เสียวหมี่เปิดตัว MIUI 12 ภายใต้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมส่งมอบประสบการณ์ชั้นเลิศที่ผู้ใช้งาน MIUI รอคอย โดยที่ MIUI 12 มาพร้อมกับประสิทธิภาพจัดเต็มเพื่อมอบประสบการณ์ OS ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น หวังสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้งานทั้งเก่าและใหม่ทั่วโลก นอกจากระบบรักษาความปลอดภัยที่เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการพัฒนา MIUI แล้ว MIUI 12 ยังคงมุ่งยกระดับฟีเจอร์ความปลอดภัยขึ้นอีกระดับ พร้อมด้วยดีไซน์ UI แบบใหม่และระบบอนิเมชั่นชั้นเลิศ ผู้ใช้งาน MIUI จะต้องประทับใจและเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์จากระบบที่ “เสมือนมีชีวิต” ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ไฮไลท์ในอีกสารพัดฟีเจอร์ใหม่ๆที่เพิ่มเข้ามา
เสริมความแข็งแกร่งของ Privacy Protection ด้วยระบบการแจ้งเตือนความเป็นส่วนตัว และทำให้ผู้ใช้ควบคุมข้อมูลได้มากขึ้น
MIUI 12 เพิ่มความสามารถในการรักษาความปลอดภัย โดยจะมีการแจ้งเตือนผู้ใช้งานเกี่ยวกับการทำงานของแอปต่างๆ และผู้ใช้งานสามารถควบคุมแอปในการขอเข้าถึงการใช้งานได้มากขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานทราบอยู่ตลอดเวลา MIUI 12 จึงเพิ่มฟีเจอร์การเเจ้งเตือนการขออนุญาตการเข้าถึง โดยที่ระบบจะมีการแจ้งเตือนแสดงขึ้นบนแถบสถานะเมื่อพบแอปที่เข้าถึงกล้อง, ที่อยู่ และไมโครโฟน ที่ทำงานเบื้องหลัง ระบบจะมีปุ่มกดให้กดตัวแจ้งเตือน เพื่อทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าการขออนุญาตการเข้าถึง และหยุดการทำงานของแอปที่น่าสงสัยที่ทำงานเบื้องหลังได้ทุกเวลา
MIUI 12 มอบสิทธิ์ให้ผู้ใช้เข้าถึงสิทธิ์ในการอนุญาตการเข้าถึงได้มากขึ้น และยกระดับการรักษาความเป็นส่วนตัวขึ้นไปอีกขั้น เมื่อแอปต่างๆ ขออนุญาตการเข้าถึงข้อมูล ก็จะมีตัวเลือกให้เลือกมากขึ้น (เช่น “ขณะใช้งานแอป” และ “แจ้งเตือน”) จะเห็นได้ว่าระบบควบคุมการขออนุญาตการเข้าถึงบนแอนดรอยด์นั้นเข้มงวดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งใน MIUI 12 ได้เพิ่มมาตรการในการจัดการแอปที่ขออนุญาตการเข้าถึงข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนไปอีกขั้น นอกจากนี้การเข้าถึงของตำแหน่งการใช้งาน, การขออนุญาตการเข้าถึงการใช้กล้อง, ไมโครโฟน, รายชื่อติดต่อ, ประวัติการโทร, ปฏิทิน และการจัดเก็บ ก็จะถูกจำกัดให้ใช้ได้เมื่ออยู่ในโหมด “ขณะใช้งานแอป” เท่านั้น พร้อมกันนี้ MIUI 12 ยังรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานในการแชร์รูปภาพ โดยสามารถเลือกนำข้อมูลที่อยู่ในภาพถ่าย และรายละเอียดข้อมูลภาพออกได้ก่อนที่ผู้ใช้งานส่งรูปออกไป
ดีไซน์และอนิเมชั่นได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ
MIUI 12 มอบประสบการณ์ OS ที่ราวกับมีชีวิตด้วยการปรับปรุงดีไซน์ UI ใหม่ทั้งหมดและมาพร้อมระบบอนิเมชั่นที่เหมาะสม ด้วยระบบการแสดงผลที่กว้างขึ้น ตัวแสดงอนิเมชั่นหลักนั้นได้ถูกเปลี่ยนโฉมด้วยเทคนิคนวัตกรรม Kernel-level โดยที่เครื่องมือ Mi Render Engine ทำให้ MIUI 12 สามารถมอบประสบการณ์ใช้งาน UI ที่ลื่นไหลและรวดเร็ว
ขณะที่ขุมพลัง Mi Physics Engine ก็ทำให้การเคลื่อนไหวของไอคอนมีความสวยงามโดยจำลองเส้นโค้งแบบสามมิติที่คล้ายกับวิถีการเคลื่อนที่ของจริง ตั้งแต่การเปิดปิดของแอป สู่การสลับเปลี่ยนแอปที่ลื่นไหลและรวดเร็ว ทุกรายละเอียดที่ออกมาได้สะท้อนวิธีการออกแบบที่สดใหม่โดยมีแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ ด้วยการยกระดับการพัฒนาระบบอนิเมชั่นทำให้ MIUI 12 มาพร้อมประสบการณ์ OS แบบเสมือนจริงที่ทุกรายละเอียดสัมผัสได้
รวมทั้งมีการนำภาพข้อมูลเสมือนจริงมาใช้งานกับระบบเพื่อช่วยให้แต่ละหน้าแสดงข้อมูลได้มากขึ้นและทำความเข้าใจได้ง่าย โดยตัวข้อมูลจะทำให้รับรู้ได้ง่ายขึ้นเมื่อนำเสนอในรูปแบบกราฟฟิก การสร้างภาพข้อมูลนั้นช่วยให้ประหยัดเวลา และทำให้เกิดการตอบสนองกับตัวเครื่องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกเหนือจากองค์ประกอบดังกล่าวแล้ว ตัวเครื่องยังสามารถรับรู้ถึงการใช้งานของผู้ใช้ได้ด้วย โดยสะท้อนผ่านการเคลื่อนไหวออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหวแบบเอนิเมชั่น ทำให้ทุกมุมมองของภาพหน้าจอมีเอกลักษณ์และเป็นส่วนตัว
พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัว “Super Wallpaper” ด้วยธีมวอลเปเปอร์เป็นฉากรูปจักรวาลที่สวยงามน่าทึ่งของโครงสร้างดาวเคราะห์ จากภาพถ่ายอย่างเป็นทางการของนาซ่า ซึ่ง Super Wallpapers นี้สามารถนำมาแสดงบนหน้าจอหลัก Always-on display, Home screen และ Lock screen ได้ในรูปแบบที่เป็นภารกิจการท่องอวกาศที่น่าตื่นเต้น ซึ่งเผยให้เห็นภาพบางส่วนของดวงเคราะห์ที่ไกลออกไปในระหว่างที่มีการใช้งาน ด้วย Super Wallpapers ทำให้ MIUI 12 กลายเป็นหน้าจอที่แสดงให้เห็นถึงเส้นทางความงดงามของจักรวาล
ฟีเจอร์ใหม่และส่วนที่ได้รับการปรับปรุง
Multitasking
MIUI 12 นั้นมาพร้อมระบบการทำงานหลายอย่างพร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้รูปแบบของหน้าต่างแจ้งเตือน เมื่อผู้ใช้งานใช้ระบบแบบเต็มจอ ตัวหน้าต่างแจ้งเตือนจะช่วยให้ทำงานหลายอย่างได้ และลดปัญหาในการต้องสลับหน้าจอเพื่อไปใช้แอปอื่นๆ ระบบหน้าต่างแจ้งเตือนสามารถขยับ, ปิด และย่อส่วนได้ง่ายผ่านการทำงานตรงแถบ Action ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมีข้อความเข้าตอนกำลังเปิดวิดีโอ ผู้ใช้สามารถตอบข้อความได้โดยที่ไม่ต้องกดหยุดวิดีโอ ซึ่งระบบหน้าต่างแจ้งเตือนพัฒนามาเพื่อให้สมาร์ทโฟนสามารถทำงานได้หลายอย่างพร้อมกันได้แบบไร้รอยต่อ, สะดวก และไม่ขัดจังหวะการใช้งาน
Casting
