ในที่สุดสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกของ OPPO เปิดตัวในไทยทางการแล้ว โดยมีชื่อเรียกให้จำง่ายว่า OPPO Watch มาในดีไซน์หรูหรา มีให้เลือก 2 ขนาด 41 มม. และ 46 มม. สวมใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการ Wear OS ที่ Google ออกแบบมาสำหรับสมาร์ทวอทช์โดยเฉพาะภายใต้คอนเซ็ป “เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณ” มาดูกันได้เลยว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
แกะกล่อง OPPO Watch
OPPO Watch ถูกบรรจุไว้ในกล่องสีขาว รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า บนฝากล่องพิมพ์รูปภาพด้านหน้าของสมาร์ทวอทช์ ตามด้วยชื่อผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายในกล่อง
หลังกล่องมีการติดสติกเกอร์ที่ให้ข้อมูลของ OPPO Watch อย่างเช่น ขนาด, รหัสรุ่น, การเชื่อมต่อที่รองรับ และข้อมูลเกี่ยวกับผู้ผลิต
เมื่อเปิดฝาออกก็จะพบกับ OPPO Watch ตามสีและขนาดที่เลือกซื้อมา โดยมีการติดตั้งสายรัดข้อมือมาให้แล้ว
ชั้นถัดมาจะเป็นที่เก็บอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ Watch VOOC Flash Charging ที่ออกแบบมาให้เป็นแท่นวาง สำหรับวาง OPPO Watch ลงไป โดยให้หมุดแม่เหล็กทั้ง 4 จุด ที่อยู่ด้านหลังของสมาร์ทวอทช์ กับอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่สัมผัสกัน จากนั้นก็นำสายเคเบิลไปเสียบกับพอร์ต USB เพื่อชาร์จแบตเตอรี่
อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ของ OPPO Watch มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Watch VOOC Flash Charging สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% จนเกือบถึง 30% ในเวลา 15 นาทีซึ่งเพียงต่อการใช้งานตลอดทั้งวัน และชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลา 75 นาที
ข้างอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ เป็นซองใส่คู่มือการใช้งาน เอกสารรับประกันสินค้าและยังที่รัดสายรัดข้อมือสำรองมาให้อีก 1 อันด้วย
ดีไซน์ทันสมัยเข้าได้กับทุกลุคทุกสไตล์
ตัวเรือน OPPO Watch ใช้วัสดุอลูมิเนียมอัลลอย ซีรี่ส์ 6000 เป็นโครงสร้างหลัก ส่วนสายรัดข้อมือทำมาจากยางฟลูออรีน เพื่อให้สวมใส่ได้อย่างสบายข้อมือ และยังทนทานเมื่อสัมผัสกับน้ำ
OPPO Watch ถูกออกแบบมาให้กันน้ำได้ พร้อมด้วยฟีเจอร์ติดตามการว่ายน้ำ โดยรุ่น 46mm กันน้ำได้ในระดับ 5ATM หรือ 50 เมตร ส่วนรุ่น 41mm กันน้ำได้ในระดับ 3ATM หรือ 30 เมตร
OPPO Watch รุ่น 46mm ถือเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกโรกที่ใช้กระจกจอบโค้ง 3D Flexible Dual-Curved Display จึงมีขอบจอที่บางเฉียบ โดยใช้จอแสดงผล AMOLED ความละเอียด 402 x 476 พิกเซล ขนาด 1.91 นิ้ว
