ปัจจุบันสมาร์ทโฟน realme C series มีผู้ใช้งานมากถึง 13 ล้านราย นับเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม เมื่อเทียบกับแบรนด์ที่ก่อตั้งมาได้เพียง 2 ปีกว่า ซึ่งล่าสุดก็ได้เปิดตัว realme C11 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ C series ที่มาพร้อมสโลแกน “แบตใหญ่ สนุกไม่สะดุด” โดยทีมงาน @flashfly ได้แกะกล่องพร้อมพรีวิวให้ชมกันไปก่อนหน้านี้ และคราวนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะพาไปทำความรู้จักกับ realme C11 ให้มากขึ้น เพื่อดูว่าสมาร์ทโฟนสุดคุ้มรุ่นนี้ มีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง
สเปกหลักของ realme C11
- จอแสดงผล HD+ ขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมรอยบาก Mini-drop
- แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับการใช้งานเป็น Power Bank
- กล้องคู่หลัง 13MP AI Dual Camera รองรับ Super NightScape
- กล้องหน้า 5MP รองรับ AI Beauty
- ชิปประมวลผล MediaTek Helio G35
- ความจำ RAM 2GB จับคู่กับ ROM 32GB
- รองรับเครือข่าย 4G LTE
- สนับสนุน 2 ซิมการ์ด แบบ Triple Slot (2 SIM + 1 MicroSD)
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 5.0
- ขนาดบอดี้ 164.4 x 75.9 x 9.1 มิลลิเมตร น้ำหนัก 196 กรัม
- ระบบปฏิบัติการ realme UI บนพื้นฐาน Android 10
ดีไซน์รูปทรงเรขาคณิต
realme C11 ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามและโดดเด่น เกินกว่าจะเรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัด โดยเฉพาะด้านหลังที่มีเอฟเฟกต์สะท้อนแสงอย่างมีมิติ ซึ่งเกิดจากกระบวนการผลิตที่ใช้เครื่องแกะสลักเรเดียมแบบ 5 แกนที่มีความแม่นสูงจากจากประเทศเยอรมนี
จนเกิดเป็นเส้นโค้งมากกว่า 450 เส้น และยังผ่านกระบวนการขัดอีก 300 นาที ซึ่งไม่เพียงแต่จะให้ความสวยงาม ยังช่วยป้องกันรอยขีดข่วน และรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี
พื้นผิวด้วยหลังยังเสริมความสวยงามด้วยแถบแนวยาวพาดผ่านกล้องหลัง ที่มีกรอบรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส พร้อมโลโก้ realme ในแนวตั้ง ซึ่งจะดูดียิ่งขึ้นเมื่อจับถือสมาร์ทโฟนในแนวนอน ไม่ว่าจะใช้งานกล้อง หรือ รับชมวิดีโอ และผลิตออกมาให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเขียว Mint Green กับ สีเทา Pepper Grey
ทั้งนี้ ดีไซน์ในภาพรวมที่มาจากรูปทรงเรขาคณิต ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพวาดศิลปะของ Piet Mondrian
พลิกมาที่ด้านหน้า จะเห็นว่าพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นจอแสดงผลถึง 88.7% ซึ่งเป็นอัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้
โดยมาพร้อมจอแสดงผล HD+ (1600 x 720 พิกเซล) ขนาด 6.5 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 20:9 และมีรอยบากแบบหยดน้ำ Mini-drop ขนาดเล็กลงกว่ารุ่นก่อนถึง 30.9%
กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ติดตั้งไว้ในรอยบาก ใช้สำหรับถ่ายซลฟี่ และรองรับฟีเจอร์ Face Unlock สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค เหนือขึ้นไปจะพบกับตะแกรงลำโพง
