มาแล้วรีวิวฉบับเต็มของหูฟังไร้สายแบบ True Wireless Stereo จากทาง Vivo ที่วันนี้พร้อมทำตลาดในประเทศไทยอย่างทางการแล้ว กับ Vivo TWS Neo ซึ่งทีมงาน @flashfly ได้แกะกล่องพรีวิวให้ชมกันไปก่อนหน้าแล้วในวันเปิดตัวที่ผ่านมา และถึงเวลาแล้วที่เราจะแนะนำให้รู้จักกับ Vivo TWS Neo มากยิ่งขึ้นด้วยรีวิวฉบับเต็มในวันนี้
ดีไซน์โดดเด่น
Vivo TWS Neo ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามตั้งแต่ตัวเคสชาร์จ สร้างความโดดเด่นกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะสีน้ำเงินเข้ม Starry Blue ที่ดูเหมือนจะได้แรงบันดาลใจมาจากท้องฟ้าในเวลากลางคืน
เป็นเฉดสีที่ Vivo เคยใช้มาแล้วกับสมาร์ทโฟน จึงมีความสวยงามไม่แพ้งานออกแบบของสมาร์ทโฟน อีกทั้งยังมีสีขาว Moonlight White เป็นอีกทางเลือก
ด้านหน้าเคสชาร์จมีหลอดไฟ LED แสดงสถานะแบตเตอรี่ ถัดลงมาเป็นปุ่มฟังก์ชั่น สำหรับกดเพื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนในการจับคู่ครั้งแรก ส่วนด้านล่างเคสชาร์จมีพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่
หูฟังด้านในใช้สีเดียวกับตัวเคส น้ำหนักเบาเพียง 4.7 กรัม มาในดีไซน์กึ่งอินเอียร์ จึงสวมใส่เป็นเวลานานได้อย่างสบายหู และยังป้องกันน้ำ-ฝุ่นในระดับ IP54
หูฟัง Vivo TWS Neo ทั้ง 2 ข้าง ติดตั้งไมโครโฟนมาให้ 2 ตัว ตัวหลักอยู่ด้านล่างของก้าน สำหรับรับเสียงการสนทนา ส่วนอีกตัวอยู่ด้านหลังหูฟัง สำหรับดักเสียงรบกวนรอบข้าง
ด้านหลังหูฟังทั้ง 2 ข้าง ยังมีเซ็นเซอร์รับการสัมผัส สำหรับควบคุมการใช้งานและเปิดใช้ฟีเจอร์ต่างๆ
วิธีจับคู่และการใช้งาน
หูฟัง Vivo TWS Neo สามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟน Vivo ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่นำหูฟังมาใกล้กับสมาร์ทโฟนแล้วเปิดฝาเคส ก็จะเชื่อมต่อกันทันที พร้อมแสดงหน้าต่างป๊อปอัพที่มีรูปภาพหูฟังกับเคสชาร์จ เพื่อบอกระดับแบตเตอรี่ของหูฟังทั้ง 2 ข้าง และ เคสชาร์จ
สำหรับการกับสมาร์ทโฟนอื่นก็รองรับทั้ง Android และ iPhone โดยการเชื่อมต่อครั้งแรกต้องเข้าไปในแอพ Settings > Bluetooth เพื่อเปิดการเชื่อมต่อและค้นหาอุปกรณ์ จากนั้นเปิดฝาเคสชาร์จและกดปุ่มฟังก์ชั่นด้านหน้าเคสค้างไว้ราว 2 วินาที จนพบชื่อ Vivo TWS Neo จากนั้นให้แตะที่ชื่อหูฟังเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้าด้วยกัน
Vivo TWS Neo รองรับการควบคุมด้วยระบบสัมผัส สามารถปรับระดับเสียง (ดัง/เบา) ด้วยการถูที่ด้านหลังของหูฟัง ไม่ต้องเสียเวลาไปปรับที่สมาร์ทโฟน โดยถูขึ้นเพื่อเพิ่มเสียง และถูลงเพื่อลดเสียง (สามารถตั้งค่าให้ปรับระดับเสียงได้ทั้ง 2 ข้าง หรือ ข้างใดข้างหนึ่ง)
หูฟังทั้ง 2 ข้าง รองรับการแตะ 2 ครั้ง โดยสามารถเข้าไปตั้งค่าเพื่อใช้งานตามฟีเจอร์ที่ต้องการ จากตัวเลือกต่อไปนี้… เรียกใช้ผู้ช่วยเสียง, เล่น/หยุดเล่น, เล่นเพลงที่แล้ว, เล่นเพลงถัดไป และปิดใช้งานการแตะ 2 ครั้งได้ อีกทั้งยังรองรับการแตะค้างไว้ เมื่อต้องการวางสายหรือปฏิเสธสายเรียกเข้า
ด้วยการส่งสัญญาณแบบ Dual Channel 2.0 ช่วยให้หูฟังทั้ง 2 ข้าง สามารถแยกการทำงานได้อย่างอิสระ เลือกใช้งานเฉพาะข้างใดข้างหนึ่งก็ได้ และ Vivo TWS Neo ยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ เมื่อถอดหูฟังออกจากหูขณะฟังเพลง เสียงจะหยุดเล่นโดยอัตโนมัติ และจะเล่นต่อทันที เมื่อสวมหูฟังกลับเข้าไป
คุณสมบัติที่น่าสนใจ
