realme เปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกของแบรนด์อย่างทางการในประเทศไทยแล้ววันนี้ มาพร้อมหูฟังไร้สายแบบ True Wireless รุ่นใหม่ล่าสุด realme Buds Air Neo ที่ออกมาสานต่อความสำเร็จจากรุ่นแรก Buds Air ที่ทำตลาดไปก่อนหน้านี้ ที่เน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ในราคาสุดประหยัดไม่กี่พันบาทเท่านั้น ซึ่งวันนี้ทีมงาน @flashfly จะมาทำการแกะกล่องพรีวิวทั้ง 2 อุปกรณ์ให้ชมกันเป็นการเรียกน้ำย่อยกันพอหอมปากหอมคอก่อนไปชมรีวิวฉบับเต็ม
แกะกล่อง realme watch
realme watch ถูกเก็บไว้ในกล่องสีเหลือง เฉดสีอันเป็นเอกลักษณ์ของ realme บนฝากล่องพิมพ์ชื่อ realme watch และรูปภาพของผลิตภัณฑ์ที่อยู่มนกล่อง
หลังกล่องพิมพ์รูปภาพอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ พร้อมระบุจุดเด่นของ realme watch ไว้ 6 รายการ ได้แก้ จอสีขนาดใหญ่, เปลี่ยนสายรัดข้อมือได้, ติดตามการทำกิจกรรมในแต่ละวัน, สามารถติดตามความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดแดง, ตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง และ ติดตามการออกกำลังกายได้ 14 ประเภท
เมื่อเปิดฝากล่องขึ้นมา ก็พบกับ realme watch ที่ติดตั้งสายรัดให้แล้วเรียบร้อย
ถัดลงมาจะพบกับอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย ส่งผ่านพลังงานด้วยแม่เหล็ก และยังมีคู่มือแนะนำการใช้งานอย่างละเอียด
แกะกล่อง realme Buds Air Neo
ดีไซน์กล่องของ realme Buds Air Neo ดูคล้ายกับ realme Buds Air ที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ แต่ฝากล่องได้ระบุชื่อ Buds Air Neo ไว้อย่างชัดเจน พร้อมพิมพ์รูปภาพหูฟังไว้ 1 คู่
พลิกมาดูที่หลังกล่อง จะเห็นรูปภาพ realme Buds Air Neo ถูกเก็บไว้ในเคสแบบเปิดฝาออกเล็กน้อย พร้อมระบุจุดเด่นของหูฟังไว้ 6 รายการ ได้แก่ มีโหมด Super Low Latency ให้ค่าหน่วงเวลาต่ำ, ไดรเวอร์ขนาดใหญ่ ให้เสียงเบสที่หนักแน่น, จับคู่กับสมาร์ทโฟนได้ทันทีเมื่อเปิดฝาเคส, รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 พร้อมเข้ารหัสเสียงขั้นสูง AAC, ควบคุมด้วยระบบสัมผัส เรียกใช้ผู้ช่วย AI ได้สะดวก และมาพร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ นานสูงสุด 17 ชั่วโมง
เมื่อยกฝากล่องออกไป จะพบกับเคสชาร์จ ที่มีหูฟังทั้ง 2 ข้าง เก็บอยู่ข้างใน ส่วนเคสชาร์จไม่รองรับการชาร์จไร้สาย และยังใช้พอร์ต Micro-USB
ถัดมาก็จะพบเอกสาร เคล็ดลับการใช้งาน
ชั้นล่างจะพบกับสายชาร์จ และคู่มือแนะนำการใช้งานภาษาไทย รวมถึงบัตรรับประกันสินค้า
realme watch
realme watch ดีไซน์ตัวเรือนทรงเหลี่ยมสีดำที่มีขอบมุมโค้งมน มาพร้อมจอสัมผัส 320 x 320 พิกเซล ขนาด 1.4 นิ้ว น้ำหนักเบาเพียง 31 กรัม แผงหน้าปัดได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3 และป้องกันน้ำ-ฝุ่นในระดับ IP68 สายนาฬิกาสามารถถอดเปลี่ยนได้ผลิตด้วยซิลิโคนคุณภาพสูง เป็นมิตรต่อผิวหนัง
realme watch รองรับการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถวิเคราะห์ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) สามารถติดตามการออกกำลังกายได้ 14 ชนิด
รองรับการแจ้งเตือนจากแอพโซเชี่ยลในสมาร์ทโฟน สามารถควบคุมฟีเจอร์บางอย่างบนสมาร์ทโฟนได้ ตัวอย่างเช่น เลื่อนไปเล่นเพลงถัดไป, สั่งถ่ายภาพในแอพกล้อง เป็นต้น
นอกจากนี้ realme Watch ยังสนับสนุนฟีเจอร์ติดตามการนอนหลับ, ค้นหาสมาร์ทโฟน, ช่วยฝึกสมาธิ, การสั่นเตือน, ตรวจสอบสภาพอากาศ, แสดงสายเรียกเข้าและปฏิเสธสาย รวมไปถึงการแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำและแจ้งเตือนให้ลุกขึ้นยืนบ้าง เมื่อพบว่ามีการนั่งนานจนเกินไป (เหมาะสำหรับหนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน)
realme Buds Air Neo
ดีไซน์ของ realme Buds Air Neo ดูคล้ายกับ Buds Air รุ่นแรก แต่ที่ตัวก้านไม่มีแถบวงแหวนสีโครเมี่ยม ผลิตออกมาให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว (Pop White), สีแดง (Pock Red) และ สีเขียว (Punk Green)
realme Buds Air Neo มาพร้อมชิป R1 True Wireless Chip ใช้เทคโนโลยีการส่งผ่านข้อมูลแบบ dual-channel รุ่นใหม่ สร้างการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรระหว่างหูฟัง Buds Air Neo กับสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะใช้ดูฟัง ฟังเพลง เล่นเกม โดยเฉพาะการเล่นเกม จะมีโหมด Super Low Latency ที่ให้ค่าหน่วงเวลาต่ำเพียง 119.2 มิลลิวินาที
หูฟัง realme Buds Air Neo แต่ละข้าง มีน้ำหนักเบาเพียง 4.1 กรัม ให้อายุการใช้งานยาวนาน 1.5 ชั่วโมง สำหรับการสนทนา หรือ 3 ชั่วโมง สำหรับการฟังเพลง แต่สามารถยืดอายุการฟังเพลงได้นานสูงสุด 17 ชั่วโมง เมื่อพกพาเคสชาร์จไปด้วย
ราคาและกำหนดการวางจำหน่าย
realme Buds Air Neo จะเริ่มวางจำหน่ายแบบ Flash Sale ผ่านช่องทางออนไลน์ในวันที่ 28 และ 30 พฤษภาคมนี้ ในราคาพิเศษเพียง 1,399 บาท ก่อนจะวางจำหน่ายในราคาปกติ 1,499 บาท ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป และจะเริ่มวางจำหน่ายผ่านช่องทางปกติ ผ่านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป
สำหรับ realme watch มาในราคา 2,499 บาท วางจำหน่ายเร็วๆนี้