Apple เปิดตัวระบบปฏิบัติการ macOS Big Sur ในงาน WWDC 2020 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และพร้อมให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ได้ทดลองใช้งานแล้ว ก่อนจะปล่อยให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้อัพเดทในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยมีคุณสมบัติที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
ประสบการณ์การใช้งาน
macOS Big Sur ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ macOS เริ่มตั้งแต่การออกแบบ User Inteface ใหม่หมด อย่างดีไซน์ไอคอนใน Dock ที่ลอยขึ้น โปร่งแสงขึ้น และมีการเปลี่ยนดีไซน์ไอคอนใหม่ แต่ยังคงจดจำได้ว่าเป็นไอคอนของแอพใด
แถบเมนูก็ได้รับการปรับแต่งใหม่ ดูสูงขึ้น ข้อความในแถบเมนูสามารถปรับความเข้มและสว่างให้สอดคล้องกัลภาพพื้นหลังหรือวอลล์เปเปอร์ เมนูแบบเลื่อนลงก็มีขนาดใหญ่ขึ้น
Sheets ใน macOS Big Sur ถูกลบขอบและเส้นขอบ เพื่อโฟกัสไปที่เนื้อหามากขึ้น Sheets สามารถปรับขนาดและลดความสว่างได้อัตโนมัติในพื้นหลัง นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงเสียงของระบบให้น่าฟังมากขึ้น ถึงแม้จะใช้พื้นฐานเสียงจากของเดิมเพื่อให้จดจำได้
เพิ่มศูนย์ควบคุม
ศูนย์ควบคุม หรือ Control Center มีใช้อยู่แล้วใน iOS แต่ตอนนี้มาถึง macOS แล้ว เพื่อให้ผู้ใช้งาน Mac สามารถเรียกใช้ส่วนควบคุมต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วจากเดสก์ท็อป ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi, Bluetooth, AirDrop, Do Not Disturb และการตั้งค่าอื่นๆ
เช่นเดียวกับ iOS ผู้ใช้งาน Mac สามารถเพิ่มเครื่องมือที่ใช้งานบ่อยลงใน Control Center ได้ตามต้องการ เพื่อให้เข้าถึงได้สะดวกขึ้น และสามารถควบคุมการใช้งานไอคอนต่างๆ ใน Control Center ได้คล้ายกับ iOS อย่างเช่น เมื่อเลือก Display จะพบกับตัวเลือก Dark Mode, True Tone, AirPlay และ Night Shift
ปรับปรุงศูนย์การแจ้งเตือน
ศูนย์การแจ้งเตือน หรือ Notification Center ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ นำเสนอข้อมูลทั้งหมดที่ผู้ใช้งานคาดหวังให้เป็นหนึ่งเดียว แต่รวมไว้ในรูปแบบวิดเจ็ต การแจ้งเตือนยังถูกจัดกลุ่มไว้ตามแอพพลิเคชั่น และสามารถขยายได้ พร้อมกับตัวเลือกมากมายที่สามารถโต้ตอบได้
วิดเจ็ตบนเดสก์ท็อป สามารถย่อ-ขยายได้ 3 ขนาด ตามความต้องการของผู้ใช้งาน และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ก็สามารถสร้างวิดเจ็ตสำหรับแอพของพวกเขาได้ด้วย
ปรับปรุงแอพ Safari
Safari ได้รับการอัพเดทครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2003 แสดงไอคอนของเว็บไซต์ตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้ระบุแถบที่เปิดอยู่ได้ง่าย แสดงตัวอย่างของเว็บเพจให้ผู้ใช้ดูได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่เลื่อนไปอยู่เหนือแถบนั้น นอกจากนี้ แถบยังได้รับการออกแบบขึ้นใหม่หมดเพื่อให้การท่องเว็บด้วย Safari นั้นรวดเร็ว ด้วยการแสดงแถบบนหน้าจอได้มากขึ้น
Safari มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ให้ผู้ใช้ปรับแต่งการทำงานในแบบที่ต้องการได้มากขึ้นขณะท่องเว็บ โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าเริ่มต้นแบบใหม่ด้วยภาพพื้นหลังและส่วนต่างๆ อย่างรายการอ่านและแถบ iCloud
Safari ยังมาพร้อมการแปลภาษาที่สามารถตรวจหาและแปลเว็บเพจทั้งหน้าจากภาษาต่างๆ ถึง 7 ภาษา ด้วยการคลิกครั้งเดียว และผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งการทำงานได้มากยิ่งกว่านั้นจากความสามารถในการรองรับส่วนขยายที่ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ Mac App Store ก็ช่วยให้การค้นพบและดาวน์โหลดส่วนขยายดีๆ สำหรับ Safari กลายเป็นเรื่องง่ายด้วยหมวดหมู่ใหม่ที่มีทั้งผลงานเด่นๆ ที่คัดสรรโดยทีมบรรณาธิการและอันดับยอดนิยม
นอกจากนี้ Safari ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมาโดยตลอด และรายงานความเป็นส่วนตัวใหม่ก็ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า Safari ปกป้องการท่องเว็บทั้งหมดอย่างไรบ้าง โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการให้ส่วนขยาย Safari ทำงานเมื่อใดและในเว็บไซต์ใด และยังมีเครื่องมืออย่างการตรวจสอบรหัสผ่านที่อาจอยู่ในกลุ่มข้อมูลรั่วไหล ซึ่งจะไม่เปิดเผยรหัสผ่านของคุณอย่างเด็ดขาด แม้แต่กับ Apple
