สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ที่รองรับเครือข่าย 5G ประสิทธิภาพแรง แต่ราคาไม่แพงเกินไป ไม่มีรุ่นไหนจะน่าสนใจไปกว่า 2 รุ่นนี้อีกแล้ว OnePlus 8T 5G และ Samsung Galaxy S20 FE 5G ซึ่งทั้งคู่ได้รับการเปิดตัวในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน มีสเปกคล้ายกันหลายอย่าง จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะเปรียบเทียบหาความแตกต่าง เพื่อช่วยให้ผู้ที่กำลังจะซื้อ 2 รุ่นนี้ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ดีไซน์
- OnePlus 8T 5G มีขนาด 160.7 x 74.1 x 8.4 มิลลิเมตร, น้ำหนัก 188 กรัม
- Samsung Galaxy S20 FE 5G มีขนาด 159.8 x 74.5 x 8.4 มิลลิเมตร, น้ำหนัก 190 กรัม
OnePlus 8T 5G และ Samsung Galaxy S20 FE 5G มีขนาดและน้ำหนักใกล้เคียงกันมาก ดังนั้น ประสบการณ์ในการพกพาจึงไม่แตกต่างกัน แต่ในด้านการออกแบบนั้นแตกต่างกันพอสมควร
บอดี้ของ OnePlus 8T 5G ใช้วัสดุกระจกแบบด้าน (Matte) และมีแบบเงา (Glossy) ให้เลือกด้วย ส่วน Samsung Galaxy S20 FE 5G ใช้วัสดุพลาสติก แต่ให้ผิวสัมผัสที่ดีและไม่ค่อยติดรอยนิ้วมือ ส่วนด้านหน้า OnePlus 8T 5G ใช้กระจก Gollira Glass 5 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่กว่าจึงมีความทนทานกว่า Gollira Glass 3 ที่พบใน Galaxy S20 FE 5G
ถ้ามองถึงความสวยงามพรีเมียม ต้องยกให้ OnePlus 8T 5G เพราะใช้วัสดุที่มีคุณภาพกว่า อย่างไรก็ตาม OnePlus 8T 5G ผลิตออกมาให้เลือกเพียง 2 สีเท่านั้น ได้แก่ Aquamarine Green และ Lunar Silver ขณะที่ Samsung Galaxy S20 FE 5G มีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ Cloud Orange, Cloud Lavender, Cloud Mint, Cloud Navy, Cloud White และ Cloud Red
นอกจากนี้ Samsung Galaxy S20 FE 5G ยังได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำในระดับ IP68 สามารถกันน้ำที่ระดับความลึก 1.5 เมตร ได้นานถึง 30 นาที แต่การรับประกันก็ไม่ครอบคลุมความเสียหายจากน้ำ
จอแสดงผล 120Hz
- OnePlus 8T 5G ใช้จอแสดงผล 120Hz AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว
- Samsung Galaxy S20 FE 5G ใช้จอแสดงผล 120Hz AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว
OnePlus 8T 5G มาพร้อมจอแสดงผล Fluid AMOLED ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.55 นิ้ว ความหนาแน่น 402 พิกเซลต่อนิ้ว อัตราส่วนภาพ 20:9 ให้อัตราการรีเฟรช 120Hz
Samsung Galaxy S20 FE มาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.5 นิ้ว ความหนาแน่น 407 พิกเซลต่อนิ้ว อัตราส่วนภาพ 20:9 ให้อัตราการรีเฟรช 120Hz
ทั้ง 2 รุ่นรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเหมือนกัน
จอแสดงผลของทั้งคู่ ถือว่ามีคุณภาพใกล้เคียงกันมาก ไม่ว่าจะเป็นความละเอียด ความคมชัด โดยมีจุดเด่นที่รองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 120Hz จึงแสดงกราฟิกได้ลื่นไหล ตอบสนองการสัมผัสได้รวดเร็วทันใจ แต่จอแสดงผลของ OnePlus 8T 5G สามารถสู้แดดได้ดีกว่าเพราะให้ความสว่างสูงสุด 1,100 นิต ขณะที่อีกรุ่นให้ความสว่างสูงสุด 679 นิต
