Fitbit แนะนำสมาร์ทวอทช์เพื่อสุขภาพรุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีติดตามสุขภาพครบครัน Fitbit Sense (ฟิตบิท เซนส์) เปิดตัวทางการเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว Fitbit Sense ถือเป็นสมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมี่ยม เมื่อเทียบกับ Fitbit Versa 3 ที่เปิดตัวพร้อมกัน และทีมงาน @flashfly พร้อมแล้วที่จะพาไปสำรวจสมาร์ทวอทช์ที่ทันสมัยที่สุดของ Fitbit
แกะกล่อง
Fitbit Sense มาพร้อมกล่องสีเทา พิมพ์รูปภาพผลิตภัณฑ์ไว้ด้านหน้าอย่างชัดเจน พร้อมโลโก้ Fitbit ขนาดใหญ่ที่มุมบนซ้าย ส่วนชื่อรุ่น Sense ติดอยู่ที่มุมล่างซ้ายมือ
ด้านหลังจะมีบอกฟีเจอร์ต่างๆของ Fitbit Sense ทั้งเซ็นเซอร์ EDA ตรวจจับความเครียด วัดอัตราการเต้นของชีพจร ตรวจจับการนอนหลับ และยังมี GPS ใส่มาในตัวเครื่อง และรองรับการแจ้งเตือนแอพพลิเคชั่นต่างๆจากสมาร์ทโฟน
เมื่อถอดปลอกกล่องด้านนอกออกไป ก็จะพบกับกล่องสีขาวล้วน ใช้วิธีกางออก ก็จะพบว่าภายในจัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ไว้เป็นระเบียบ และแบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดยวางสมาร์ทวอทช์ Fitbit Sense ไว้ตรงกลาง
Fitbit Sense ติดตั้งสายรัดข้อมือมาให้แล้ว สามารถดึงขึ้นมาจากช่องเก็บแล้วสวมใส่ได้ทันที แต่อย่าลืมแกะแผ่นพลาสติกที่ห่อหุ้มตัวเรือนออกก่อน
ซ้ายมือเป็นช่องเก็บสายชาร์จแบตเตอรี่แบบแม่เหล็ก สามารถแนบติดกับด้านหลัง Fitbit Sense ได้อย่างสะดวก
ปลายสายเป็นขั้วต่อแบบ USB-A แต่ไม่ได้แถม USB Power Adapter มาให้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของสมาร์ทวอทช์ส่วนใหญ่ในตลาด ที่ไม่มี Power Adapter มาให้อยู่แล้ว
ขวามือมีคู่มือแนะนำการใช้งาน และแถมสายสำรองมาให้ 1 เส้น เป็นข้างที่มีรู ขนาด L ยาวกว่าสายที่ติดตั้งมาให้จากโรงงาน สำหรับคนที่มีข้อมือใหญ่
ดีไซน์
Fitbit Sense เป็นสมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมี่ยม ตัวเรือนผลิตด้วยวัสดุอะลูมิเนียม เสริมความสวยหรูด้วยขอบสแตนเลสสตีลขัดเงา มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ Carbon และ สีทอง Lunar White
มาพร้อมสายแบบซิลิโคนคุณภาพสูง เพื่อให้สวมใส่ได้อย่างสบายตลอดทั้งวัน
ตัวเรือนของ Fitbit Sense เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ถูกลบขอบมุมให้โค้งมน มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ระบบสัมผัส มีเซ็นเซอร์ Ambient Light สามารถปรับความสว่างโดยอัตโนมัติ หรือจะปรับความสว่างด้วยตัวเองก็ทำได้เช่นกัน
จอแสดงผลของ Fitbit Sense รองรับโหมด Always On Display เปิดหน้าจอตลอดเวลา เมื่อเปิดโหมด AOD จะสามารถดูเวลาและสถิติการออกกำลังกายได้ทันที ไม่ต้องปลุกหน้าจอ แต่ถ้ากังวลว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่จะสั้นลง สามารถปิดโหมดนี้ได้
จอแสดงผลของ Fitbit Sense ยังมีฟีเจอร์ปลุกหน้าจอโดยอัตโนมัติเมื่อยกข้อมือขึ้นมา (Screen Wake) หรือจะใช้วิธีเคาะจอแสดงผล 2 ครั้ง เพื่อปลุกหน้าจอก็ได้เช่นกัน
สำหรับ Watch Face สามารถดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในสมาร์ทวอทช์เพื่อสลับสับเปลี่ยนได้สูงสุด 5 แบบ โดยดาวน์โหลดผ่านแอพ Fitbit และเปลี่ยนหน้าปัดได้จากเมนู Clocks
