mAh จนเต็ม 100% ในเวลาเพียง 35 นาที ผ่านสายเคเบิล USB Type-C
นอกจากฮาร์ดแวร์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว realme X7 Pro 5G ยังใช้อัลกอริทึมเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ประกอบด้วย VCVT ช่วยควบคุมอุณหภูมิอย่างปลอดภัยในระหว่างกระบวนการชาร์จ และ VFC ช่วยปรับการชาร์จด้วยกระแสต่ำลง เมื่อแบตเตอรี่ใกล้เต็ม เพื่อยืดอายุการใช้
realme X7 Pro 5G รองรับการชาร์จเร็วอย่างปลอดภัย ด้วยการป้องกันที่เข้มงวดถึง 5 ชั้น ครอบคลุมตั้งแต่อุปกรณ์ชาร์จ สมาร์ทโฟน และแบตเตอรี่ที่อยู่ภายใน โดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิหลายตัวในการตรวจสอบขณะชาร์จแบตเตอรี่
ระบบป้องกันความปลอดภัยในระหว่าวชาร์จ 5 ชั้น ประกอบด้วย
- 1. ป้องกันที่ชาร์จจ่ายไฟเกินกำลัง
- 2. ป้องกันในระหว่างชาร์จเร็ว
- 3. ป้องกันการโอเวอร์โหลดอินเทอร์เฟซ
- 4. ป้องกันกระแสไฟเกินและแรงดันไฟฟ้าเกิน
- 5. การป้องกันขณะรวมแบตเตอรี่
ระบบกระจายความร้อน
realme X7 Pro 5G ยังมาพร้อมระบบกระจายความร้อน ประกอบด้วยแผ่น VC ขนาดใหญ่พิเศษ กราไฟท์หลายมิติ การกระจายความร้อนด้วยฟอยล์ทองแดงและวัสดุกระจายความร้อนประสิทธิภาพสูงอื่นๆ ช่วยลดอุณหภูมิแกนกลางให้ต่ำถึง 10 องศาเซลเซียส หมดกังวัลเรื่องของการชาร์จแบตเตอรี่ขณะเล่นเกม
ประหยัดแบต
ด้วยแบตเตอรี่ความจุ 4500mAh แถมอุปกรณ์ชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charger ช่วยให้ realme X7 Pro 5G รองรับการใช้งานได้ยาวนาน และยังเติมพลังกลับไปได้อย่างรวดเร็ว แต่ realme ก็ยังใส่เทคโนโลยีประหยัดพลังงานเข้ามาเสริม เพื่อช่วยให้ realme X7 Pro 5G ใช้งานได้ยาวนานขึ้นไปอีก แม้ระดับแบตเตอรี่เหลือน้อย
เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน Super Power Saving ของ realme X7 Pro 5G ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยลดการใช้พลังงานพร้อมยืดอายุแบตเตอรี่ และเมื่อเปิดโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง ในขณะที่แบตเตอรี่เหลือเพียง 5% สมาร์ทโฟนยังสามารถใช้งานหรือส่งข้อความได้อย่างต่อเนื่องนานเกือบ 90 นาที
เมื่อเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน Power Saving Mode สมาร์ทโฟน realme X7 Pro 5G จะลดความสว่างของหน้าจอ ลดเวลาล็อคหน้าจออัตโนมัติลงเหลือ 15 วินาที และปิดการใช้งานแอพพลิเคชั่นให้หายไปจากหน้าจออย่างสมบูรณ์
realme X7 Pro 5G ยังมีฟีเจอร์ App Quick Freeze ช่วยพักการทำงานของแอพพลิเคชั่นที่ไม่มีการใช้งาน, Sleep Standby ช่วยประหยัดพลังงานของสมาร์ทโฟน ในขณะนอนหลับ
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนฟีเจอร์ OTG Reverse Charge รองรับทำให้ realme X7 Pro 5G สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟนและผลิตภัณฑ์ AIoT อื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น หูฟัง True Wireless, Smart Watch, realme Bands เป็นต้น
realme UI
realme X7 Pro 5G ทำงานบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 10 สวมทับด้วย realme UI ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น ง่ายขึ้น และ สนุกยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และมาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายอย่าง อาทิ…