นอกจากความสว่างแล้ว อีกจุดหนึ่งที่สังเกตได้ถึงความแตกต่าง คือ พื้นที่ขอบจอรอบด้านดูเหมือน OnePlus 8T 5G จะบางกว่าคู่แข่งอยู่เล็กน้อย
กล้องหน้า
- OnePlus 8T 5G ได้รับกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 บันทึกวิดีโอ Full HD 1080p 30 เฟรมต่อวินาที
- Samsung Galaxy S20 FE 5G ได้รับกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 บันทึกวิดีโอ 4K 60 เฟรมต่อวินาที
OnePlus 8T 5G และ Samsung Galaxy S20 FE 5G ติดตั้งกล้องหน้าไว้ในหลุมบนหน้าจอเช่นเดียวกัน แต่ OnePlus 8T 5G เจาะหลุมไว้ชิดมุม ขณะที่ Galaxy S20 FE 5G เจาะหลุมไว้ตรงกึ่งกลาง ขึ้นอยู่กับว่าใครชอบตำแหน่งไหน แต่ถ้าพิจารณาถึงสเปก Galaxy S20 FE 5G ได้เปรียบกว่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการถ่ายวิดีโอจากกล้องหน้า ส่วน OnePlus 8T 5G ก็ให้ความคมชัดเช่นกัน ถึงแม้จะมีความละเอียดน้อยกว่า
กล้องหลัง
- OnePlus 8T 5G มาพร้อมกล้องหลัง 48MP Quad Camera
- Samsung Galaxy S20 FE 5G มาพร้อมกล้องหลัง 12MP Triple Camera
Samsung Galaxy S20 FE 5G ได้เปรียบในส่วนของกล้องหน้า แต่กล้องหลังของ OnePlus 8T 5G มีความน่าสนใจกว่า ด้วยระบบกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 รูรับแสง f/1.7 ระบบกันสั่น OIS และ EIS
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 สำหรับเก็บภาพในมุมมองกว้าง 123 องศา
- กล้อง Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพใกล้วัตถุในระยะสูงสุด 3 เซนติเมตร
- กล้อง Monochrome ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ช่วยถ่ายภาพด้วยฟิลเตอร์ขาวดำให้ออกมาสวยงามคลาสสิค
ทางด้าน Samsung Galaxy S20 FE 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย
- กล้อง Wide-angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัส Dual Pixel AF ขนาดพิกเซล 1.8 ไมครอน รูรับแสง f/1.8 มุมมองกว้าง 79 องศา ระบบกันสั่น OIS
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.12 ไมครอน รูรับแสง f/2.2 มุมมองกว้าง 123 องศา
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.0 ไมครอน รูรับแสง f/2.4
การถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษของทั้ง 2 รุ่น ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่กล้องหลักของ OnePlus 8T 5G ให้ความละเอียดสูงกว่า ขนาดรูรับแสงใหญ่กว่าจึงถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีกว่า
ระบบกล้องหลังของ Samsung Galaxy S20 FE 5G ยังติดตั้งกล้อง Telephoto มาให้ ช่วยให้การซูมภาพทำได้ดีกว่า แต่ OnePlus 8T 5G ก็ชดเชยด้วยกล้อง Macro และ Monochrome จึงขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานว่าชื่นชอบการถ่ายภาพแนวไหน ส่วนการถ่ายวิดีโอ ทั้งคู่รองรับความละเอียดสูงสุด 4K 60 เฟรมต่อวินาที
ประสิทธิภาพ Snapdragon 865
- OnePlus 8T 5G ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 865 ความจำ RAM 8GB + ROM 128GB และ RAM 12GB + ROM 256GB
- Samsung Galaxy S20 FE 5G ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 865 ความจำ RAM 8GB + ROM 128GB และ RAM 8GB + ROM 256GB
