ในปี 2020 นี้ Apple ได้ทำการเปิดตัว Apple Watch รุ่นใหม่พร้อมกัน 2 รุ่นเป็นครั้งแรก ได้แก่ Apple Watch Series 6 และ Apple Watch SE รุ่นพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติส่วนใหญ่คล้ายกับ Apple Watch Series 5 ที่เปิดตัวในปีที่แล้ว แต่ Apple เปิดตัวมาในราคาประหยัดกว่าเริ่มต้นเพียง 9,400 บาทเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ Apple Watch SE รุ่น GPS+Cellular ก็มาอยู่บนข้อมือของทีมงาน @flashfly เรียบร้อยแล้ว ตามมาดูกัะนได้เลยว่าจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างเลื่อนลงมาอ่านรีวิวกันได้เลย
สเปกหลัก Apple Watch SE
- จอภาพ LTPO OLED Retina ความสว่าง 1,000 นิต
- SiP รุ่น S5 พร้อมโปรเซสเซอร์แบบ Dual‑core 64 bit, ชิพระบบไร้สาย W3
- ความจุ 32GB
- Digital Crown พร้อมการตอบสนองแบบสั่น
- เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคอล รุ่นที่ 2
- การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจสูงและต่ำ
- ตรวจจับการล้ม, การโทรฉุกเฉินทั่วโลก และ SOS ฉุกเฉิน
- การเชื่อมต่อ 4G LTE, 3G UMTS, Wi‑Fi และ Bluetooth 5.0
- GPS/GNSS, เข็มทิศ และมาตรวัดความสูงแบบทำงานตลอด
- ลำโพงและไมโครโฟนในตัว
- ทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร
- ขนาดตัวเรือน 40 มม. หรือ 44 มม.
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 18 ชั่วโมง
แกะกล่อง Apple Watch SE
กล่องบรรจุภัณฑ์ของ Apple Watch SE ถูกห่อหุ้มด้วยแผ่นพลาสติกมาเป็นอย่างดี โดยมีที่ฉีกออกอย่างง่ายดาย ไม่ต้องเสียเวลาหาของมีคม
Apple Watch SE ถูกเก็บไว้ในกล่องรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีความบางกว่ารุ่นก่อน และเก็บสายนาฬิกาแยกไว้อีกกล่อง โดยทั้ง 2 กล่องถูกห่อรวมไว้เหมือนเป็นกล่องเดียวกัน
ด้านหลังระบุชื่อ SE วัสดุตัวเรือน ประเภทสาย และ ขนาด ซึ่งมีให้เลือกระหว่าง 40 มม. กับ 44 มม.
กล่อง Apple Watch SE และกล่องเก็บสายนาฬิกา ถูกห่อรวมไว้ในแผ่นกระดาษสีขาว ด้านหน้าพิมพ์โลโก้ Apple ตามด้วยชื่อ Watch
เมื่อแกะแผ่นกระดาษออก จะพบว่ามีกล่องบรรจุภัณฑ์ 2 กล่อง กล่องบนสำหรับเก็บ Apple Watch SE และกล่องล่างสำหรับเก็บสายนาฬิกา
หลังจากแกะกล่อง Apple Watch SE จะพบว่าตัวเรือนถูกห่อหุ้มด้วยซองกระดาษ วางอยู่ข้างซองเอกสาร ซึ่งภายในมีแผ่นพับแนะนำการใช้งานเบื้องต้น รวมถึงเอกสารเกี่ยวกับการรับประกัน
ข้างใต้มีสายชาร์จแบบแม่เหล็ก ความยาว 1 เมตร แต่ไม่มีอะแดปเตอร์จ่ายไฟมาให้แล้ว ซึ่ง Apple Watch Series 6 ก็ไม่ได้รับเช่นกัน เนื่องจาก Apple ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับกล่องสาย Apple Watch จะมาพร้อมแผ่นพับแนะนำการติดตั้งสายเข้ากับตัวเรือน เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เรียนรู้วิธีการเปลี่ยนสายด้วยตัวเอง เผื่ออนาคตจะสั่งซื้อสายใหม่ๆ มาเปลี่ยนเอง และวิธีการถอดเปลี่ยนสายก็ไม่ได้ยากอะไร
ดีไซน์หรูแบบเดียวกับ Series 6