ถือว่ามีหน้าจอใหญ่ดูง่ายสบายตากว่าสมาร์ทวอทช์ทั่วไป และยังให้ความคมชัดสูงด้วยการสนับสนุนขอบเขตสีกว้าง DCI-P3 100% ความหนาแน่นพิกเซล 326 PPI และมีอัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 72.76%
OPPO Watch รุ่น 41mm ใช้จอแสดงผล AMOLED ความละเอียด 320 x 360 พิกเซล ขนาด 1.6 นิ้ว ความหนาแน่นพิกเซล 301 PPI และมีอัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 65.22%
ด้านข้างตัวเรือนติดตั้งปุ่มกดมาให้ 2 ปุ่ม โดยปุ่มบนเป็นปุ่มโฮม ส่วนอีกปุ่มที่มีขีดสีเขียว เป็นปุ่มมัลติฟังก์ชั่น สามารถตั้งค่าให้เปิดฟีเจอร์ที่ต้องการได้ และใช้เป็นปุ่มเปิด-ปิดเครื่องเมื่อกดค้างไว้
อีกฝั่งจะเป็นช่องลำโพง สามารถใช้รับสายได้ ให้เสียงดังฟังชัดดีทีเดียว
พลิกมาดูที่ด้านหลังของ OPPO Watch จะพบกับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคอล ถัดลงมาเป็นหมุดสำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ ส่วนปุ่มที่ติดตั้งอยู่ชิดขอบบนกับขอบล่าง เป็นปุ่มปลดล็อคเพื่อถอดสายรัดข้อมือ นั่นทำให้เจ้าของ OPPO Watch สามารถถอดเปลี่ยนสายได้อย่างง่ายดาย ในอนาคตน่าจะมีสายอีกหลายแบบออกมาด้วย รอชมกันได้
การใช้งานหน้าจอของ OPPO Watch นั้นเป็นระบบสัมผัส ปัดลงมาจะเป็นการเข้าเมนูลัดในการใช้งานในชีวิตประจำวัน แสดงการเชื่อมต่อว่าใช้ Bluetooth หรือ Wifi รวมถึงพลังปริมาณแบตเตอรี่
ด้านล่างจะมีไอค่อน ปิด เปิดเสียง โหมดใช้งานบนเครื่องบิน เข้าไปยังเมนูการตั้งค่าตัวเครื่อง โหมดการนอนหลับปิดการแจ้งเตือนต่างๆ โหมดดูหนัง การเปิดโหมดประหยัดพลังงาน รวมถึงยังใช้เป็นไฟฉายได้อีกด้วย
ปัดขึ้นจะเป็นแสดงการแจ้งเตือนต่างๆล่าสุด จากสมาร์ทโฟนไม่ว่าจะเป็น Facebook ,Twitter,LINE ,อีเมล ,สายที่ไม่ได้รับ หรือ Messenger อื่นๆ รวมถึงเกมต่างๆ ก็จะมาแจ้งเตือนที่ OPPO Watch ทั้งหมด
ปัดไปทางซ้ายจะเข้าสู่หน้าแสดงการ์ดทั้งหมด 5 หน้าได้แก่ กิจกรรมตลอดวันของเราทั้ง จำนวนก้าวเดิน เวลาที่ออกกำลัง แคลอรี่ ,ข้อมูลการวัดชีพจร ,แสดงโหมดการออกกำลังกาย และ รายละเอียดการนอนหลับ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มหน้าแสดงรายละเอียดอื่นๆที่ต้องการใช้งานได้อีก 1 หน้าผ่านแอพ Wear OS
ปัดไปทางขวาจะเข้าสู่การใช้งาน Google Assistant ได้ทันที รองรับการสั่งงานด้วยเสียงอีกด้วย
กดค้างบนหน้าปัดจะสามารถเลือกเปลี่ยนหน้าปัดใหม่ที่ต้องการได้ทันที
ปรับแต่งหน้าจอตามสไตล์ที่ชอบ
OPPO Watch มีจอแสดงผลที่สวยงามคมชัดสว่างสุดถึง 1000 Nit ทำให้ใช้งานกลางแจ้งได้เป็นอย่างดี แต่นอกเหนือจากนั้น ยังสามารถปรับแต่งหน้าปัด หรือ Watch Face ได้หลากหลายรูปแบบ ผ่านแอพพลิเคชั่น Wear OS by Google บนสมาร์ทโฟน ที่ต้องทำการดาวน์โหลดมาติดตั้งก่อนทำการจับคู่ OPPO Watch กับสมาร์ทโฟนที่ใช้งาน