OnePlus 8T 5G และ Samsung Galaxy S20 FE 5G ใช้ชิปประมวลผลรุ่นเดียวกัน แต่ด้านความจำ OnePlus 8T 5G มีตัวเลือก RAM 12GB สูงกว่า Galaxy S20 FE 5G ส่วนความจุในตัวทั้งคู่มีตัวเลือก 256GB เท่ากัน อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟนของ Samsung สามารถเพิ่มการ์ด MicroSD ได้อีก สูงสุด 1TB
การเล่นเกม
Samsung Galaxy S20 FE 5G และ OnePlus 8T 5G ตอบสนองการเล่นเกมได้ดีทั้งคู่ ด้วยชิปประมวลผลรุ่นเดียวกัน ใช้จอแสดงผลขนาดใกล้เคียงกัน ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 120Hz เรียกได้ว่าทั้งคู่ให้ประสบการณ์เล่นเกมที่สนุกไม่แพ้กัน
อย่างไรก็ตาม OnePlus 8T 5G ยังมีความพิเศษซ่อนไว้ นั่นคือ ระบบกระจายความร้อน Multi-layer Game-grade Cooling System และยังมีโหมดเกม Fnatic mode สามารถรีดประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนออกมาอย่างเต็มที่ เรียกได้ว่า OnePlus 8T 5G ถูกสร้างมาเพื่อเล่นเกมโดยเฉพาะ
ระบบเสียง Dolby Atmos
- OnePlus 8T 5G มาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอ ระบบเสียง Dolby Atmos
- Samsung Galaxy S20 FE 5G มาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอ ระบบเสียง Dolby Atmos
Samsung Galaxy S20 FE 5G และ OnePlus 8T 5G ได้รับการติดตั้งลำโพง 2 ตัว ให้เสียงสเตอริโอ สนับสนุนระบบเสียง Dolby Atmos เช่นเดียวกัน โดยสมาร์ทโฟนของ Samsung ได้รับการปรับแต่งเสียงโดย AKG ขณะลำโพงของ OnePlus ให้เสียงดังกว่าเล็กน้อย เสียงเบสหนักแน่นกว่า แต่ในด้านคุณภาพเสียงรอบทิศทาง ทั้ง 2 รุ่นให้มิติเสียงที่ดีพอๆ กัน
นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น ยังไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และไม่ได้แถมหูฟังแบบ USB-C มาให้ด้วยกันทั้งคู่ ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหนก็ต้องหาหูฟัง Bluetooth หรือ ใช้หูฟังคู่เดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งต้องมีตัวแปลงขั้วต่อ USB-C เป็นแจ็ค 3.5 มิลลิเมตร ในกรณีที่ไม่มีหูฟังแบบ USB-C
แบตเตอรี่
- OnePlus 8T 5G มีความจุแบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับชาร์จเร็ว 65W (แถมมาให้ในกล่อง)
- Samsung Galaxy S20 FE 5G มีความจุแบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W (ซื้อแยกต่างหาก)
OnePlus 8T 5G และ Samsung Galaxy S20 FE 5G ได้รับแบตเตอรี่ขนาดเท่ากัน แต่ OnePlus 8T 5G สามารถชาร์จได้เร็วกว่า ด้วยเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Warp Charge 65 ชาร์จเร็วสูงสุด 65W ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% ในเวลาเพียง 39 นาที ขณะที่ Galaxy S20 FE 5G รองรับชาร์จเร็ว Super Fast Charger 25W ชาร์จแบตเตอรี่ถึง 50% ภายในเวลาเพียง 30 นาที
OnePlus 8T ยังใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่เซลล์คู่ (Twin-battery Charging Technology) และมีระบบควบคุมอุณหภูมิระหว่างถูกชาร์จ เพื่อให้ชาร์จเร็วอย่างปลอดภัย
