iPad Air ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา วันนี้มาพร้อมกับดีไซน์แบบหน้าจอทั้งหมดโดยมีจอภาพขนาด 10.9 นิ้วที่ใหญ่ขึ้น, กล้องหลังใหม่ความละเอียด 12MP, เซ็นเซอร์ Touch ID เจเนอเรชั่นถัดไปและอื่นๆ อีกมากมาย
iPad Air ซึ่งรองรับการใช้งานที่หลากหลาย มีสีสันสดใส และทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมาอยู่ที่นี่แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ลูกค้าสามารถสั่งซื้อ iPad Air แบบใหม่หมด ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคมได้แล้ว iPad Air มีสีสันที่สวยงามให้เลือกถึง 5 สี มาพร้อมดีไซน์แบบหน้าจอทั้งหมดด้วยจอภาพ Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้วที่ใหญ่ขึ้น, ระบบกล้องและเสียงที่อัพเกรดใหม่, เซ็นเซอร์ Touch ID ที่รวมไว้ในปุ่มด้านบน และชิพ A14 Bionic อันทรงพลังเพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล บอกเลยว่านี่คือ iPad Air ที่ทรงพลังที่สุดและมากความสามารถที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ดีไซน์แบบหน้าจอทั้งหมดและสีสันสดใสใหม่ๆ
iPad Air มาพร้อมดีไซน์แบบใหม่หมดที่ทั้งบางและเบา โดยมีสีสันที่สวยงามให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีเงิน สีเทาสเปซเกรย์ สีโรสโกลด์ สีเขียว และสีสกายบลู ดีไซน์ใหม่แบบหน้าจอทั้งหมดนี้มาพร้อมกับจอภาพ Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้วที่ใหญ่ขึ้น เพื่อประสบการณ์การรับชมอันน่าทึ่งพร้อมด้วยความละเอียด 3.8 ล้านพิกเซลและเทคโนโลยีสุดล้ำมากมายไม่ว่าจะเป็น Full Lamination, การรองรับขอบเขตสีกว้างแบบ P3, การแสดงผลแบบ True Tone และการเคลือบป้องกันแสงสะท้อน นอกจากนี้ เรายังทำให้จอภาพขยายออกไปจนสุดขอบทุกด้านด้วยการรวมเซ็นเซอร์ Touch ID เจเนอเรชั่นถัดไปเข้ากับปุ่มด้านบน โดยลูกค้าจะยังคงปลดล็อค iPad Air หรือ ลงชื่อเข้าใช้แอพ ได้อย่างสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยเหมือนเช่นเคย iPad Air สามารถใช้งานร่วมกับ Magic Keyboard ที่มีดีไซน์แบบยกลอยและมีแทร็คแพดในตัว, Smart Keyboard Folio และปก Smart Folio ใหม่ รวมทั้ง Apple Pencil (รุ่นที่ 2) ซึ่งจะยึดติดกับด้านข้างของ iPad ด้วยแม่เหล็กข้างเพื่อให้ง่ายต่อการจับคู่ ชาร์จ และจัดเก็บ1
ขุมพลังของ A14 Bionic
iPad Air มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวด้วย A14 Bionic ซึ่งเป็นชิพที่ล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ Apple ชิพ A14 Bionic รับมือได้แม้กระทั่งแอพที่ต้องใช้พลังการประมวลผลหนักๆ ผู้ใช้จึงตัดต่อวิดีโอ 4K, สร้างสรรค์งานศิลปะอันงดงาม, เล่นเกมแบบสมจริง และอีกมากมายได้อย่างง่ายดายบน iPad Air ชิพ A14 Bionic เป็นหน่วยประมวลผลตัวแรกในโลกที่ใช้กระบวนการผลิตแบบ 5 นาโนเมตร อัดแน่นด้วยทรานซิสเตอร์ 11,800 ล้านตัวเพื่อประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานที่มากขึ้นเกือบทุกส่วนของชิพ ชิพตระกูล A รุ่นล่าสุดนี้ใช้แกนประมวลผลแบบ 6-core ใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับ CPU ได้ถึง 40% และสถาปัตยกรรมกราฟิกแบบ 4-core ใหม่ที่เพิ่มความสามารถด้านกราฟิกได้ถึง 30%2 A14 Bionic ยังมาพร้อม Neural Engine แบบ 16-core ที่เร็วขึ้นเป็น 2 