Xiaomi เปิดตัว Mi 10T และ Mi 10T Pro อย่างทางการแล้ว ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของแบรนด์ ที่จอแสดงผลรองรับอัตราการรีเฟรช 144Hz และยังปรับอัตราการรีเฟรชได้อีก ในช่วง 30Hz, 48Hz, 60Hz, 90Hz และ 120Hz เพื่อให้เหมาะสมกับคอนเท้นต์ที่กำลังรับชม และเพื่อประหยัดพลังงานของแบตเตอรี่ด้วย
Xiaomi Mi 10T และ Mi 10T Pro มาพร้อมจอแสดงผล Full HD+ ขนาด 6.67 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 20:9 ความสว่าง 650 นิต สนับสนุน HDR10 ป้องกันรอยด้วยกระจก Gorilla Glass 5 บอดี้ผลิตด้วยวัสดุอะลูมิเนียมอัลลอย ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ขอบด้านข้าง ลำโพงสเตอริโอ และรองรับ Hi-Res Audio
นอกจากจอแสดงผล Xiaomi Mi 10T และ Mi 10T Pro ยังใช้ชิปประมวลผลตัวเดียวกัน Qualcomm Snapdragon 865 ทำงานบนพื้นฐาน Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 12 ความจุแบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W สนับสนุนการเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 6, NFC และ IR Blaster
Xiaomi Mi 10T Pro ได้รับกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 มีระบบกันสั่น OIS ถ่ายวิดีโอ 8K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที, กล้อง Ultrawide 13 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 123 องศา และกล้อง Macro 5 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพใกล้วัตถุในระยะ 2 – 10 เซนติเมตร
กล้องเซลฟี่แบบ In-Display Selfie Camera ติดตั้งไว้ในหลุมที่มุมบนหน้าจอ ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รองรับโหมด Night, HDR และ Slow Motion 120 เฟรมต่อวินาที
Xiaomi Mi 10T มีความแตกต่างที่ระบบกล้องหลัง โดยกล้องหลักมีความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ไม่มีระบบกันสั่น OIS แต่ถ่ายวิดีโอ 8K ได้เช่นกัน ส่วนกล้อง Ultrawide, Macro รวมถึงกล้องหน้า เหมือนกับ Mi 10T Pro
Xiaomi Mi 10T มีราคาเริ่มต้นที่ 499 ยูโร หรือราว 18,590 บาท สำหรับรุ่น RAM 6GB + ROM 128GB และราคา 549 ยูโร หรือราว 20,390 บาท สำหรับรุ่น RAM 8GB + ROM 128GB
Xiaomi Mi 10T Pro แขวนป้ายราคาไว้ที่ 599 ยูโร หรือราว 22,290 บาท สำหรับรุ่น RAM 8GB + ROM 128GB และราคา 649 ยูโร หรือราว 24,090 บาท สำหรับรุ่น RAM 8GB + ROM 256GB
นอกจาก Xiaomi Mi 10T และ Mi 10T Pro ยังมีรุ่นน้องให้เลือกด้วย เรียกว่า Xiaomi Mi 10T Lite ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ได้รับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 750G และมาพร้อมจอแสดงผล 120Hz