ถึงแม้จะมีราคาถูกกว่า แต่ Apple Watch SE ก็ใช้ดีไซน์เดียวกับ Apple Watch Series 6 ที่มีราคาสูงกว่า เพียงแต่วัสดุตัวเรือนของรุ่น SE มีเพียงตัวเลือกเดียว คือ อะลูมิเนียม และมีให้เลือกเพียง 3 สี ได้แก่ สีเงิน, สีเทาสเปซเกรย์ และ สีทอง ส่วน Series 6 ตัวเรือนอะลูมิเนียม ยังมีสีน้ำเงิน และ สีแดง (PRODUCT)RED ให้เลือกด้วย
Apple Watch SE มาพร้อมจอแสดงผล LTPO OLED Retina ที่มีความคมชัดและประหยัดพลังงานเป็นพิเศษ ได้รับการปกป้องด้วยกระจก Ion-X โดยมีความสว่าง 1,000 นิต เท่ากับ Series 5 และ Series 6 แต่ไม่สนับสนุนฟีเจอร์ Always-on
Apple Watch SE มีให้เลือก 2 ขนาด (ขนาดใหญ่กว่า Series 3 ถึง 30%) แบบเดียวกับ Series 6 ได้แก่ 40 มม. มีความละเอียดหน้าจอ 324 x 394 พิกเซล ให้พื้นที่แสดงผล 759 ตร.มม. และ ขนาด ขนาด 44 มม. มีความละเอียด 368 x 448 พิกเซล ให้พื้นที่แสดงผล 977 ตร.มม.
ด้านหลังตัวเรือนมีปุ่มปลดล็อคสายนาฬิกาที่ขอบบนและขอบล่าง ตรงกลางเป็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคอล รุ่นที่ 2
ด้านข้างมีปุ่ม Digital Crown พร้อมการตอบสนองแบบสั่น, ไมโครโฟน และ ปุ่มด้านข้าง
อีกข้างมีช่องลำโพง และใช้เป็นช่องระบายอากาศ หลังจากสวมใส่ Apple Watch ลงไปว่ายน้ำ สามารถขับไล่น้ำออกจากช่องทางนี้ได้
Apple Watch SE สามารถทนน้ำในระดับ 50 เมตร เช่นเดียวกับ Series 5 และ Series 6 ซึ่งไม่ได้หมายความว่า สามารถสวมใส่ลงไปดำน้ำลึกถึง 50 เมตร แต่รองรับการสวมใส่ลงในน้ำได้ จึงสามารถทำกิจกรรมทางน้ำได้อย่างสบายใจ
ประสิทธิภาพ
Apple Watch SE ใช้ชิปแบบ System in Package (SiP) รุ่น S5 ที่มีโปรเซสเซอร์แบบ 64-bit Dual-core ซึ่งเป็นชิปรุ่นเดียวกับที่พบใน Apple Watch Series 5 นั่นหมายความว่า Apple Watch SE มีประสิทธิภาพสูงแบบ Apple Watch รุ่นพรีเมียมในปีที่แล้ว โดยมีความเร็วเพิ่มขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 3
Apple Watch SE ยังสนับสนุนการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11b/g/n (2.4GHz), Bluetooth 5.0 และในรุ่น GPS + Cellular ยังรองรับเครือข่าย 4G LTE และ 3G UMTS แบบเดียวกับ Apple Watch Series 5
Apple Watch SE ยังได้รับความจุในตัว 32GB เท่ากับ Apple Watch Series 6 และ Series 5 สามารถใส่เพลงจาก Apple Music มาฟังแบบออฟไลน์ได้อย่างสบายๆ
แบตเตอรี่ยาวนานสูงสุด 18 ชั่วโมง
Apple Watch SE มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ให้อายุการใช้งานยาวนานสูงสุด 18 ชั่วโมง เท่ากับ Apple Watch Series 5 แต่ไม่ได้รับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ Apple Watch Series 6
มีเข็มทิศและมาตรวัดความสูงแบบเรียลไทม์
หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่ Apple Watch Series 5 ไม่สนับสนุน แต่มีใน Apple Watch SE นั่นคือฟีเจอร์มาตรวัดความสูงแบบทำงานตลอด ขณะที่ในรุ่น Series 5 รองรับมาตรวัดความสูงเช่นเดียวกัน แต่สามารถอ่านค่าระดับความสูงเป็นระยะๆ เท่านั้น ไม่ได้ทำงานตลอดเวลาเหมือนกับรุ่น SE