เท่าเพื่อมอบศักยภาพในการเรียนรู้ของระบบแบบล้ำหน้า และสามารถประมวลผลได้ถึง 11 ล้านล้านรายการต่อวินาที จึงช่วยยกระดับแอพที่อาศัยการเรียนรู้ของระบบให้ทำงานได้ดีขึ้นแบบเหนือชั้น นอกจากนี้ ชิพ A14 Bionic ยังมีตัวเร่งความเร็วด้านการเรียนรู้ของระบบรุ่นที่ 2 ใน CPU เพื่อการคำนวณที่รวดเร็วขึ้นถึง 10 เท่าอีกด้วย เมื่อนำ Neural Engine ใหม่, ตัวเร่งความเร็วด้านการเรียนรู้ของระบบใน CPU และ GPU ประสิทธิภาพสูงมารวมเข้าด้วยกัน ระบบต่างๆ ในอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการรู้จำภาพ การเรียนรู้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ การวิเคราะห์การเคลื่อนไหว และอื่นๆ จึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อัพเกรดเพิ่มเติมในรุ่น Air
iPad Air ซึ่งมีกล้องหน้าความละเอียด 7MP สำหรับการโทร FaceTime HD วันนี้มาพร้อมกับกล้องหลัง 12MP แบบเดียวกับที่ใช้ใน iPad Pro เพื่อการถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูงขึ้นและการถ่ายวิดีโอระดับ 4K แล้ว และดีไซน์ใหม่ของ iPad Air ยังประกอบด้วยลำโพงสเตอริโอในโหมดแนวนอนซึ่งจะยกระดับประสบการณ์ด้านเสียงไปอีกขั้น เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับฟังเสียงสเตอริโอที่มีมิติเสียงกว้างขึ้นขณะรับชมวิดีโอ ยิ่งไปกว่านั้น iPad Air ยังมาพร้อมกับพอร์ต USB-C ที่รองรับการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 5Gbps ซึ่งเร็วกว่าเดิมถึง 10 เท่า2 สำหรับการเชื่อมต่อกล้อง ฮาร์ดไดรฟ์ และจอภาพภายนอกความละเอียดสูงสุดถึง 4K และด้วยประสิทธิภาพของ Wi-Fi 6 และการเชื่อมต่อ LTE ที่เร็วขึ้น 60 %3 รวมทั้งชิพ A14 Bionic บอกเลยว่านี่คือ iPad Air ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา
อีกขั้นของความเป็นไปได้ด้วย iPadOS 14
iPadOS 14 จะได้รับการติดตั้งมาพร้อมกับ iPad Air ใหม่ ซึ่งเป็นการนำคุณสมบัติและดีไซน์ใหม่ๆ ที่ใช้ประโยชน์จากความสามารถเฉพาะตัวของ iPad เช่น จอภาพแบบ Multi-Touch และอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานได้หลากหลายมาไว้บน iPad Air iPadOS 14 จะผสานรวม Apple Pencil เข้ากับประสบการณ์การใช้งาน iPad เพื่อมอบความสามารถในการจดโน้ตที่ดียิ่งขึ้นและเพิ่มวิธีใหม่ ๆ ในการทำงานกับโน้ตที่เขียนด้วยลายมือ นอกจากนี้เมื่อผู้ใช้จดโน้ตบน iPad คุณสมบัติ Smart Selection จะใช้การเรียนรู้ของระบบในตัวอุปกรณ์เพื่อแยกแยะระหว่างลายมือและรูปวาด จึงสามารถเลือก ตัด และวางข้อความที่เขียนด้วยลายมือลงในเอกสารอีกฉบับในรูปแบบของตัวพิมพ์ได้อย่างง่ายดายโดยใช้คำสั่งนิ้วที่คุ้นเคย อีกทั้งยังรู้จักรูปทรงต่างๆ ผู้ใช้จึงสามารถวาดรูปทรงเรขาคณิตได้อย่างถูกต้องแม่นยำ โดยที่รูปทรงนั้นจะวางในตำแหน่งที่ต้องการพอดีเมื่อผู้ใช้เพิ่มแผนภาพและภาพประกอบลงในโน้ต ตัวตรวจหาข้อมูลจะทำงานร่วมกับข้อความที่เขียนด้วยลายมือได้อย่างราบรื่น จึงรู้ว่าข้อความใดคือหมายเลขโทรศัพท์ วันที่ ที่อยู่ และลิงก์ ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย เช่น การแตะหมายเลขโทรศัพท์ที่เขียนด้วยลายมือเพื่อโทรออกiPadOS 14 นำคุณสมบัติ “การขีดเขียนข้อความ” มาไว้บน iPad ซึ่งทำให้ผู้ใช้ Apple Pencil เขียนด้วยลายมือลงในช่องข้อความใดๆ ก็ได้โดยตรง และยังช่วยให้การทำสิ่งต่าง ๆ อย่างการตอบกลับ iMessage หรือการค้นหาใน Safari เป็นไปอย่างง่ายดายและรวดเร็วโดยไม่ต้องเก็บ Apple Pencil เลยด้วยซ้ำ คุณสมบัติ “การขีดเขียนข้อความ” จะใช้การเรียนรู้ของระบบในตัวอุปกรณ์เพื่อแปลงลายมือเป็นข้อความในรูปแบบตัวพิมพ์ได้แบบเรียลไทม์ ข้อความที่คุณเขียนจึงปลอดภัยและเป็นส่วนตัวเสมอiPadOS 14 จะทำให้ประสบการณ์การใช้งาน iPad มีความโดดเด่นเฉพาะตัวและทรงประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยวิธีการใหม่ๆ ซึ่งรวมถึง
