หลังจากมหกรรมการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ MateBook ทั้งสองรุ่น ถือว่าเป็นแล็ปท็อปที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่กำลังมองหาคอมพิวเตอร์แบบพกพาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นรุ่นท็อปอย่าง MateBook X Pro หรือ รุ่นราคาเข้าถึงได้สำหรับคนรุ่นใหม่ MateBook D 14 มาดูกันว่าจุดเด่นอะไรบ้างที่สามารถทำให้แล็ปท็อปทั้งสองรุ่น กลายเป็นคำตอบของคนหลายๆ คน
MateBook X Pro: สุดยอดประสบการณ์ไร้ขีดจำกัด
หากพูดถึงคอมพิวเตอร์พกพารุ่นเรือธงของหัวเว่ย ย่อมไม่พ้น MateBook X Pro เรียกได้ว่าเป็นนิยามของการรวมฟีเจอร์ของแล็ปท็อปในอุดมคติที่ทุกคนต้องการ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เหนือกว่าให้กับการทำงาน และความบันเทิงเต็มรูปแบบ
- ขั้นสุดของดีไซน์สุดหรูหราซ่อนสุดยอดเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ
MateBook X Pro มาพร้อมหน้าจอ FullView Display ระบบสัมผัส ขอบจอบางเฉียบ มีสัดส่วนหน้าจอกว้างถึง 91% ของตัวเครื่อง ให้ประสบการณ์ภาพเต็มรูปแบบ สัดส่วน 3:2คุณภาพความละเอียดแบบ 3k high resolution (3000 x 2000) ท้าทายขีดจำกัดของเทคโนโลยีภาพบนแล็ปท็อป ให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ชัดที่สุด เต็มตาที่สุด และได้ภาพสมจริงที่สุด หน้าจอเป็นระบบสัมผัสแบบ Spectacular Touch-screen ให้เข้าถึงการใช้งานได้อย่างลื่นไหล อีกทั้งยกระดับความบันเทิงด้วย quad speaker และ quad microphone รอบตัวเครื่องให้ได้รับและโต้ตอบผ่านตัวเครื่องได้อย่างสะดวกสบายที่สุด
การออกแบบคงคอนเซ็ปต์ความพรีเมี่ยม โดยวัสดุทำด้วยโลหะ มาในสี Space Grey ผิวสัมผัสด้านทั้งเครื่อง ตอบโจทย์คนรักความเรียบโก้ จะถือไปทำงานที่ไหนก็ดูดี ตัวเครื่องมีความบางเฉียบแบบ เพียง 14.6 มม. และมีน้ำหนักเพียง 1.33 กก. เท่านั้น ทำให้ไม่เป็นปัญหาต่อการพกไปทำงานข้างนอก และไม่เปลืองพื้นที่ในกระเป๋า นอกจากนั้นยังซ่อนกล้องหน้า Recessed Camera ไว้บนคีย์บอร์ด หน้าจอจึงมีพื้นที่ใช้งานแบบเต็มตามากขึ้น พร้อมทั้งปุ่ม Fingerprint Power Button ช่วยรักษาความปลอดภัยไปพร้อมๆ กับการเข้าถึงการใช้งานที่ง่าย และรวดเร็ว
- ประสบการณ์การใช้งานขั้นแอดวานซ์ไร้ขอบเขต
ความพิเศษของแล็ปท็อปหัวเว่ยที่ให้มากกว่าแล็ปท็อปอื่นๆ ในตลาด คือการสร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อที่มีชื่อว่า Huawei Share สร้างอีโคซิสเต็มที่ทำให้สามารถส่งต่อข้อมูลจากสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยที่ใช้ระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1 แชร์หน้าจอ (multi-screen sharing) เพียงแตะสองเครื่องเข้าด้วยกัน เพื่อส่งข้อมูลในทุกรูปแบบ ไปทำต่อบนแล็ปท็อปโดยใช้โปรแกรมของแล็ปท็อปได้เลย และสามารถโทรเข้า-ออก รับ-ส่ง SMS โดยใช้แล็ปท็อปในการพิมพ์ข้อความได้ และโดยเฉพาะสำหรับ MateBook X Pro ยังเสริมความสามารถในการทำงานให้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยความอัจฉริยะในการอ่านข้อความจากภาพ อัดหน้าจอ และแชร์ Clipboard โดยสามารถทำ Screen Capture ได้ทันทีด้วยการใช้สามนิ้วปัดหน้าจอลง
- เทคโนโลยีความเร็วแรงที่ไม่ตามหลังใคร
ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับการใช้งาน MateBook X Pro อย่างเต็มที่ ด้วยโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุดที่มีในตลาด และหน่วยความจำ 16 GB และใช้การ์ดจอที่เลือกได้ระหว่าง NVIDIA GeForce® MX250 หรือ Intel® UHD Graphics ให้การเคลื่อนไหวบนจอภาพมีความลื่นไหล ไร้ที่ติ รวมไปถึงแบตเตอรี่ความจุ 56 Wh ที่มีความทนทาน ผู้ใช้สามารถเล่นอินเทอร์เน็ต ชมวีดีโอแบบ 1080p และทำงานได้ถึง 11, 13 และ 15 ชั่วโมงตามลำดับ และใช้สายชาร์จ Type C 65W อเนกประสงค์ สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่างๆ ได้จากที่เดียวรวดเร็วโดยไม่ทำให้เครื่องร้อน