Watch Face แต่ละแบบที่มีมาให้ มีการแสดงผลกราฟิกที่แตกต่างกัน รวมถึงข้อมูลบนหน้าปัดก็แตกต่างกันด้วย ขึ้นอยู่กับว่าผู้สวมใส่ให้ความสำคัญกับข้อมูลใดเป็นพิเศษ แต่ OPPO Watch มีฟีเจอร์พิเศษที่ช่วยผู้ใช้งานสามารถออกแบบหน้าปัดได้เองกับฟีเจอร์ AI Outfit
AI Outfit ช่วยให้เจ้าของ OPPO Watch สามารถออกแบบ Watch Face ได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้เข้ากับสไตล์การแต่งตัวที่แตกต่างกันในแต่ละวัน โดยใช้กล้องของสมาร์ทโฟนถ่ายภาพเสื้อผ้า จากนั้น AI ใน OPPO Watch จะสร้าง Watch Face ขึ้นมาให้เลือก ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบโดยมีสีสันที่เข้ากับเสื้อผ้าที่ใส่ในแต่ละวัน ซึ่งต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่น HeyTap Health ก่อน
ถ้าต้องการใช้ภาพถ่ายหรือรูปภาพที่ชื่นชอบ มาตั้งค่าเป็น Watch Face ก็ทำได้เช่นกัน โดยสามารถเข้าไปเลือกภาพถ่ายที่เก็บไว้ในแอพรูปภาพได้เลย
จอแสดงผลของ OPPO Watch ยังรองรับฟีเจอร์ Always On Display และมีเซ็นเซอร์ช่วยเปิดหน้าจออัตโนมัติ เมื่อบิดหมุนข้อมือ นั่นหมายถึง ผู้สวมใส่สามารถยกแขนขึ้นมาดูหน้าปัดนาฬิกาได้ทันที เหมือนสวมใส่นาฬิกาข้อมือทั่วไป
ระบบปฏิบัติการ Wear OS by Google
OPPO Watch ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Wear OS ของ Google อย่างสมบูรณ์ ซึ่งมาพร้อมแอพและบริการจาก Google ที่ออกแบบมาสำหรับสมาร์ทวอทช์อย่างครบถ้วน เข้าถึงทุกแอพได้ง่ายๆ จากหน้าโฮม ด้วยการกดปุ่มโฮมหนึ่งครั้ง ก็จะพบกับไอคอนของแต่ละแอพ รวมถึงฟีเจอร์ทั้งหมด
Wear OS by Google มาพร้อมผู้ช่วยดิจิตอล Google Assistant สามารถเรียกใช้งานได้ด้วยการกดปุ่มโฮมค้างไว้ และยังมีแอพ Google Translate สามารถแปลภาษาได้ด้วยคำสั่งเสียงแทนการพิมพ์ นอกจากนี้ ยังสามารถดาวน์โหลดแอพหรือหน้าปัดอื่นๆเพิ่มเติมได้จาก Play Store ได้อีกหลายร้อยแอพเลยทีเดียว และยังสามารถควบคุมเพลงที่ข้อมือได้ทันทีไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
โหมดติดตามการออกกำลังกาย
OPPO Watch ติดตั้งเซ็นเซอร์ติดตามกิจกรรมหรือการออกกำลังกายมาให้ 5 ตัว เพื่อให้การวิเคราะห์และตรวจจับทำได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถติดตามการออกกำลังกายได้จากแอพ Workouts ที่พัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งมีโหมดติดตามการออกกำลังกาย 5 รูปแบบ ได้แก่ Fitness Run, Fat Burn Run, Outdoor Walk, Outdoor Cycling และ Swimming
โหมดติดตามการออกกำลังกายของ OPPO Watch เพียงพอสำหรับการติดตามรูปแบบการออกกำลังกายของคนส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน, วิ่ง, ขี่จักรยาน และ ว่ายน้ำ
ซึ่งหมายถึงสามารถสวมใส่ OPPO Watch ลงไปว่ายน้ำในสระได้ โดยรุ่น 46mm กันน้ำได้ในระดับ 5ATM (50 เมตร) และรุ่น 41mm กันน้ำได้ในระดับ 3ATM (30 เมตร)