Apple Watch SE สามารถให้ข้อมูลระดับความสูงแบบเรียลไทม์ตลอดทั้งวัน โดยใช้ Barometric Altimeter มาตรวัดความสูงแบบวัดความดันบรรยากาศใหม่ ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำงานร่วมกับ GPS และเครือข่าย Wi-Fi ที่อยู่ใกล้เคียง จึงสามารถตรวจพบการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยของระดับความสูงจากระดับพื้น ซึ่งสูงขึ้นหรือต่ำลงจากการวัด 30 เซนติเมตร และสามารถแสดงเป็นกลไกหน้าปัดแบบใหม่หรือค่าวัดการออกกำลังกายได้
Apple Watch SE ยังสามารถบอกความชัน ความสูง ละติจูด ลองจิจูด พร้อมด้วยแอพเข็มทิศที่แสดงทิศทางได้แม่นยำ และสามารถเพิ่มกลไกเข็มทิศแบบใหม่ไว้บนหน้าปัดนาฬิกาได้
ยกระดับการดูแลสุขภาพ
Apple Watch SE มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและไมโครโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งมีประโยชน์ในฟีเจอร์ตรวจจับการล้ม, SOS ฉุกเฉิน (โทรขอความช่วยเหลือและแจ้งบริการฉุกเฉินต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว), การโทรฉุกเฉินทั่วโลก (เฉพาะรุ่น GPS + Cellular), แอพเสียงรบกวน
และด้วย watchOS 7 ยังทำให้ รองรับฟีเจอร์ ติดตามการนอนหลับ การตรวจจับการล้างมืออัตโนมัติ รวมถึงติดตามการออกกำลังกายใหม่ๆ
ฟีเจอร์ตรวจจับการล้มใช้อัลกอริทึมของ Apple ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและไจโรสโคปแบบใหม่ล่าสุดใน Apple Watch SE เมื่อมีการล้มเกิดขึ้น Apple Watch SE จะวิเคราะห์วิถีการเคลื่อนที่จากข้อมือและความเร่งที่ทำให้เกิดแรงกระแทก จึงสามารถส่งการแจ้งเตือนหาผู้สวมใส่หลังการล้มได้ ซึ่งผู้ใช้สามารถปิดการแจ้งเตือนหรือเลือกโทรหาบริการช่วยเหลือฉุกเฉินได้ทันที
ถ้าหาก Apple Watch SE ตรวจจับได้ว่าผู้สวมใส่ไม่เคลื่อนไหวประมาณ 60 วินาทีหลังจากล้มลง Apple Watch SE จะโทรแจ้งบริการฉุกเฉินโดยอัตโนมัติและเล่นข้อความเสียง บอกพิกัดเป็นละติจูดและลองจิจูด นอกเหนือจากการส่งข้อความถึงรายชื่อติดต่อฉุกเฉิน
Apple Watch SE ได้รับการติดตั้งไมโครโฟนรุ่นล่าสุด ช่วยวัดระดับเสียงรอบตัวแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ข้อมูลเรื่องสุขภาพการได้ยินที่ละเอียดมากขึ้น Apple Watch SE สามารถแจ้งเตือนเมื่อพบว่าบริเวณนั้นมีเสียงดังเกินมาตรฐานจนเป็นอันตรายต่อการได้ยิน ผู้ใช้สามารถตรวจสอบระดับเสียงรบกวนได้ทุกตลอดเวลาผ่านแอพเสียงรบกวนหรือกลไกหน้าปัดเสียงรบกวน
นอกจากไมโครโฟนใหม่ Apple Watch SE ยังมาพร้อมกับลำโพงรุ่นใหม่ที่ให้คุณภาพเสียงดีขึ้น สำหรับการคุยโทรศัพท์ โต้ตอบกับ Siri และใช้งานวอล์คกี้ทอล์คกี้
watchOS 7
Apple Watch SE มาพร้อมระบบปฏิบัติการ watchOS 7 เวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งมีตัวเลือกหน้าปัดนาฬิกาใหม่ 7 แบบ ได้แก่ หน้าปัดแบบเส้น โครโนกราฟโปร GMT และ ศิลปิน ขณะเดียวกันก็สามารถจัดการ ค้นหา และ แชร์ การกำหนดค่าหน้าปัดนาฬิกาใหม่ๆ กับคนอื่นได้
