5G เทคโนโลยีในอนาคตมาอยู่ที่นี่แล้วกับ realme X50 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาภายใต้คอนเซ็ปต์ “Speed of the Future” เปิดประสบการณ์ความเร็วแห่งอนาคต ซึ่งนอกจากจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ realme ที่รองรับ 5G ยังมีดีไซน์สวยงามพรีเมี่ยม และมาพร้อมประสิทธิภาพระดับเรือธง โดยทีมงาน @flashfly เคยนำเสนอแกะกล่องพรีวิวไปแล้วก่อนหน้านี้
realme เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนน้องใหม่ในตลาดมือถือ โดยก่อตั้งบริษัทฯ มาได้เพียง 2 ปีเท่านั้น แต่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันนั่งอยู่ในอันดับ 7 ของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของโลก อยู่ที่ 5 ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมในอันดับ 4 ของประเทศไทย ด้วยอัตราการเติบโตสูงถึง 116% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ถึงแม้จะอยู่ในตลาดสมาร์ทโฟนมาได้เพียง 2 ปี แต่ realme ก็ได้ทำงานร่วมกับผู้ผลิตชิปเซ็ตและซัพพลายเออร์ชั้นนำระดับโลก ทำให้ realme พร้อมแล้วที่จะนำเสนอสมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรกของแบรนด์ realme X50 Pro 5G
สเปกหลักของ realme X50 Pro 5G
- รองรับ 5G ทั้งแบบ NSA และ SA
- จอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 90Hz
- ระบบปฏิบัติการ realme UI บนพื้นฐาน Android 10
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865
- เทคโนโลยีระบายความร้อน Vapor Cooling System
- ความจำ RAM 12GB จับคู่กับ ROM 256GB
- กล้องหลัง 64MP AI Quad Camera
- กล้องหน้า 32MP Dual In-display Selfie
- ระบบเสียง Dolby Atmos รองรับ Hi-Res Audio ลำโพงคู่ และ ไมโครโฟนคู่
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.1, Dual Frequency GPS, NFC, USB Type-C
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Moss Green และ Rust Red
- แบตเตอรี่ 4200mAh ชาร์จเร็ว 65W SuperDart
- น้ำหนัก 205 กรัม
ดีไซน์พรีเมี่ยม
realme X50 Pro 5G ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามพรีเมี่ยม สมกับเป็นสมาร์ทโฟนเรือธง โครงสร้างหลักผลิตด้วยวัสดุโลหะ ด้านหลังได้รับการป้องกันพื้นผิวกระจกแบบ AG Glass Technology โดยมีค่าความขุ่น 25% และความขรุขระ 0.15 ไมครอน และมีค่าความเปล่งแสงน้อยกว่า 1% เพื่อให้ได้ผิวสัมผัสแบบด้านจับถนัดมือ ไม่เกิดรอยนิ้วมือ
realme X50 Pro 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Moss Green และ Rust Red ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสสารที่อยู่นอกโลก แฝงด้วยความลึกลับน่าค้นหา อยู่ในส่วนลึกของจักรวาล เปล่งแสงรอวันค้นพบ โดยใช้โทนสีแบบ Low Saturation ที่มีความอิ่มตัวของสีในระดับต่ำและกำลังได้รับความนิยมในปีนี้ ผ่านกระบวนการเคลือบสี 6 ชั้น และขัดสีอย่างน้อย 21 วัน จนได้พื้นผิวสีที่มีความละเอียดสูง
ด้านหน้าเต็มไปด้วยพื้นที่ของจอแสดงผลแบบ Fullscreen ขนาด 6.44 ที่มีขอบจอบางเฉียบ realme เรียกว่าจอแสดงผล 90Hz Ultra Smooth Display มาพร้อมกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 และเจาะหลุมไว้ที่มุมบนในรูปทรงแคปซูล เพื่อติดตั้งกล้องเซลฟี่ 2 ตัว
realme X50 Pro 5G ใช้จอแสดงผล Super AMOLED จาก Samsung ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ให้อัตราการรีเฟรช 90Hz (สมาร์ทโฟนทั่วไป 60Hz) และมีอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอ 180Hz อัตราส่วนภาพ 20:9 อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 92%