Focus Mode ช่วยให้ผู้ใช้งานได้ออกจากโลกออนไลน์ เพื่อพักผ่อนสมอง ด้วยการหยุดการทำงานของแอพพลิเคชันที่เลือกไว้ชั่วคราว รวมถึงหยุดการแจ้งเตือน พร้อมเปิดโหมด DND (Do Not Disturb) และเล่นเสียง Ambient Sounds ที่ทำให้อารมณ์ดีขึ้น
3-Finger Selected Screenshot จับภาพหน้าจอด้วยการใช้ 3 นิ้ว แตะค้างไว้ที่หน้าจอ Personal Information Protection ระบบป้องกันข้อมูลส่วนตัว, Dual Mode Music Share สามารถเชื่อมต่อหูฟ้งไร้สายได้พร้อมกัน 2 คู่
Dark Mode เปลี่ยน User Interface เป็นโทนสีเข้ม และสามารถตั้งค่าให้เปิด Dark Mode โดยอัตโนมัติในเวลากลางคืน
นอกจากนี้ realme UI ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ การประมวลผล แบตเตอรี่ และ ประสิทธิภาพการทำงาน
- การประมวลผล: ระยะเวลา App Booting ลงลด 25% ความลื่นไหลเพิ่มขึ้น 20%
- แบตเตอรี่: อายุการใช้งานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 10% และลดการใช้พลังงานเมื่อเปิดสแตนด์บายข้ามคืน 35%
- ประสิทธิภาพการทำงาน: ลดความหน่วงของระบบสัมผัส 35% ให้ประสิทธิภาพการเล่นเกมเพิ่มขึ้น 20%
สรุป
realme X7 Pro 5G มาพร้อมคุณสมบัติหลายอย่างที่สมาร์ทโฟนควรจะมี ทั้งการออกแบบที่สวยงามพรีเมียม จอแสดงผลคมชัดขนาดใหญ่ ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอสูง 120Hz ระบบกล้องที่รองรับการถ่ายภาพในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวันหรือกลางคืน ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ลำโพงให้เสียงที่น่าประทับใจ ประสิทธิภาพก็ตอบสนองการใช้งานได้ลื่นไหล ด้วยชิประดับ 7 นาโนเมตร ให้ความจำ RAM 8GB พร้อม ROM 256GB แบตเตอรี่มีความจุขนาดใหญ่ และยังรองรับชาร์จเร็ว นอกจากนี้ realme X7 Pro 5G ยังเป็นสมาร์ทโฟนที่มีราคาคุ้มค่ากว่า เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด จึงเป็นเรือธงอีกรุ่นที่ควรอยู่ในรายการที่ต้องซื้อ สำหรับใครที่กำลังมองหาของขวัญในช่วงท้ายปีนี้
ราคาและการวางจำหน่าย
realme X7Pro 5G เปิดราคาทางการในประเทศไทยที่ 16,990 บาท แต่สามารถเป็นเจ้าของในราคาเริ่มต้นเพียง 9,990 บาทเท่านั้น สามารถ Pre-Order ได้แล้ววันนี้ พร้อมรับประกันตัวเครื่องนาน 24 เดือน พร้อม VIP Card รับประกันจอแตก 1 ปี และ realme Smart Scale มูลค่า 999 บาท รวมมูลค่า 5,999 บาท และเป็นเจ้าของพร้อมกันวันที่ 21 ธันวาคมนี้
สำหรับตัวแทนจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็น Banana, BKK , Cyborg Kong , Kingkongphone , TGfone , Jaymart , IT City และ CSC สำหรับช่องทางอีคอมเมิช สามารถเป็นเจ้าของได้ผ่านช่องทาง Lazada Shopee Thisshop และ JD CENTRAL มาในราคาเริ่มต้นเพียง 9,990 บาท พิเศษกว่าทุกครั้ง ยังสามารถผ่อน 0% ได้นานสูงสุด 24 เดือน
นอกจากนี้ realme ยังจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษส่งท้ายปีกับ realme month big promotion โดยจะมอบสิทธิพิเศษให้กับทุกท่านที่ซื้อสมาร์ทโฟนเรียลมีตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 10 มกราคม 2564 จะได้สิทธิ์ผ่อน 0% นานสูงสุดถึง 24 เดือน ประกันตัวเครื่องนานสูงสุด 24 เดือน และได้รับของสมนาคุณมากมายอีกด้วย
สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนและผลิตภัณฑ์ AIoT ที่ประสิทธิภาพแรงในราคาที่คุ้มค่าอีกมากมาย สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/realmeTH