ส่วนขอบด้านข้างมีความบาง 9.1 มิลลิเมตร ติดตั้งปุ่มปรับระดับเสียง กับปุ่มเพาเวอร์ ไว้ทางฝั่งเดียวกัน
อีกข้างมีถาดใส่การ์ดแบบ 3 ช่อง สามารถวางซิมการ์ดได้ 2 ช่อง และยังใส่การ์ดความจำ MicroSD ได้อีก 1 ช่อง โดยรองรับความจุสูงสุด 256GB
ด้านบนถูกปล่อยให้เรียบ ไม่เห็นตำแหน่งของไมโครโฟนตัวที่ 2
ส่วนด้านล่างประกอบไปด้วยลำโพงตัวหลัก, ช่องเชื่อมต่อ Micro USB, ไมโครโฟน และ ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ถึงแม้ realme C11 จะเป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นความคุ้มค่าคุ้มราคา แต่ก็ได้รับการออกแบบมาอย่างมีคุณภาพ ผ่านการทดสอบการตกกระแทก ที่ความสูง 10 เซนติเมตร 56,000 ครั้ง, ทดสอบปุ่มเพาเวอร์ 200,000 ครั้ง, ทดสอบปุ่มปรับระดับเสียง 100,000 ครั้ง, ทดสอบความแข็งแรงของพอร์ตชาร์จ 10,000 ครั้ง, ทดสอบการเสียบชาร์จเข้า-ออก 10,000 ครั้ง และ ทดสอบการเสียบรูหูฟังเข้า-ออก 10,000 ครั้ง
กล้องเซลฟี่รองรับโหมด Portrait และ AI Beauty
realme C11 มาพร้อมกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 รองรับโหมดถ่ายภาพ Portrait, AI Beauty, HDR, Panorama และ Filter กล้องหน้าสามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียด Full HD 1080p พร้อมด้วยโหมด Timelapse
กล้องคู่หลัง AI Dual Camera รองรับโหมด Super Nightscape
เมื่อกวาดสายตามองไปที่สมาร์ทโฟนในราคาใกล้เคียงกัน จะพบว่า realme C11 มีจุดเด่นที่คู่กล้องหลัง ซึ่งรองรับโหมด Super Nightscape อัลกอริทึมที่ช่วยให้ถ่ายภาพหลายภาพในระดับแสงที่แตกต่างกัน จากนั้นรวมเข้าเป็นภาพเดียว โดยรวบรวมส่วนที่ดีที่สุดในแต่ละภาพ ทำให้ภาพมีความสว่างและคมชัดมากขึ้น จึงสามารถถ่ายภาพเวลากลางคืนได้ดีที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนระดับเดียวกัน
- กล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ประกอบด้วย 5 ชิ้นเลนส์
- กล้องรอง 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ช่วยถ่ายภาพบุคคล
กล้องตัวหลัก สามารถจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบ PDAF สามารถซูมได้สูงสุด 4 เท่า แบบดิจิตอล และมีกล้องรองช่วยให้การถ่ายภาพในโหมด Portrait ออกมาสวยงาม ด้วยเอฟเฟกต์โบเก้ละลายฉากหลังอย่างเป็นธรรมชาติ
กล้องคู่หลังของ realme C11 รองรับโหมดถ่ายภาพ Portrait, AI Beauty, HDR, Panorama, Filter, Expert และ Super NightScape ถ่ายวิดีโอสูงสุด Full HD 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที พร้อมด้วยโหมด Timelapse และ Slo-mo
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ประสิทธิภาพเกินราคา
realme C11 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio G35 Octa Core 2.3GHz พร้อมจีพียู IMG PowerVR GE8320 680MHz ผลิตด้วยเทคโนโลยี 12nm FinFET ตอบสนองการเล่นเกมได้ดีเกินความคาดหมาย อย่างเกม ROV สามารถแสดงเฟรมเรทได้สูงสุดถึง 61fps เลยทีเดียว ส่วนเกมดังอื่นๆก็เล่นได้แต่ภาพกราฟิก
ด้านความจำมาพร้อม RAM 2GB แบบ LPDDR4X จับคู่กับ ROM 32GB และสามารถเก็บข้อมูลเพิ่มเติมได้อีก 256GB ผ่านการ์ดความจำ MicroSD