จอแสดงผลของ realme X50 Pro 5G ยังให้ความสว่างสูงสุด 1,000 นิต อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1 สนับสนุน HDR10+ รองรับช่วงสี DCI-P3 100% และ NTSC 105%
ใต้จอแสดงผลมีการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย ซึ่งพัฒนามาเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว ใช้เวลาปลดล็อคเพียง 0.27 วินาที
เหนือจอแสดงผลมีการติดตั้งลำโพงไว้ที่สุดขอบบน
ด้านหลังติดตั้งกล้องมาให้ 4 ตัว วางเรียงในแนวตั้ง และวางแฟลชไว้นอกกรอบ
ขอบด้านข้างมีความบาง 8.9 มิลลิเมตร ติดตั้งปุ่มเพาเวอร์ กับปุ่มปรับระดับเสียงไว้คนละด้าน
ด้านบนมีรูไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง
ด้านล่างจะพบกับถาดใส่ซิมการ์ด, ไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และลำโพง
กล้องคู่หน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
realme X50 Pro 5G มาพร้อมกล้องคู่เซลฟี่แบบ Dual In-display Selfie ติดตั้งไว้ใต้จอแสดงผลบริเวณมุมบน ทำให้หน้าจอถูกเจาะหลุมเป็นรูปทรงแคปซูล ประกอบด้วย
- กล้องหลัก 32 ล้านพิกเซล (Sony IMX 616) รูรับแสง f/2.5
- กล้องอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ช่วยเก็บภาพในมุมมองกว้าง 105 องศา
กล้องเซลฟี่รองรับโหมดถ่ายภาพ Portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคลพร้อมละลายฉากหลัง รองรับเอฟเฟกต์ Bokeh ปรับความเบลอได้
ที่น่าสนใจก็คือโหมด Portrait NightScape ช่วยให้ถ่ายภาพบุคคลในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืนให้ออกมาสวยงามคมชัด และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ AI Beauty ที่ช่วยปรับใบหน้าให้ดูดีอย่างธรรมชาติ
กล้องหน้ายังสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที รองรับเทคโนโลยีลดภาพสั่นไหว UIS / UIS Max มีโหมด Slomo Selfie ที่ 120 เฟรมต่อวินาที สามารถใช้เอฟเฟกต์ Bokeh ในโหมดวิดีโอได้แบบเรียลไทม์ ใช้กล้องอัลตร้าไวด์ในการถ่ายวิดีโอได้ และรองรับโหมด Timelapse
กล้องหลัง 64MP AI Quad Camera
หนึ่งในจุดเด่นของ realme X50 Pro 5G อยู่ที่ระบบกล้องหลัง 4 ตัว ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้หลากหลาย และคมชัดแม้ถ่ายในเวลากลางคืนหรือในที่แสงน้อย โดยกล้องแต่ละตัวมีหน้าที่แตกต่างกันดังนี้…
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล (Samsung GW1) รูรับแสง f/1.8 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.72 นิ้ว
- กล้องอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.3 ช่วยเก็บภาพในมุมมองกว้าง 119 องศา
- กล้องเทเลโฟโต้ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5 สามารถซูมออปติคอลได้ 5 เท่า ซูมแบบไฮบริดได้ 20 เท่า
- กล้อง Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 พร้อมฟิลเตอร์ขาว-ดำ
กล้องหลังของ realme X50 Pro 5G มีความน่าสนใจที่โหมดถ่ายภาพ Ultra NightScape ที่พัฒนาขึ้นมาให้สามารถถ่ายภาพในเวลากลางคืนโดยเฉพาะ แม้อยู่ในที่แสงน้อยเพียง 1 ลักซ์ ก็สามารถทำให้ภาพถ่ายออกมาสว่างและมีคุณภาพสูงได้ อีกทั้งยังมี Super Nightscape 3.0 ที่รองรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืน และเมื่อใช้งานร่วมกับขาตั้งกล้อง จะสามารถเปิดรับแสงได้นานถึง 50 วินาที
แน่นอนว่า realme X50 Pro 5G ติดตั้งกล้องอัลตร้าไวด์มาให้ ก็สามารถถ่ายภาพได้ในมุมมองกว้างพิเศษ 119 องศา แต่ยังสามารถใช้กล้องตัวเดียวกันถ่ายภาพในโหมด Ultra Macro ได้อีกด้วย รองรับการถ่ายภาพในระยะใกล้วัตถุเพียง 3 เซนติเมตร
ระบบกล้องหลังยังรองรับโหมดถ่ายภาพ AI Beauty ช่วยปรับใบหน้าให้สวยงามดูดี, AI Scene Recognition จดจำฉากและวัตถุเพื่อปรับค่ากล้องให้อัตโนมัติ, Chroma Boost เพิ่มสีสันให้ภาพถ่ายมีชีวิตชีวา, HDR ให้รายละเอียดมากขึ้นในส่วนที่เป็นเงาหรือสว่างเกินไป
Portrait สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลาย พร้อมเอฟเฟกต์ Bokeh และ Expert สามารถปรับค่ากล้องได้ละเอียดขึ้น
กล้องเทเลโฟโต้ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5 สามารถซูมออปติคอลได้ 5 เท่า ซูมแบบไฮบริดได้ 20 เท่า
ด้าานภาพเคลื่อนไหว realme X50 Pro 5G สามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที หรือ Full HD 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที รองรับโหมดถ่ายภาพ Slow Motion, Timelapse สนับสนุนเทคโนโลยีลดภาพสั่นไหว UIS / UIS Max สามารถใช้เอฟเฟกต์ Bokeh ในโหมดวิดีโอได้แบบเรียลไทม์ และใช้กล้องอัลตร้าไวด์ในการถ่ายวิดีโอได้
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
สเปกเรือธง Snapdragon 865 แรม 12GB
นอกจากดีไซน์จะสวยงาม กล้องคมชัด realme X50 Pro 5G ยังมีประสิทธิภาพสูงสมกับเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง โดยใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 ผลิตด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร ประกอบด้วย 8 แกน (Octa-core) ความเร็วสูงสุด 2.84GHz มาพร้อมจีพียู Adreno 650 และ AI Engine รุ่นที่ 5 ของ Qualcomm
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 ให้ประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมเพิ่มขึ้น 25% ความเร็วในการเรนเดอร์ภาพกราฟิกเพิ่มขึ้น 25% ประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 30% และประสิทธิภาพระบบ AI เพิ่มขึ้น 200% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นก่อน สามารถทำคะแนนจาก AnTuTu ได้ระดับหกแสนคะแนนเลยทีเดียว
realme X50 Pro 5G มาพร้อมความจำ RAM 12GB แบบ LPDDR5 Quad-channel เร็วกว่าเดิม 29% แต่ใช้พลังงานน้อยกว่า 20% เมื่อเทียบกับ LPDDR4X จับคู่กับ ROM 256GB แบบ UFS 3.0 เร็วขึ้น 250% ประหยัดพลังงานขึ้น 30% เมื่อเทียบกับ UFS 2.1
โดยมีเทคโนโลยี Turbo write และ HPB (Host Performance Booster) ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม และลดการใช้พลังงาน ทำให้การท่องเว็บและเกมเป็นไปอย่างราบรื่น
เทคโนโลยี Turbo Write ช่วยให้ความเร็วในการเขียนสูงถึง 730 – 760MB/s และด้วยเทคโนโลยี HPB เพิ่มความเร็วในการอ่านสูงถึง 1700 – 1900MB/s
realme X50 Pro 5G ยังมีระบบระบายความร้อน Vapor Cooling 5 ชั้น ที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ ครอบคลุมแหล่งความร้อนภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ 100% สามารถระบายความร้อนพื้นที่สูงสุด 1,821 ตารางมิลลิเมตร เพิ่มพื้นที่การกระจายความร้อนได้ 339% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
ระบบระบายความร้อน Vapor Cooling 5 ชั้น ของ realme X50 Pro 5G ประกอบด้วย แผ่นกราไฟท์ 3 ชั้น, ท่อระบายความร้อน Vapor Chamber, Thermal Silica, Copper Foil และ ประกบด้วยแผ่นกราไฟท์อีก 3 ชั้น
ใช้งาน 5G ได้ตั้งแต่แกะกล่อง พร้อม Wi-Fi 6
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 ที่ใช้ขับเคลื่อน realme X50 Pro 5G มาพร้อมชิปโมเด็ม 5G ในตัว ทั้งแบบ SA และ NSA พร้อมด้วยฟีเจอร์ Smart 5G ที่สามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่าง 4G และ 5G โดยอัตโนมัติ ช่วยใประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น และลดการใช้พลังงานลง 30% (ตามทฤษฎีแล้ว 5G มีความเร็วสูงสุด 3.45 Gbps ซึ่งเร็วกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับ 4G)
เพื่อให้การเชื่อมต่อ 5G มีความเสถียรและประสิทธิภาพสูงสุด realme X50 Pro 5G จึงดีไซน์เกสาอากาศแบบรอบทิศทาง 360 องศา ฝังเส้นเสารับสัญญาณไว้รอบตัวเครื่อง และมีเสาอากาศถึง 13 ตัว ประกอบด้วย GPS 3 เสา, Wi-Fi 1 เสา, NFC 1 เสา, Bluetooth 1 เสา และ 4G + 5G ทั้งหมด 8 เสา
สำหรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ก็สนับสนุนมาตรฐานล่าสุด Wi-Fi 6 ที่มีความเร็วสูงสุด 9.6Gbps เทียบเท่าความเร็วในการดาวน์โหลด 1.2GBps ซึ่งเร็วกว่า Wi-Fi รุ่นก่อนถึง 40% อีกทั้งยังมีค่าความหน่วงลดลงจากรุ่นก่อนจาก 30 เป็น 20 มิลลิวินาที อีกทั้งยังรองรับ Dual Wi-Fi Acceleration สามารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ได้ 2 เครือข่ายในเวลาเดียวกัน ทำให้การเชื่อมต่อมีความเสถียรมากขึ้น
realme UI
realme X50 Pro 5G ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI ที่ได้รับการออกแบบองค์ประกอบต่างๆ ให้สวยงามและสอดคล้องกัน ไม่ว่าจะเป็น ปุ่มตั้งค่า แถบการแจ้งเตือน และ ไอคอนโดยให้ความสำคัญกับธีมที่ให้ความรู้สึกทันสมัย สีสันสดใสมีชีวิตชีวา ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งไอคอนได้ด้วยตนเอง พัฒนาภาพเคลื่อนไหวแอนิเมชั่นให้รวดเร็วและไหลลื่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
การปรับแต่งไอคอนใน realme UI สามารถเลือกระหว่างสไตล์ไอคอนแบบกลมหรือแบบมน และสามาถตั้งค่ารูปร่างและขนาดของไอคอนได้ตามใจชอบ รวมถึงแอพจากภายนอกก็ได้รับการสนับสนุนอย่างสมบูรณ์อีกด้วย
ฟีเจอร์เด่นของ realme UI
Dark Mode เปลี่ยนธีมของ User Interface ให้เป็นโทนสีเข้ม เพื่อความสบายต่ และสามารถเปิด Dark Mode โดยอัตโนมัติในเวลากลางคืน
Dual Mode Music Share โหมดแชร์ฟังเพลงสองช่องทาง สามารถเชื่อมต่อหูฟ้งไร้สายได้พร้อมกัน 2 เครื่อง เพื่อฟังเพลงหรือชมคอนเท้นต์ร่วมกัน โดยไม่รบกวนคนอื่นที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน
Focus Mode เป็นโหมดที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานผ่อนคลายจากโลกภายนอก โดยระบบจะหยุดการทำงานของแอพพลิเคชันที่กำหนดไว้ชั่วคราว และเปิดโหมด DND (Do Not Disturb) เพื่อปิดการแจ้งเตือนที่รบกวนต่างๆ พร้อมเปิด Ambient Sounds เสียงดนตรีที่ฟังแล้วรู้สึกฟังสบาย
Personal Information Protection ระบบป้องกันข้อมูลส่วนตัว ด้วยการเข้ารหัสรักษาความปลอดภัย ภาพถ่าย วิดีโอ ไฟล์เสียงรวมทั้งเอกสารและเก็บไฟล์สำคัญทั้งหมด
3-Finger Selected Screenshot จับภาพหน้าจอโดยการใช้ 3 นิ้วแตะค้างไว้ที่หน้าจอ
นอกจากนี้ realme UI ยังปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม ช่วยให้ระยะเวลา App Booting ลงลด 25% ความลื่นไหลเพิ่มขึ้น 20% ลดความดีเลย์ระบบสัมผัส 35% ประสิทธิภาพการเล่นเกมเพิ่มขึ้น 20% ให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 10% และลดการใช้พลังงานเมื่อเปิดสแตนด์บายข้ามคืน 35%
ลำโพงคู่ ระบบเสียง Dolby Atmos หน้าจอลื่นไหล 90Hz
realme X50 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ตอบสนองการใช้งานได้ความบันเทิงด้านภาพได้เป็นอย่างดี ด้วยจอแสดงผล Super AMOLED FHD+ ขนาด 6.44 นิ้ว สนับสนุน HDR10+ รองรับช่วงสี DCI-P3 100% และ NTSC 105% ให้ความสว่างสูงสุด 1,000 นิต อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1 ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบมาให้รับชมวิดีโอหรือภาพยนตร์ได้อย่างคมชัด
จอแสดงผลของ realme X50 Pro 5G ยังให้อัตราการรีเฟรช 90Hz (สมาร์ทโฟนทั่วไป 60Hz) และมีอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอ 180Hz จึงช่วยให้การเล่นเกมลื่นไหล ตอบสนองการสัมผัสได้รวดเร็วทันใจ และยังใช้ระบบตอบสนองการสัมผัสด้วยการสั่นจาก Tactile linear motor ช่วยให้การเล่นเกมสมจริงมากยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 ความจำ RAM 12GB พร้อมระบบระบายความร้อน Vapor Cooling 5 ชั้น ก็ยิ่งทำให้ realme X50 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่เล่นเกมได้อย่างลื้นไหล และเล่นได้เป็นเวลานานโดยที่ประสิทธิภาพไม่ถูกจำกัดด้วยความร้อน
ที่ขาดไม่ได้ก็คือระบบเสียง realme X50 Pro 5G มาพร้อมลำโพงคู่ Dual Super Liner Speakers รองรับระบบเสียง Dolby Atmos คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res และยังรองรับไมโครโฟนคู่ เพื่อให้เสียงที่บันทึกระหว่างเล่นเกมดังชัดเจน ไร้เสียงรบกวน
ชาร์จเร็ว 65W SuperDart ชาร์จ 35 นาทีแบตเต็ม 100%
realme X50 Pro 5G ได้รับความจุแบตเตอรี่ 4200mAh มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart ซึ่งเป็นระบบชาร์จเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน สามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ภายในระยะเวลาเพียง 35 นาที หรือ ใช้เวลาชาร์จเพียง 20 นาที ได้ระดับแบตเตอรี่เกือบ 60%
แบตเตอรี่ของ realme X50 Pro 5G ยังสามารถชาร์จได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะเวลาที่รวดเร็ว ใช้เวลาชาร์จเพียง 3 นาที สามารถรับชมภาพยนตร์ได้ 100 นาที หรือใช้โทรได้นานถึง 4 ชั่วโมง และฟังเพลงได้ 40 เพลง
realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อม Power Adapter หรืออุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่แบบใหม่ Gallium Nitride (GaN) ซึ่งช่วยให้ชาร์จเร็ว จ่ายไฟได้เต็มประสิทธิภาพเร็วขึ้น ลดการเกิดความร้อน โดยที่ Power Adapter มีขนาดเล็กลง พกพาสะดวกขึ้น
ไม่เพียงแค่ความเร็วในการชาร์จเท่านั้นที่ realme ให้ความสำคัญ แต่ยังใส่ใจในเรื่องของความปลอดภัยในระหว่างใช้งาน แม้ในขณะเล่นเกม ก็ยังสามารถชาร์จได้สูงถึง 57% ในเวลาเพียง 30 นาที และมีระบบความปลอดภัยในขณะชาร์จแบตเตอรี่มากถึง 5 ชั้น ตั้งแต่หัวชาร์จไปยังแบตเตอรี่
สรุป
realme X50 Pro 5G ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่จัดเต็มในทุกด้าน เริ่มตั้งแต่การออกแบบที่สวยงามพรีเมี่ยม ประสิทธิภาพเรือธงด้วยชิปประมวลผลที่ดีที่สุดในปัจจุบันนี้ของ Qualcomm พร้อมความจำ RAM 12GB ระบบกล้องหน้า-หลัง สามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัดทั้งในสภาพแสงตอนกลางวัน และในเวลากลางคืน อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน แถมอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่แบบใหม่ Gallium Nitride และจอแสดงผล 90Hz Ultra Smooth Display ยังให้สีสันที่สวยงามสมจริง เหมาะสำหรับการรับชมภาพยนตร์และเล่นเกม
ราคาและการวางจำหน่าย
realme X50 Pro 5G [12+256GB] เปิดราคาทางการในประเทศไทยที่ 28,990 บาท ผ่อน 0% นาน สูงสุด 24 เดือน พร้อมรับ VIP Card ประกันจอแตก 1 ปี และเครื่องฟอกอากาศ
มูลค่ารวม 9,999 บาท เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 2 กรกฎาคมเป็นวันแรก ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
นอกจากนี้ยังมี realme Buds Q หูฟังไร้สายดีไซน์โดยนักออกแบบจาก Hermès
และเสียงเบสทรงพลัง ใช้งานยาวนาน 20 ชม. เป็นเจ้าของในราคาเพียง 1,199 บาทพร้อมกันอีกด้วย
#realmeX50Pro5G #real5G
#realme #realmeTH #DareToLeap