Apple ยังไม่ทันเปิดตัว iPhone 12 อย่างทางการ แต่มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ iPhone ในปี 2021 ออกมาแล้ว ทั้ง iPhone 13 หรือ iPhone ระดับพรีเมี่ยมที่จะออกมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2021 และ iPhone SE รุ่นที่ 3 ซึ่งเป็น iPhone ราคาประหยัด แต่อาจต้องรอไปถึงปี 2022
Ross Young ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ DSCC (Display Supply Chain Consultants) เคยออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ จอแสดงผลของ iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น ล่าสุดได้ออกมาให้รายละเอียดเกี่ยวกับจอแสดงผลของ iPhone 13 ไว้ดังนี้
iPhone 13 จะมีด้วยกัน 4 รุ่น ทั้งหมดยังใช้วิธียืนยันตัวตนผ่าน Face ID รองรับ 5G และจอแสดงผลใช้เทคโนโลยี Y-OCTA ซึ่งเป็นการรวมชั้นรับการสัมผัสไว้กับแผง OLED จากปกติที่จะแยกจากกัน ช่วยให้อุปกรณ์บางลง
iPhone 13 รุ่น 5.42 นิ้ว มาพร้อมจอแสดงผล OLED จาก Samsung Display และ LG Display รองรับ 5G บนคลื่น Sub-6GHz กล้องคู่หลัง โดยกล้องหลักใช้สเปกเดียวกับ iPhone 12 Pro Max
iPhone 13 รุ่น 6.06 นิ้ว มาพร้อมจอแสดงผล OLED จาก BOE และ LG Display รองรับ 5G บนคลื่น Sub-6GHz กล้องคู่หลัง โดยกล้องหลักใช้สเปกเดียวกับ iPhone 12 Pro Max
iPhone 13 Pro รุ่น 6.06 นิ้ว มาพร้อมจอแสดงผล OLED จาก BOE และ LG Display รองรับ 5G บนคลื่น mmWave + Sub-6GHz กล้องหลัง 3 ตัว ได้รับเซ็นเซอร์ใหม่ พร้อม 3D ToF
iPhone 13 Pro Max รุ่น 6.67 นิ้ว มาพร้อมจอแสดงผล Samsung Display รองรับ 5G บนคลื่น mmWave + Sub-6GHz กล้องหลัง 3 ตัว ได้รับเซ็นเซอร์ใหม่ พร้อม 3D ToF
iPhone SE 3 จะได้รับจอแสดงผล LCD ขนาด 6.06 นิ้ว จาก Sharp หรือ JDI รองรับ 5G บนคลื่น Sub-6GHz กล้องคู่หลัง โดยกล้องหลักใช้สเปกเดียวกับ iPhone 11 และยังคงใช้ Touch ID แต่จะต้องรอไปถึงฤดูใบไม้ผลิ หรือ ช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม ปี 2022