ทำงานบน realme UI
realme C11 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ realme UI ซึ่งมีเบื้องหลังเป็น Android 10 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น ลดระยะเวลา App Booting ได้ถึง 25% ลดความล่าช้าของระบบสัมผัส 35% ประสิทธิภาพการเล่นเกมเพิ่มขึ้น 20% ทำให้การใช้งานโดยรวมลื่นไหลมากขึ้น 20% และยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างเช่น…
Focus Mode เป็นโหมดที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานผ่อนคลายจากโลกภายนอก โดยระบบจะหยุดการทำงานของแอพพลิเคชันที่กำหนดไว้ชั่วคราว และเปิดโหมด DND (Do Not Disturb) เพื่อปิดการแจ้งเตือนที่รบกวนต่างๆ พร้อมเปิด Ambient Sounds เสียงดนตรีที่ฟังแล้วรู้สึกฟังสบาย
Dark Mode เปลี่ยนธีมของ User Interface ให้เป็นโทนสีเข้ม เพื่อความสบายต่ และสามารถเปิด Dark Mode โดยอัตโนมัติในเวลากลางคืน รวมถึง 3-Finger Selected Screenshot จับภาพหน้าจอโดยการใช้ 3 นิ้วแตะค้างไว้ที่หน้าจอ
Personal Information Protection ระบบป้องกันข้อมูลส่วนตัว ด้วยการเข้ารหัสรักษาความปลอดภัย ภาพถ่าย วิดีโอ ไฟล์เสียงรวมทั้งเอกสารและเก็บไฟล์สำคัญทั้งหมด
นอกจากนี้ realme UI ยังพัฒนาขึ้นมาเพื่อทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 10% และ ลดการใช้พลังงานเมื่อเปิดโหมดสแตนด์บายข้ามคืน 35%
แบตใหญ่ สนุกไม่สะดุด
อีกหนึ่งไฮไลท์ของ realme C11 ที่มาของสโลแกน “แบตใหญ่ สนุกไม่สะดุด” นั่นก็คือ ความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh
จากการทดสอบในห้องทดลองของ realme พบว่าสามารถสแตนด์บายได้นานสูงสุด 40 วัน, สนทนานานสูงสุด 31.95 ชั่วโมง, ดูวิดีโอนานสูงสุด 21.61 ชั่วโมง, ดูวิดีโอออนไลน์บน YouTube นานสูงสุด 19.11 ชั่วโมง, ฟังเพลงออฟไลน์นานสูงสุด 169.85 ชั่วโมง และเล่นเกม PUBG ได้นานสูงสุด 10.19 ชั่วโมง
realme C11 ยังรองรับฟีเจอร์ Reverse Charging สามารถใช้งานเป็น Power Bank ชาร์จแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์อื่นได้ ผ่านสาย OTG
สรุป
realme C11 เป็นสมาร์ทโฟนสำหรับผู้ใช้งานระดับเริ่มต้น ที่มองหาสมาร์ทโฟนราคาไม่แพงแต่ตอบสนองการใช้งานได้ครบครัน ดีไซน์สวยงามทันสมัย จอใหญ่ 6.5 นิ้ว รองรับการดูหนัง ท่องเว็บได้เต็มตา กล้องคู่หลังรองรับการถ่ายภาพในเวลากลางคืน ชิปประมวลผลก็มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการเล่นเกม และที่สำคัญ แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานยาวนานด้วยความจุ 5000mAh
realme C11 พร้อมวางจำหน่ายแล้ว ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเขียว Mint Green กับ สีเทา Pepper Grey ราคา 3,499 บาท
พิเศษ!! เมื่อซื้อ realme C11 ผ่านผู้ให้บริการฯ AIS หรือ Dtac มีสิทธิ์เป็นเจ้าของในราคาเริ่มต้นเพียง 1,489 บาท (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทฯ) และถ้าสั่งซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์ Lazada และ Shopee จะได้รับเครดิตคืนมูลค่า 200 บาท หรือ 200 coins