Vivo TWS Neo มาพร้อมไดรเวอร์ไดนามิคขนาดใหญ่ 14.2 มิลลิเมตร ผสานกับ Bio-fiber Composite Diaphragm และขดลวดทองแดง Daikoku ที่มีคุณภาพจากประเทศญี่ปุ่น ช่วยให้หูฟัง Vivo TWS Neo มีคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ ให้เสียงเบสทรงพลัง เสียงกลางที่นุ่มนวล และให้รายละเอียดที่ดีในเสียงความถี่สูง
Vivo TWS Neo สนับสนุนการเข้ารหัสเสียง SBC, AAC และ aptX Adaptive เทคโนโลยีจาก Qualcomm รองรับไฟล์เสียงคุณภาพสูง 48KHz / 24bit สูงกว่าค่ามาตรฐานของ Audio CD
Vivo TWS Neo อาศัยประสบการณ์การทำงานด้านเสียงมาหลายปี คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยี Deep X โดยใช้หลักการสร้างเสียงแบบ Deep Field คมชัดทุกย่านเสียง ด้วยการเพิ่มความถี่เสียงของผู้ใช้งาน ตั้งแค่คลื่นความถี่ 1000 – 3000Hz และสามารถปรับเอฟเฟกต์เสียงตามสไตล์ที่ชื่นชอบได้ในฟีเจอร์ Earphone sound effect จากแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน
เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ Earphone sound effect จะสามารถปรับเสียงเอฟเฟกต์ได้ 3 แบบ ตามสไตล์การฟังเพลง ได้แก่ Clear voice ให้รายละเอียดเสียงที่ชัดเจนในทุกมิติ, Mega bass เน้นเสียงทุ้มที่หนักแน่น และ Clear high pitch ให้เสียงสูงที่คมชัด
Vivo TWS Neo รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลและสัญญาณเสียงที่รวดเร็วขึ้น เสถียรขึ้น และให้รัศมีการเชื่อมต่อในระยะ 10 เมตร
Vivo TWS Neo ยังมีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนด้วย AI เรียกว่า SmartSound และเทคโนโลยีลดเสียงแทรกซ้อนอัจฉริยะ โดยอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างโปรเซสเซอร์ชั้นนำด้านเสียง และไมโครโฟนคู่ สามารถลดเสียงรบกวนรอบข้างระหว่างการโทร และเพิ่มเสียงผู้ใช้งานกับปลายสายได้พร้อมกัน ช่วยให้เสียงสนทนาชัดเจน รวมถึงให้คุณภาพเสียงที่ดีสำหรับการฟังเพลง
ด้วยความที่ Vivo TWS Neo เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็ก อาจทำตกหายได้ง่าย Vivo จึงพัฒนาฟีเจอร์ Find earphones มาให้ด้วยในแอพพลิเนชั่นบนสมาร์ทโฟน สามารถเข้าไปติดตามค้นหาตำแหน่งล่าสุดของหูฟังได้ โดยจะแสดงตำแหน่งบนแผนที่ และเมื่อเข้าใกล้หูฟังในรัศมี 10 เมตร ของ Bluetooth ก็สามารถสั่งให้หูฟังเล่นเสียงได้ เพื่อให้ค้นเจอได้ง่ายขึ้น
Vivo TWS Neo ยังให้ค่าความหน่วงต่ำ ซึ่งหมายความว่า การฟังเสียงจากวิดีโอ จะให้เสียงที่ตรงกับภาพ ไม่ดีเลย์ และถ้าเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของ Vivo จะให้ค่าความหน่วงต่ำเพียง 88 มิลลิวินาที
อายุการใช้งานยาวนานสูงสุด 22.5 ชั่วโมง
หูฟังแต่ละข้าง มีความจุแบตเตอรี่ 25mAh สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 4.5 ชั่วโมง ส่วนเคสชาร์จมาพร้อมแบตเตอรี่ 400mAh สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับหูฟังได้อีก 4 ครั้ง ทำให้หูฟัง Vivo TWS Neo มีอายุการใช้งานยาวนานสูงสุด 22.5 ชั่วโมง ไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดก่อนระหว่างวัน
ทั้งนี้ เคสชาร์จจะใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ให้กับหูฟังจนเต็ม ในเวลา 45 นาที และชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวเคสเองในเวลา 100 นาที
Vivo TWS Neo พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป ราคา 2,999 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Starry Blue และ Moonlight White หาซื้อได้ที่ Vivo Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายชั้นนำ BaNANA, CSC, IT CITY, TG FONE, Jaymart, Maxlink, IBIZ, PTE, Stamp, Team, Boonchai และ Advice