ด้านข้างมีลำโพงและไมโครโฟนในตัว รองรับฟังก์ชั่นการโทร และเรียกใช้งานผู้ช่วยดิจิตอล Google Assistant หรือ Amazon Alexa
อีกข้างที่เห็นเป็นร่องนั้น คือตำแหน่งของปุ่มควบคุมระบบสัมผัส ซึ่งต้องอาศัยเวลาทำความคุ้นชินสักเล็กน้อย
ด้านหลังเป็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์ติดตามสุขภาพ และมีรูปภาพไอคอนบ่งบอกถึงฟีเจอร์ที่รองรับ ได้แก่ ECG ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ, วัดอุณหภูมิ, GPS ในตัว และ กันน้ำได้ 50 เมตร
Fitbit Sense ได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำในระดับ 50 เมตร สามารถสวมใส่ลงในสระว่ายน้ำได้ แต่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สวมใส่ลงไปดำน้ำลึกถึง 50 เมตร
วัดความเครียด
Fitbit Sense มาพร้อมแอพ EDA Scan สามารถวัดความเครียดด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับสัญญาณ EDA (Electrodermal Activity) เพียงเข้าไปที่แอพ EDA Scan เลือก Quick Scan แล้วคลุมฝ่ามือลงบนหน้าปัดของสมาร์ทวอทช์ เพื่อวัดระดับความเข้มข้นของเหงื่อบนผิว และใช้เวลาอ่านค่าประมาณ 2 นาที
ภายในแอพ EDA Scan ยังมีคำแนะนำในการจัดการความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกหายใจ และเครื่องมือช่วยสมาธิในรูปแบบต่างๆ และถ้าเป็นสมาชิก Fitbit Premium สามารถเลือกรูปแบบการทำสมาธิได้ถึงกว่า 100 รูปแบบจากแบรนด์ดังอย่าง Aaptiv, Aura, Breethe และ Ten Percent Happier
วัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง
Fitbit Sense มาพร้อม PurePulse 2.0 เทคโนโลยีวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ทันสมัยที่สุดของ Fitbit สามารถแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อพบความผิดปกติ โดยอัตราการเต้นจังหวะที่สูงต่ำจนผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณถึงความเสี่ยงของภาวะโรคหัวใจที่ควรเข้ารับการปรึกษากับแพทย์โดยด่วน เช่น ภาวะหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ (Bradycardia) หรือ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือเต้นเร็วผิดปกติ (Tachycardia)
เครื่องมือติดตามสุขภาพ SpO2 วัดค่าออกซิเจนในเลือด และวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG
Fitbit Sense มาพร้อมเซ็นเซอร์วิเคราะห์ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดแดง หรือ SpO2, เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิผิวบริเวณข้อมือ, สามารถติดตามความแปรผันของหัวใจ หรือ Heart Rate Variability (HRV) และตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG
แอพพลิเคชั่นตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG (Electrocardiogram) สามารถตรวจสอบความเสี่ยงของภาวะหัวใจสั่น หรือ Atrial Fibrillation (AFib) เพียงวางนิ้วมือลงบนมุมข้างใดข้างหนึ่งของวงแหวนนาฬิกาประมาณ 30 วินาที แต่น่าเสียดายที่แอพ ECG ยังไม่สามารถใช้งานได้ในประเทศไทย
ติดตามการออกกำลังกาย