MateBook D 14: ปฏิวัติวงการแล็ปท็อปคนรุ่นใหม่ที่ใครก็เป็นเจ้าของได้
สำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือคนทำงานรุ่นใหม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือการมีอุปกรณ์ที่มอบความสะดวกสบายในการประกอบอาชีพได้ครบทุกด้าน พร้อมเพิ่มความเก๋ไก๋ให้ชีวิตด้วยดีไซน์ภายนอก MateBook D 14 จึงเป็นตัวเลือกใหม่ ที่น่าสนใจสำหรับคนกลุ่มนี้
- ดีไซน์ที่สวยงามน่าใช้จอใหญ่เต็มตา
MateBook D 14 มาพร้อมหน้าจอกว้างถึง 84% ของตัวเครื่อง ขอบจอกว้างเพียง 4.8 มม. ความละเอียดหน้าจอแบบ Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ครอบคลุมภาพมุมกว้างถึง 178 องศา โดยมีโหมดถนอมสายตารับรองโดย TÜV Rheinland Certified และพื้นผิวหน้าจอวัสดุเนื้อด้าน (anti-glare) ที่ช่วยลดแสงสะท้อน เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ทั้งในด้านการทำงาน และด้านความบันเทิง เพื่อชีวิตสมดุลที่คนรุ่นใหม่กำลังมองหา ตัวเครื่องโลหะหรูหรา Ultra Slim ความหนาเพียง 15.9 มม. มาพร้อมพอร์ตหลากหลายไม่ว่าจะเป็น USB 2.0, USB 3.0, USB Type-C, HDMI และ Audio Jack น้ำหนักเบาเพียง 1.38 กก. เรียกได้ว่ามีความคุ้มค่า และใช้งานได้สะดวกทุกสถานการณ์
- ประสบการณ์การทำงานแบบอัจฉริยะที่ไม่แพ้ใคร
ฟังก์ชั่น HUAWEI Share มีให้ใช้ได้บน MateBook D 14 เช่นกัน ผู้ใช้สามารถทำงานหรือเก็บข้อมูลรูปและวีดีโอในสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยที่ใช้ระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1 และแชร์ขึ้นจอ MateBook D 14 เพียงแตะครั้งเดียว เพิ่มเติมความสะดวกไปพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint Power Button ช่วยเปิด-ปิด และล็อคเครื่อง โดยไม่ต้องกรอกรหัส password รักษาความปลอดภัยให้แก่ข้อมูลในเครื่องไปอีกขั้น มอบความเร็ว สะดวกสบาย ปลอดภัย เสมือนใช้งานแล็ปท็อปรุ่นเรือธง ฉีกกฏของแล็ปท็อปสำหรับคนที่มองหาแล็ปท็อปสำหรับการเรียนและใช้ต่อไปยาวๆ จนเริ่มทำงาน
- ขุมพลังแรงที่เลือกได้ตามความถนัดในการใช้งาน
ผู้บริโภคที่สนใจจะเลือกซื้อ MateBook D 14 สามารถเลือกโปรเซสเซอร์ได้ระหว่าง AMD Ryzen 7 3700U หรือ 10th Gen Intel® Core™ i7-10510U เพื่อรับมือทุกโจทย์การทำงาน ทั้งในด้านความเร็ว และด้านกราฟิค พร้อมสมรรถนะสำหรับการเล่นเกมและรับชม-ตัดต่อวิดีโอ
จากการเปิดตัวแล็ปท็อปที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าจุดเด่นที่แล็ปท็อปมีร่วมกันอย่างหนึ่งคือการใช้ Huawei Share ซึ่งเป็นอีโคซิสเต็มแบบ One Tap หรือการแตะเพียงครั้งเดียว ตอกย้ำกลยุทธ์ 1+8+N ที่ต้องการให้อุปกรณ์ทุกชิ้นสามารถใช้งานเชื่อมต่อกันได้อย่างครบวงจร โดยเลข 1 หมายถึงสมาร์ทโฟน เลข 8 หมายถึงสมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ อย่างแท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก นาฬิกาสมาร์ทวอทซ์ หูฟัง เป็นต้น ในขณะที่ N หมายถึงอุปกรณ์ IoT ในอีโคซิสเต็มของหัวเว่ย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคสมาร์ทดีไวซ์ของหัวเว่ยในทุกกลุ่ม
สำหรับคนที่กำลังมองหาแล็ปท็อปรุ่นแอ็ดวานซ์ ภาพคมชัดเสมือนจริง เสียงเต็มอิ่ม ลองพิจารณา MateBook X Pro สี Space Grey ที่ราคา 59,990 บาท ส่วนคนที่ต้องการแล็ปท็อปราคาเข้าถึงได้แต่ความคุ้มค่าอัดแน่นทั้งการทำงาน และความบันเทิง สามารถเลือก MateBook D 14 Ryzen 7 ราคา 21,990 บาท หรือ MateBook D 14 Intel i7 ราคา 29,990 บาท โดยสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติม และรายละเอียดช่องทางการจำหน่ายได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/laptops/