- ดีไซน์อันกะทัดรัดแบบใหม่หมดสำหรับการรับสาย FaceTime, การโทร, การโต้ตอบกับ Siri และการค้นหาซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้โฟกัสกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ได้
- การค้นหาแบบโดยรวมจะค้นหาแทบทุกสิ่งได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาหรือเปิดแอพ ไปจนถึงการดูรายชื่อผู้ติดต่อ ไฟล์ และข้อมูล หรือแม้แต่การหาคำตอบของคำถามทั่วไปเกี่ยวกับผู้คนหรือสถานที่
- แถบด้านข้างใหม่สำหรับหลายแอพ เช่น แอพรูปภาพและแอพไฟล์ และแถบเครื่องมือที่ปรับให้เรียบง่ายขึ้นโดยรวมการควบคุมต่างๆ ไว้ในที่เดียว ช่วยให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นกว่าที่เคย
- วิดเจ็ตได้รับการออกแบบขึ้นใหม่อย่างสวยงาม โดยจะแสดงข้อมูลที่ใช่ในจังหวะที่ต้องการให้ผู้ใช้เหลือบมองได้ง่ายๆ บนหน้าจอโฮม
กลุ่มผลิตภัณฑ์ iPad ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา
iPad Air รุ่นใหม่ออกแบบมาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและรองรับแผนของ Apple ที่จะมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 iPad Air ใช้ตัวเครื่องที่ทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% และดีบุกที่ผ่านการรีไซเคิล 100% ในบัดกรีของแผงวงจรหลัก ส่วนลำโพงใหม่ใน iPad Air ก็ใช้แม่เหล็กที่ทำจากแร่โลหะหายากที่ผ่านการรีไซเคิล 100% iPad Air ปราศจากสารที่เป็นอันตราย ประหยัดพลังงานสูง และใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นเยื่อไม้ ซึ่งได้มาจากการรีไซเคิลหรือพื้นที่ป่าที่มีการบริหารจัดการอย่างรับผิดชอบ
iPad Air เข้ามารวมกลุ่มกับ iPad Pro อันทรงพลัง, iPad รุ่นที่ 8 และ iPad mini จึงเกิดเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPad ที่ล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา รองรับ Apple Pencil, มาพร้อมประสิทธิภาพชั้นเยี่ยม, จอภาพขั้นสูง และแบตเตอรี่ที่ใช้ได้นานตลอดวัน4 ไม่ว่าลูกค้าจะเน้นความสะดวกในการพกพา ประสิทธิภาพ หรือราคา ก็รับรองได้เลยว่าจะมี iPad ที่เหมาะสำหรับทุกคน ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPad ได้ที่ apple.com/th/ipad/compare
ราคาและความพร้อมให้บริการ
- iPad Air ใหม่ รุ่น Wi-Fi สามารถสั่งซื้อได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปทาง apple.com/th และในแอพ Apple Store และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม ในราคาเริ่มต้นที่ 19,900 บาท iPad Air ใหม่รุ่นความจุ 64GB และ 256GB มีให้เลือกสั่งซื้อใน 5 สี ได้แก่ สีเงิน สีเทาสเปซเกรย์ สีโรสโกลด์ สีเขียว และสีสกายบลู
- iPadOS 14 เป็นระบบปฏิบัติการอันทรงพลังซึ่งออกแบบมาสำหรับ iPad โดยเฉพาะ และมีมาให้ในเครื่องพร้อมกับ iPad Air ใหม่ และจะเปิดให้อัพเดทซอฟต์แวร์ฟรีสำหรับ iPad Pro ทุกรุ่น, iPad Air 2 และใหม่กว่า, iPad รุ่นที่ 5 และใหม่กว่า และ iPad mini 4 และใหม่กว่า