MIUI 12 นั้นตอกย้ำฟังก์ชั่นการแคสติ้งหน้าจอ โดยเราได้มีการเปลี่ยนให้กลายเป็นฟีเจอร์สำคัญ โดยตอนนี้ผู้ใช้งานสามารถแคสติ้งเอกสาร, แอป, วิดีโอ และเกม ได้ในการแตะเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ระบบยังสามารรองรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกันหรือ Multitasking อีกด้วย หน้าต่างที่กำลังแคสติ้งสามารถทำการย่อส่วนได้ตลอดเวลา โดยที่ระบบแคสติ้งมีตัวเลือกในการปิดใช้งานหน้าจอเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน และการซ่อนข้อมูลที่เป็นส่วนตัว โดยไม่อนุญาตให้การแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าไปปรากฏบนหน้าจออื่นได้อีกด้วย
การประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพ
MIUI 12 นั้นรองรับโหมดประหยัดแบตเตอรี่ในระดับสูงสุด เมื่อฟีเจอร์นี้ถูกเปิดใช้งาน ส่วนที่มีการใช้พลังงานมากที่สุดก็จะถูกจำกัดการใช้งานเพื่อยืดระยะเวลาสแตนด์บายของโทรศัพท์ และลดการใช้พลังงานของเครื่องเมื่อแบตเตอรี่โทรศัพท์เหลือน้อย ฟังก์ชั่นการโทร, การใช้งานข้อความ และการเชื่อมต่อ จะไม่มีผลกระทบจากการใช้งานโหมดนี้ และยังคงใช้งานทั่วไปได้ตามปกติ
Dark Mode
MIUI 12 มาพร้อมความสวยกับลุคใหม่ที่มี Dark Mode โดยมีสีของพื้นหลัง, แอปของระบบ และแอปภายนอก ที่เข้มขึ้น พร้อมกันนี้ Dark Mode ยังมอบประสบการณ์การมองเห็นอันน่าทึ่งในสภาวะแสงน้อย และเมื่อเปิด Dark Mode ผู้ใช้สามารถเลือกปรับระดับความคมชัดโดยอัตโนมัติได้เพื่อให้เหมาะกับสภาพแสงโดยรอบในตอนที่ความสว่างหน้าจอลดลง นอกจากนี้ Dark Mode ยังช่วยลดการใช้พลังงานและลดความเมื่อยล้าของสายตาอีกด้วย
App Drawer
Poco ที่เพิ่งเปิดตัวไปนั้น ได้พิสูจน์แล้วว่าได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งานทั่วโลก ซึ่งฟีเจอร์ที่โดดเด่นและยอมรับอย่าง App Drawer ตอนนี้ก็ได้ถูกบรรจุลงใน MIUI 12 ถ้าผู้ใช้งานเปิดใช้งานแอปทุกอย่างจะอยู่ภายในหน้านี้และทำให้หน้าจอโฮมดูเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้น ขณะเดียวกันผู้ใช้งานก็ยังสามารถจัดกลุ่มแอปตามความต้องการได้โดยอัตโนมัติเพื่อค้นหาแอปที่ต้องการเพียงปัดเลื่อนหน้าจอไม่กี่ครั้ง
แผนการเปิดตัว
การเปิดตัวครั้งแรก: ภายในเดือนมิถุนายน 2563
Mi 9/ Mi 9T/ Mi 9T Pro/ Redmi K20/ Redmi K20 Pro
ที่เหลือจะเริ่มทยอยเปิดตัวทีละรุ่น ดังนี้
Redmi Note 7/ Redmi Note 7 Pro/ Redmi Note 8 Pro/ Redmi Note 9
POCOPHONE F1/ POCO F1/ Mi 10 Pro/ Mi 10/ POCO F2 Pro/ POCO X2/ Mi 10 Lite/ Mi Note 10/ Mi 8/ Mi 8 Pro/ Mi MIX 3/ Mi MIX 2S/ Mi 9 SE/ Mi 9 Lite
Redmi Note 7S/ Mi Note 3/ Mi MIX 2/ Mi MAX 3/ Mi 8 Lite/ Redmi Y2/ Redmi S2/ Redmi Note 5/ Redmi Note 5 Pro / Redmi 6A/ Redmi 6/ Redmi 6 Pro/ Redmi Note 6 Pro/ Redmi Y3/ Redmi 7/ Redmi 7A/ Redmi Note 8/ Redmi Note 8T/ Redmi 8/ Redmi 8A/ Redmi 8A Dual/ Redmi Note 9s/ Redmi Note 9 Pro/ Redmi Note 9 Pro Max/ Mi Note 10 Lite