ถึงแม้ Samsung Galaxy S20 FE 5G จะใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่นานกว่า แต่รองรับการชาร์จที่หลากหลายกว่า เนื่องจากสนับสนุนชาร์จเร็วแบบไร้สาย Fast Wireless Charging 2.0 สำหรับอุปกรณ์ชาร์จไร้สายที่รองรับ 10W ขึ้นไป และยังมีฟีเจอร์ Wireless PowerShare สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่น ในแบบไร้สาย เช่น หูฟัง, สมาร์ทวอทช์ หรือแม้แต่สมาร์ทโฟนของเพื่อน เพียงนำมาวางไว้บนด้านหลัง
ระบบเชื่อมต่อ รองรับ 5G และ Wi-Fi 6
- OnePlus 8T 5G รองรับ 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.1, NFC, USB Type-C
- Samsung Galaxy S20 FE 5G รองรับ 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.0, NFC, USB Type-C
ทั้งคู่ให้ประสบการณ์ในการเชื่อมต่อแบบเดียวกัน ทั้งรองรับ 5G และ Wi-Fi 6 ซึ่งถือเป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุด จึงสามารถเข้าถึงโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว ดาวน์โหลดวิดีโอขนาดใหญ่ในเวลาไม่กี่วินาที รวมไปถึงการเล่นเกมออนไลน์ก็ให้ความรวดเร็วและเสถียรมากขึ้น เมื่อเทียบกับการเชื่อมต่อ 4G และ Wi-Fi 5
ระบบปฏิบัติการ
- OnePlus 8T 5G ทำงานบน Android 11 ครอบทับด้วย OxygenOS 11
- Samsung Galaxy S20 FE 5G ทำงานบน Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2
ด้านซอฟต์แวร์ OnePlus 8T 5G ได้เปรียบกว่าพอสมควร เพราะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดในปีนี้ โดยถูกครอบทับด้วย OxygenOS 11 ที่ออกแบบมาให้ตอบสนองการใช้งานที่รวดเร็ว และมั่นใจได้ว่าจะได้รับการอัพเดทระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่นใหม่ที่จะออกมาในอนาคต 3 – 4 ปีนับจากนี้ ขณะที่ Samsung ได้รับประกันว่าสมาร์ทโฟนเรือธงของ Galaxy จะได้รับการอัพเดทซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ในอนาคตอย่างน้อย 3 เวอร์ชั่น
สรุป
OnePlus 8T 5G มีจุดเด่นที่การออกแบบสวยงามพรีเมี่ยม ระบบกล้องหลังคมชัด ถ่ายภาพได้หลากหลายสถานการณ์ เล่นเกมได้ยาวนานกว่าด้วยระบบระบายความร้อน ถึงแม้แบตเตอรี่จะเหลือน้อยก็ยังชาร์จเร็ว ไม่ต้องรอนานก็พร้อมกลับมาเล่นต่อ และยังมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 11 เวอร์ชั่นล่าสุด ไม่ต้องรออัพเดท
Samsung Galaxy S20 FE 5G ได้เปรียบที่ตัวเครื่องกันน้ำได้ มีให้เลือกหลายสี เพิ่มการ์ด MicroSD ได้สูงสุด 1TB กล้องหน้ามีความละเอียดมากกว่า กล้องหลังซูมได้สูงสุด 30 เท่า รองรับการชาร์จไร้สาย และ Wireless PowerShare
ราคา
- OnePlus 8T 5G เริ่มต้น 24,990 บาท สำหรับรุ่น RAM 8GB + ROM 128GB และราคา 29,990 บาท สำหรับรุ่น RAM 12GB + ROM 256GB
- Samsung Galaxy S20 FE 5G เริ่มต้น 21,510 บาท สำหรับรุ่น RAM 8GB + ROM 128GB และราคา 23,310 บาท สำหรับรุ่น RAM 8GB + ROM 256GB
OnePlus 8T 5G ถือเป็นเรือธงของ OnePlus ที่วางตำแหน่งไว้เหนือกว่า OnePlus 8 ขณะที่ Samsung Galaxy S20 FE 5G เป็นเรือธงในระดับเริ่มต้น เพราะวาง Galaxy S20 ที่ออกมาก่อนไว้เหนือกว่า นั่นทำให้ทั้ง 2 รุ่น ถูกกำหนดราคาไว้ห่างกันพอสมควร อย่างไรก็ตาม OnePlus 8T 5G ให้ของแถมมาอย่างครบครันไม่ต้องซื้อเพิ่ม ส่วน Samsung Galaxy S20 FE 5G ไม่ได้แถมอุปกรณ์ชาร์จ Super Fast Charger 25W มาให้ในกล่อง ต้องซื้อเพิ่มต่างหาก