ภายในแอพ Exercise ของ Fitbit Sense มีโหมดติดตามการออกกำลังให้เลือก 20 รูปแบบ ได้แก่ Workout, Bike, Bootcamp, Circuit Training, Elliptical, Golf, Hike, Interval Workout, Kickboxing, Martial Art, Pilates, Run, Spinning, Stair Climber, Swim, Tennis, Treadmill, Walk, Weight และ Yoga
Fitbit Sense ได้รับการติดตั้ง GPS มาให้ในตัว ช่วยติดตามการออกกำลังกายกลางแจ้งได้แม่นยำขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ปั่นจักรยาน, เดินทางไกล และสามารถดูข้อมูลการติดตามอย่างละเอียดบนสมาร์ทโฟนผ่านแอพ Fitbit
Fitbit Sense ยังคอยติดตามกิจกรรมตลอดทั้งวัน อาทิ นับจำนวนก้าว, ระยะทาง, การเดินขึ้นชั้นบน รวมถึงคำนวณแคลอรี่ที่เผาผลาญ จึงสามารถสวมใส่ Fitbit Sense ได้ตลอดทั้งวัน แม้ในระหว่างเรียนหรือทำงาน
ตรวจวัดคุณภาพการนอน
Fitbit Sense รองรับฟีเจอร์ติดตามการนอนหลับ สามารถบอกเวลาช่วงการนอนของหลับลึกและหลับตื้น พร้อมให้คะแนน Sleep Score ในแต่ละคืน เพื่อปรับปรุงคุณภาพการนอนในคืนถัดไป
Fitbit Sense ยังมีฟีเจอร์ Smart Wake ช่วยปลุกผู้ใช้งานด้วยระบบสั่นสะเทือน โดยจะปลุกในช่วงที่ผู้สวมใส่อยู่ในช่วงของหลับตื้น เพื่อให้ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น นอกจากนี้ ยังมี Sleep Mode ช่วยปิดระบบการแจ้งเตือนชั่วคราว และปิดการแสดงผลของหน้าจอ เพื่อไม่ให้รบกวนเวลาพักผ่อน
แบตเตอรี่
Fitbit Sense มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-polymer ไม่ระบุความจุ แต่ Fitbit ยืนยันว่าสามารถใช้งานได้นานกว่า 6 วัน อย่างไรก็ตาม ถ้าเปิดโหมดติดตามการออกกำลังกายพร้อม GPS ตลาดเวลา จะให้อายุการใช้งานสูงสุด 12 ชั่วโมง ส่วนการใช้งานทั่วไปสามารถอยู่ได้นานข้ามวันอย่างแน่นอน
Fitbit Sense รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ใช้เวลาชาร์จเพียง 12 นาที ให้อายุการใช้งานตลอดทั้งวัน และใช้เวลาชาร์จจาก 10% – 80% ภายในเวลา 40 นาที
Fitbit Premium
บริการ Fitbit Premium จะปลดล็อคการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นการติดตามกิจกรรม การนอนและจังหวะการเต้นหัวใจ สำหรับผู้ใช้งานแต่ละคน พร้อมด้วยคลิปวิดีโอสอนออกกำลังกายมากกว่า 100 รายการจากสตูดิโอและเทรนเนอร์ชื่อดัง รวมถึงเกมและความท้าทายต่างๆ ที่จะสร้างแรงบันดาลใจ แนะนำกิจกรรม การนอนหลับ และโภชนาการ ตลอดจนรายงานสุขภาพเพื่อร่วมแบ่งปันในทีม
สรุป
สมาร์ทวอทช์ Fitbit Sense ได้รับการออกแบบมาอย่างพรีเมี่ยมและเป็นเอกลักษณ์ เพียบพร้อมด้วยฟีเจอร์ติดตามสุชภาพที่ให้มาอย่างครบครันเท่าที่สมาร์ทวอทช์ระดับไฮเอนด์ในปัจจุบันควรจะมี และยังมีฟีเจอร์ติดตามการออกกำลังกายรวม 20 โหมด ครอบคลุมการออกกำลังกายขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ
Fitbit Sense เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทวอทช์ดีไซน์สวยงามเรียบหรู สวมใส่ได้ทุกโอกาส เน้นการติดตามสุขภาพไม่ว่าจะวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง วัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ติดตามสุขภาพการนอนหลับ และติดตามกิจกรรมตลอดทั้งวัน
Fitbit Sense พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้!! ราคา 11,990 บาท มาพร้อมบริการ Fitbit Premium ฟรี!! นาน 6 เดือน (ปกติจะเรียกเก็บค่าบริการ 300 บาทต่อเดือน หรือ 2,500 บาทต่อปี)