Apple อ้างว่า Safari เป็นเบราว์เซอร์ที่เร็วที่สุดในโลกทั้งในด้านความเร็วและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ ด้วยเอนจิ้น JavaScript ที่รวดเร็วช่วยให้ Safari มีประสิทธิภาพเหนือชั้นกว่าเบราว์เซอร์อื่นๆ ทั้งบน Mac และ PC โดยยืนยันว่า Safari สามารถโหลดเว็บไซต์ที่เข้าบ่อยได้เร็วกว่า Chrome ถึง 50%
ประสบการณ์ข้อความที่ดีขึ้น
แอพข้อความบน Mac มีเครื่องมือใหม่ๆ ที่สามารถจัดการกับการสนทนาที่สำคัญและแชร์ข้อความที่สื่ออารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น และวันนี้ผู้ใช้สามารถปักหมุดการสนทนาที่คุยบ่อยไว้ด้านบนสุดของรายการข้อความเพื่อให้เข้าถึงได้รวดเร็ว ในขณะที่การค้นหาก็ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่หมด โดยจะจัดเรียงผลการค้นหาแยกตามลิงก์ รูปภาพ และคำค้นหาที่ตรงกัน เพื่อให้ผู้ใช้หาสิ่งที่ต้องการเจอได้อย่างรวดเร็ว
เอฟเฟ็กต์ในแอพข้อความให้ผู้ใช้เพิ่มลูกเล่นเก๋ๆ ให้กับข้อความ อย่างลูกโป่ง การโปรยกระดาษ และอีกมากมาย ยิ่งกว่านั้นวันนี้ผู้ใช้ยังสามารถสร้างและปรับแต่ง Memoji ในแบบของตัวเองบน Mac แล้วบ่งบอกความเป็นตัวเองด้วยสติ๊กเกอร์ Memoji ที่เข้ากับอารมณ์และบุคลิกเฉพาะตัว และยังมีเครื่องมือเลือกรูปภาพแบบใหม่รวมถึง #images ที่ช่วยให้ผู้ใช้แชร์รูปภาพ, GIF และวิดีโอได้ง่ายๆ อย่างรวดเร็ว
การรับส่งข้อความแบบกลุ่มมีคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ช่วยให้การโต้ตอบระหว่างครอบครัว เพื่อนๆ และเพื่อนร่วมงานง่ายยิ่งขึ้น อย่างเช่นการตอบกลับแบบอ้างอิงข้อความเดิมที่ให้ผู้ใช้ตอบกลับข้อความหนึ่งได้โดยตรง และวันนี้ยังสามารถส่งข้อความถึงใครสักคนในกลุ่มสนทนาได้ด้วย เพียงแค่พิมพ์ชื่อของคนนั้น อีกทั้งยังสามารถเลือกรูปภาพหรืออิโมจิมาตั้งเป็นรูปประจำกลุ่มสนทนาให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มได้เห็นอีกด้วย
แอพแผนที่ได้รับการยกเครื่องใหม่
แอพแผนที่ใน macOS Big Sur ได้รับการออกแบบใหม่หมด โดยมีการเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ สำหรับการสำรวจโลก ไม่ว่าจะเป็นการค้นพบสถานที่และกิจกรรมน่าสนใจ ด้วยคู่มือนำเที่ยวจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ หรือการสร้างคู่มือนำเที่ยวของตนเอง เพื่อรวบรวมร้านอาหารโปรด สวนสาธารณะ และสถานที่เท่ียวช่วงวันหยุด ซึ่งสามารถแชร์กับเพื่อนๆ และครอบครัวได้
นอกจากนี้ ยังสามารถชมจุดหมายปลายทางในมุมมองแบบ 360 องศาด้วย Look Around และดูแผงผังภายในอาคารสนามบินและศูนย์การค้าใหญ่ๆ หลายแห่งได้อย่างละเอียด และยังสามารถวางแผนเส้นทางขี่จักรยาน และรถยนต์ไฟฟ้าบน Mac แล้วส่งไปยัง iPhone เพื่อใช้ขณะเดินทางได้โดยตรงอีกด้วย
โบนัส
macOS Big Sur ยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ Usage History แสดงประวัติการใช้งานของแบตเตอรี่ โดยมีให้เลือก 2 มุมมอง คือ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และ 10 วันที่ผ่านมา โดยแบ่งข้อมูลเป็นระดับแบตเตอรี่ และการใช้งานหน้าจอ เพื่อให้เจ้าของอุปกรณ์ตรวจสอบประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ผู้ใช้ Mac เวอร์ชั่นใหม่ จะสามารถเข้าไปดูประวัติการใช้งานแบตเตอรี่ หรือ Usage History ได้ที่ส่วน Battery ซึ่งอยู่ใน System Preferences
ถัดลงมาจากฟีเจอร์ Usage History เป็นฟีเจอร์ Battery สามารถตั้งค่าให้แสดงหรือไม่แสดงสถานะแบตเตอรี่ในแถบเมนู ถัดลงมาสามารถกำหนดระยะเวลาปิดจอแสดงผลอัตโนมัติ เมื่อไม่มีการใช้งานตามเวลาที่กำหนดไว้ รวมถึงตัวเลือกในการจัดการพลังงาน
นอกจากนี้ ไอคอนรูปแบตเตอรี่บนแถบเมนู (ที่แสดงระดับพลังงานเป็นเปอร์เซ็นต์) ยังสามารถคลิกเข้าไปได้ เพื่อพบกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ (เป็นเวลาที่คาดว่าแบตเตอรี่จะหมด) ซึ่งเคยถูกลบออกไปจาก macOS Sierra ในปี 2016 ส่วนสาหตุที่ถูกลบออกไป Apple ชี้แจงว่าระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ไม่ถูกต้อง และอาจสร้างความสับสนให้ผู้ใช้งานได้ แต่ตอนนี้กลับมาแล้ว
ที่มา – iDownloadBlog
https://www.flashfly.net/wp/306939