- Apple Pencil (รุ่นที่ 2) มีวางจำหน่ายแยกต่างหากในราคา 4,490 บาท และสามารถใช้งานร่วมกับ iPad Air ได้
- Magic Keyboard และ Smart Keyboard Folio สำหรับ iPad Air มีวางจำหน่ายแยกต่างหากในราคา 9,990 บาท และ 5,990 บาท ตามลำดับ โดยทั้งสองรุ่นมีรูปแบบการจัดวางปุ่มให้เลือกมากกว่า 30 ภาษา รวมถึงจีนตัวย่อ ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น และสเปน
- Smart Folio มีวางจำหน่ายสำหรับ iPad Air ในราคา 2,990 บาทโดยมีให้เลือกทั้งสีดำ สีขาว และอีก 3 สีใหม่ตามฤดูกาล ได้แก่ สีกรมท่าเข้ม สีเขียวไซปรัส และสีชมพูซิตรัส
- iPad Air ใหม่ รุ่น Wi-Fi มีราคาส่งเสริมการศึกษาแบบรายบุคคลสำหรับนักศึกษาปัจจุบัน นักเรียนที่ได้รับการตอบรับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยและผู้ปกครอง รวมถึง คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และผู้สอนแบบโฮมสคูลในทุกระดับชั้น โดยจะวางจำหน่ายในราคา 18,300 บาท Apple Pencil รุ่นที่ 2 มีวางจำหน่ายในราคา 4,190 บาท, Smart Keyboard Folio ในราคา 5,300 บาท และ Magic Keyboard ในราคา 9,300 บาท ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.apple.com/th/education/k12/
- ลูกค้าที่ซื้อ iPhone, iPad, iPod touch, Apple TV หรือ Mac เครื่องใหม่จะสามารถใช้บริการ Apple TV+ ได้ฟรีเป็นเวลา 1 ปีและ Apple Arcade ฟรีเป็นเวลา 3 เดือน ภายในระยะเวลาจำกัด5
- Apple One เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการสมัครใช้บริการทั้งหมดของ Apple ในราคาประหยัด โดยลูกค้าสามารถเลือกแผนบริการที่เหมาะกับตัวเองหรือทั้งครอบครัวได้ ลูกค้าสามารถสมัคร Apple One ได้ตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้
- ลูกค้าสามารถรับบริการด้านการเลือกซื้อสินค้าและความช่วยเหลือต่างๆ ในแบบเดียวกันได้ที่ apple.com/th หรือที่ Apple Store สาขาต่างๆ ลูกค้าสามารถพูดคุยกับ Apple Specialist เพื่อรับความช่วยเหลือในการซื้อสินค้า นำอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์มาแลก รับบริการสนับสนุน และเลือกการจัดส่งโดยไม่มีการสัมผัสตัว หรือเลือกรับสินค้าที่ Apple Store และขอแนะนำให้ลูกค้าตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมที่ apple.com/th/retail เกี่ยวกับมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยรวมทั้งบริการที่มีให้ในแต่ละสาขาที่ลูกค้าสะดวก
- เมื่อซื้อสินค้าออนไลน์จาก Apple ลูกค้าสามารถสลักข้อความบน iPad Air และ Apple Pencil (รุ่นที่ 2) เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของได้ฟรี
- ลูกค้าสามารถขยายระยะเวลาการรับประกันแบบจำกัดด้วย AppleCare+ และรับความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ หรือ AppleCare+ ที่ครอบคลุมถึงการโจรกรรมและการสูญหาย และรับสิทธิพิเศษในการติดต่อกับฝ่ายบริการช่วยเหลือด้านเทคนิคตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
- ลูกค้าทุกคนที่ซื้อ iPad จาก Apple จะมีสิทธิ์ใช้บริการเซสชั่นออนไลน์ส่วนบุคคลกับ Apple Specialist เพื่อช่วยให้ค้นพบวิธีการใช้งาน iPad เครื่องใหม่ที่อาจยังไม่เคยรู้มาก่อน