นอกจากนี้ OPPO Watch ยังรองรับ Google Fit แอพติดตามสุขภาพที่ Google พัฒนาร่วมกับองค์การอนามัยโลก และสมาคมแพทย์โรคหัวใจอเมริกัน สามารถติดตามได้มากกว่า 90 รายการ เพื่อปรับปรุงกิจกรรมของผู้สวมใส่ ให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น
สำหรับฟีเจอร์ทีน่าสนใจอื่นๆของ OPPO Watch ก็มีทั้งรองรับการรับสายที่ตัวนาฬิกาเลยมีลำโพงเสียงดังฟังชัด รวมถึงสามารถกดโทรออกได้ การวัดการเต้นของชีพจร ตรวจจับการนอนหลับ รายงานสภาพอากาศ บันทึกเสียง ทำสมาธิ นาฬิกาจับเวลา และแปลภาษา
และโหมดออกกำลังกายครั้งละ 5 นาทีพร้อมมีวิดีโอตัวอย่างให้ชมบนข้อมือได้เลยอีกด้วย มีทั้งหมด 5 แบบ ตั้งแต่ออกกำลังยามเช้า จนถึงการยืดเส้นก่อนเข้านอนทีเดียว
แบตเตอรี่ใช้งานยาวนานสูงสุดถึง 21 วัน ชาร์จเร็ว Watch VOOC Flash Charging
OPPO Watch รุ่น 46mm มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 430mAh ให้พลังงานยาวนานถึง 21 วัน ด้วยโหมด Power Saver Mode หรือใช้งานทั่วไปได้นาน 36 ชั่วโมง เมื่อใช้โหมด Smart Mode ส่วนรุ่น 41mm มีความจุแบตเตอรี่ 300mAh ให้พลังงานยาวนาน 14 วัน ด้วยโหมด Power Saver Mode หรือ 24 ชั่วโมง เมื่อใช้โหมด Smart Mode
ถึงแม้จะมีความจุแบตเตอรี่แตกต่างกัน แต่ทั้ง 2 รุ่น ก็สนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Watch VOOC Flash Charging เช่นเดียวกัน สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 ถึงระดับ 46% ในเวลา 15 นาที ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดทั้งวัน และสามารถชาร์จจาก 0 จนเต็ม 100% ในเวลา 75 นาที ต่อให้แบตเตอรี่จะหมดหรือลืมชาร์จก็ไม่เป็นปัญหา
สรุป
OPPO Watch ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยหรูและโดดเด่นเมื่อรัดอยู่บนข้อมือ แต่นอกเหนือจากดีไซน์ที่สวยงามแล้ว ยังมีน้ำหนักเบา สวมใส่ได้อย่างสบายมือ มาพร้อมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่สามารถติดตามกิจกรรมหรือการออกกำลังกายได้อย่างแม่นยำ ตอบสนองการใช้งานด้วย Wear OS by Google ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
โดยมีจุดเด่นที่จอแสดงผลคมชัดขนาดใหญ่ โดยเฉพาะรุ่น 46mm ที่มีขอบจอโค้ง 3D และมีแบตเตอรี่ที่ให้อายุการใช้งานยาวนาน แถมยังรองรับชาร์จเร็ว ใช้เวลาชาร์จเพียง 15 นาที ก็พร้อมนำไปใช้งานได้ตลอดทั้งวัน เหมาะสำหรับชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน
OPPO Watch Series มี 2 รุ่นด้วยกัน คือ OPPO Watch 41mm มาในสีชมพ Pink Gold และ สีดำ Black ราคา 5,999 บาท และ OPPO Watch 46mm มาในสี Black ราคา 7,999 บาท พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยสามารถผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน พร้อมประกันตัวนาฬิกาสูงสุด 1 ปี สามารถตรวจสอบเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่จุดจำหน่าย เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด