HUAWEI เปิดตัวสมาร์ทโฟน nova 7 5G และ nova 7 SE 5G ในประเทศไทยอย่างทางการแล้ว และทั้ง 2 รุ่น ก็มาอยู่ในมือทีมงาน @flashfly เป็นที่เรียบร้อย โดยทาง HUAWEI จะเริ่มทำตลาด nova 7 SE ก่อนภายในเดือนมิถุนายนนี้ ถือเป็นสมาร์ทโฟน 5G ในราคาที่เป็นมิตรกับกระเป๋าเงิน เพราะมีราคาเริ่มต้นเพียง 11,990 บาท ส่วน nova 7 จะวางจำหน่ายในเดือนถัดไป
แกะกล่อง HUAWEI nova 7 5G
HUAWEI nova 7 5G ถูกเก็บไว้ในกล่องสีขาวสะอาดตา พิมพ์ชื่อรุ่นไส้บนฝากล่องอย่างชัดเจน พร้อมโลโก้ AppGallery ซึ่งเป็นร้านค้าหรือแหล่งดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นของ HUAWEI
ตัวเครื่องติดฟิล์มกันรอยจอแสดงผลมาให้แล้วจากโรงงาน ชั้นถัดมาจะพบกับกล่องใส่คู่มือ, ใบรับประกัน, เคส และ เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
ชั้นล่างสุดเป็นที่เก็บอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ USB-C Power Adapter 40W
พร้อมสายเคเบิล USB Type-C
หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
และตัวแปลงแจ็คหูฟังจาก 3.5 มิลลิเมตร เป็นพอร์ต USB-C
พรีวิว HUAWEI nova 7 และ nova 7 SE
nova 7 และ nova 7 SE ได้รับการออกแบบมาคล้ายกัน โดยเฉพาะการใช้กล้องเซลฟี่แบบ In-Display Selfie Camera ซ่อนกล้องหน้าไว้ในหลุมที่อยู่มุมบนขวาของจอแสดงผล แต่ทั้งคู่มีความละเอียดไม่เท่ากัน nova 7 ใช้กล้องเซลฟี่ 32 ล้านพิกเซล มากกว่า nova 7 SE ที่ให้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
กล้องหลังของทั้ง 2 รุ่น ก็เป็นระบบกล้อง 4 ตัว จัดวางในแนวตั้งเหมือนกัน แต่จะสังเกตได้ว่า nova 7 SE วางแฟลช LED ไว้ข้างกรอบกันชนกล้อง แตกต่างจาก nova 7 ที่วางแฟลชรวมไว้ในกรอบ
กล้องหลังของ HUAWEI nova 7 5G ประกอบด้วย…
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล
- กล้องอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล
- กล้องเทเลโฟโต้ 8 ล้านพิกเซล ซูมออปติคอล 3 เท่า ซูมไฮบริด 5 เท่า
- กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล
กล้องหลังของ HUAWEI nova 7 SE 5G ประกอบด้วย…
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล
- กล้องอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล
- กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล
- กล้องจับระยะชัดลึก 2 ล้านพิกเซล
เมื่อนำทั้งคู่มาวางใกล้กัน จะเห็นว่าทั้ง 2 รุ่น มีขนาดไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ nova 7 มีขนาดหน้าจอใหญ่กว่าเล็กน้อย โดยใช้จอแสดงผล OLED ขนาด 6.53 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 20:9 ส่วน nova 7 SE ใช้จอแสดงผล LCD ขนาด 6.5 นิ้ว
ถึงแม้ดีไซน์ของ nova 7 และ nova 7 SE อาจจะดูแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่มีจุดที่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่าง 2 รุ่นนี้ได้อย่างชัดเจน นั่นคือ ตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
nova 7 จะมองไม่เห็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ เพราะถูกซ่อนไว้ใต้จอแสดงผล ขณะที่ nova 7 SE ติดตั้งไว้ที่ขอบด้านข้าง
มาถึงประสิทธิภาพ nova 7 ใช้ชิปประมวลผล Kirin 985 ความจำ RAM 8GB จับคู่กับ ROM 256GB ทางด้าน nova 7 SE ใช้ชิปประมวลผล Kirin 820 ความจำ RAM 8GB จับคู่กับ ROM 128GB
นอกจากนี้ nova 7 และ nova 7 SE ยังมีความจุแบตเตอรี่เท่ากัน 4,000mAh สนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 40W รองรับ 5G และทำงานบนพื้นฐาน Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10.1
ด้วยสเปกที่แตกต่างกัน ทำให้ราคาของทั้งคู่ไม่เท่ากัน nova 7 SE 5G เปิดตัวที่ 11,990 บาท สามารถจับจองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 21 มิถุนายน 2563 ก่อนจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป พิเศษ!! เมื่อสั่งจอง nova 7 SE 5G ผ่านผู้ให้บริการ AIS, Dtac, TrueMove H มีสิทธิ์เป็นเจ้าของในราคาเริ่มต้นเพียง 5,990 บาท
สำหรับ nova 7 5G มาในราคา 16,990 บาท จะเปิดรับจองในระหว่างวันที่ 4 – 10 กรกฎาคม 2563 เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป สนนราคา 16,990 บาท
นอกจากนี้ Huawei ยังได้เปิดตัว HUAWEI MatePad Pro 5G แท็บเล็ต 5G รุ่นแรกของโลกรองรับการใช้วานปากกา M-Pencil และ Smart Magnetic Keyboard ได้แบบแล็ปท็อป และ HUAWEI FreeBuds 3i หูฟังไร้สายรุ่นใหม่มาพร้อมเทคโนโลยี “Active Noise Cancellation” ฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนใหม่ล่าสุด
HUAWEI MatePad Pro 5G ราคา 29,990 บาท จะเริ่มพรีออเดอร์ ตั้งแต่วันที่ 12 – 26 มิถุนายนนี้ และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 มิถุนายน 2563 ส่วน HUAWEI FreeBuds 3i ราคา 3,299 บาท จะเริ่มพรีออเดอร์ ตั้งแต่วันที่ 12 – 21 มิถุนายนนี้ และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 มิถุนายน 2563