watchOS 7 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ด้านสุขภาพและฟิตเนสใหม่ รวมถึง VO2 Max ช่วงต่ำ, การติดตามการนอนหลับ, การตรวจจับการล้างมืออัตโนมัติ และการออกกำลังกายประเภทใหม่ๆ จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจสุขภาวะโดยรวมของตนได้ดียิ่งขึ้น แอพแผนที่บน watchOS 7 ยังได้รับการอัพเดทใหม่ มาพร้อมเส้นทางการขี่จักรยาน ซึ่งดูได้ง่ายๆ จากบนข้อมือ และ Siri ก็สามารถแปลภาษาได้แล้ว
Family Setup
Family Setup หรือ การตั้งค่าครอบครัว เป็นอีกฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อม watchOS 7 ช่วยให้สมาชิกในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้สูงอายุที่ใช้ Apple Watch แต่ไม่มี iPhone ได้รับประโยชน์จากคุณสมบัติการเชื่อมต่อ ความปลอดภัย และ ฟิตเนส
สำหรับเด็กๆ ที่ใช้ Apple Watch แต่ไม่มี iPhone จะได้รับประโยชน์จากความสามารถในการสื่อสาร และการปรับแต่งส่วนบุคคล เข้าใช้ SOS ฉุกเฉินได้ตลอดเวลา และเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ที่ปรับมาให้เหมาะกับเด็กๆ โดยเฉพาะ ตลอดจนใช้โหมดใหม่ที่ชื่อ “เวลาเรียน” ซึ่งจะช่วยให้เด็กๆ มีสมาธิและตั้งใจเรียนทั้งที่บ้านและในชั้นเรียน
watchOS 7 ยังมีคุณสมบัติที่ปรับปรุงให้เหมาะกับผู้ใหญ่ที่สูงอายุ ตั้งแต่การเริ่มต้นใช้งานการตั้งค่าที่ง่ายดาย อีกทั้งยังมีหน้าปัดขนาดใหญ่พิเศษใหม่ที่ช่วยให้สามารถดูเวลาและกลไกหน้าปัดที่มีข้อมูลต่างๆ ครบถ้วน เพียงแค่เหลือบมอง ผู้สูงอายุจะได้ประโยชน์จากเช็คลิสต์สุขภาพใหม่ในแอพสุขภาพบน iPhone ซึ่งสามารถเช็คได้ว่ามีการเปิดใช้คุณสมบัติด้านสุขภาพ เช่น การตรวจจับการล้มหรือไม่ ในมุมมองศูนย์กลางเดียว
ราคา
Apple Watch SE ตัวเรือนอะลูมิเนียม สายแบบ Solo Loop, Sport Loop, Sport Band
- Apple Watch SE รุ่น GPS ขนาด 40 มม. ราคา 9,400 บาท
- Apple Watch SE รุ่น GPS + Cellular ขนาด 40 มม. ราคา 10,900 บาท
- Apple Watch SE รุ่น GPS ขนาด 44 มม. ราคา 10,400 บาท
- Apple Watch SE รุ่น GPS + Cellular ขนาด 44 มม. ราคา 11,900 บาท
Apple Watch SE ตัวเรือนอะลูมิเนียม สายแบบ Braided Solo Loop
- Apple Watch SE รุ่น GPS ขนาด 40 มม. ราคา 10,900 บาท
- Apple Watch SE รุ่น GPS + Cellular ขนาด 40 มม. ราคา 12,400 บาท
- Apple Watch SE รุ่น GPS ขนาด 44 มม. ราคา 11,900 บาท
- Apple Watch SE รุ่น GPS + Cellular ขนาด 44 มม. ราคา 13,400 บาท
สรุป
Apple Watch SE คือ Apple Watch ที่คุ้มค่าที่สุดในเวลานี้โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 9,400 บาท ประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้ 4,000 บาท เมื่อเทียบกับราคาเริ่มต้นของ Apple Watch Series 6 ซึ่งแน่นอนว่าฟีเจอร์บางอย่างก็จะถูกตัดออกไป แต่ฟีเจอร์สำคัญก็มีมาให้งานครบครัน โดยเฉพาะฟีเจอร์การตรวจจับการล้ม และเมื่อใช้งานร่วมกับบริการ Family Setup หรือ การตั้งค่าครอบครัว ในรุ่น GPS + Cellular จึงเหมาะกับการใช้งานในครอบครัวอย่างเด็กหรือผู้สูงอายุที่บ้านเป็นอย่างยิ่ง