หลังจากที่ทีมงาน @flashfly ได้แกะกล่องพร้อมพรีวิว Vivo V19 ให้ได้ชมกันไปก่อนหน้านี้ ก็ถึงเวลาแล้วที่จะได้พบกับรีวิวเวอร์ชั่นเต็มของ Vivo V19 สมาร์ตโฟนที่ดีไซน์ออกมาอย่างสวยงามหรูหรา พร้อมด้วยนวัตกรรมกล้องคู่เซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล กับเลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล ติดตั้งอยู่ในจอแสดงผลแบบ Ultra O Screen ระบบกล้องหลัง 4 ตัวความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพในเวลากลางคืนได้สว่างคมชัดทั้งกล้องคู่หน้าและกล้องหลังอีกด้วย
สเปกที่น่าสนใจของ Vivo V19
- จอแสดงผล Super AMOLED Full HD+ ขนาด 6.44 นิ้ว
- กล้องคู่เซลฟี่ 32 + 8 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 4 ตัว 48 + 8 + 2 + 2 ล้านพิกเซล
- ระบบปฏิบัติการ FuntouchOS 10 บนพื้นฐาน Android 10
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 712
- ความจำ RAM 8GB จับคู่กับ ROM 128GB
- แบตเตอรี่ 4500mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W
- การเชื่อมต่อ 4G LTE, Wi-Fi 2.4GHz/5GHz, Bluetooth 5.0, GPS, USB-C
- ขนาดบอดี้ 159.64 x 75.04 x 8.5 มิลลิเมตร, นำหนัก 186.5 กรัม
Vivo V19 ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยหรู ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสมาร์ตโฟนระดับพรีเมี่ยม โดยเฉพาะดีไซน์ด้านหลังให้โค้งแบบ 3D รับกับฝ่ามือ เพื่อให้จับถือได้อย่างสะดวกสบาย และเลือกใช้วัสดุกระจกคุณภาพดี
โดยมีให้เลือก2 สี ได้แก่ สีดำ Gleam Black ที่มีความสง่างามคลาสสิกเหนือกาลเวลา และ สีเงิน Sleek Silver ที่เปรียบดั่งความมหัศจรรย์ของกลุ่มดาวบนท้องฟ้า
Vivo V19 มาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.44 นิ้ว ใช้วัสดุ E3 OLED ขอบเขตสี DCI-P3 100% แสดงภาพอย่างสวยงสมสมจริง สีสันสดใส พร้อมเซ็นเซอร์ช่วยปรับความสว่างตามสภาพแวดล้อมโดยรอบอัตโนมัติ
จอแสดงผลของ Vivo V19 สามารถกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายได้ถึง 42% เมื่อเปรียบเทียบกับหน้าจอ E2 ที่ไม่มีการป้องกัน โดยผ่านการรับรองจากสถาบัน TÜV Rheinland ประเทศเยอรมัน และยังมีเทคโนโลยี Low Brightness Anti-Flicker ป้องกันการกระพริบของหน้าจอขณะความสว่างต่ำ ช่วยปกป้องดวงตาของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
Vivo V19 ใช้จอแสดงผลแบบ Ultra O Screen ที่มีการเจาะรูไว้ตรงมุมบนซ้ายของหน้าจอ เพื่อติดตั้งกล้องคู่เซลฟี่ โดยมีพื้นที่ขอบจอบางเฉียบรอบด้าน
และยังรองรับเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ รวมถึงยังสามารถปลดล็อกหน้าจอด้วยการสแกนใบหน้าได้อย่างรวดเร็ว
ด้านหลังสะดุดตากับระบบกล้อง 4 ตัว จัดวางเลนส์กล้องเป็นรูปตัว L ภายในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีมุมโค้งมน ขณะที่พื้นผิวของด้านหลังก็ทำออกมาอย่างสวยงามหรูหรา
ส่วนขอบด้านข้างมีความบาง 8.5 มิลลิเมตร ติดตั้งปุ่มปรับระดับเสียง กับปุ่มเพาเวอร์ไว้ฝั่งเดียวกัน
อีกข้างหนึ่งมีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ 3 ช่อง รองรับ 2 ซิมการ์ด และยังใส่การ์ด MicroSD เพิ่มได้อีก 1 ช่อง
มุมมองจากด้านบนจะพบกับรูไมโครโฟนตัวที่สอง ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง
ด้านล่างประกอบไปด้วยช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, รูไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และ ตะแกรงลำโพง
ไฮไลท์ของ Vivo V19 อยู่ที่กล้องคู่หน้าแบบ Dual In-Display Selfie Camera ติดตั้งไว้บริเวณมุมบนซ้ายของหน้าจอ จึงต้องมีการเจาะรูจอแสดงผลเป็นรูปทรงแคปซูล หรือเรียกว่า Ultra O Screen สำหรับวางกล้องหลัก 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.08 คู่กับกล้องอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.28 ช่วยเก็บภาพเซลฟี่ในมุมมองกว้าง 105 องศา
โหมด Art Portrait สำหรับถ่ายภาพใบหน้าให้โดดเด่นได้อย่างง่ายดายในคลิกเดียว ด้วยฟิลเตอร์ โหมดแต่งหน้า หรือ ปรับแต่งความงาม
สำหรับการถ่ายวีดีโอด้วยกล้องคู่เซลฟี่ ก็มีโหมด Art Portrait Video มาเอาใจ Vlogger สามารถวิเคราะห์ความลึกตื้นของภาพ เพื่อแยกฉากหลังได้แบบเรียลไทม์ พร้อมระบบลดภาพสั่นไหว Ultra Stable Selfie Video โดยใช้ เทคโนโลยี EIS ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ Gyroscope
กล้องคู่หน้ามีจุดเด่นที่โหมด Super Night Selfie สำหรับถ่ายภาพเซลฟี่ในเวลากลางคืนหรือในที่แสงน้อยให้ออกมาคมชัด โดยใช้ AI Night Selfie และ Face Beauty มาช่วยวิเคราะห์ฉากหลังยามค่ำคืน เพื่อให้เก็บรายละเอียดของภาพถ่ายได้อย่างสมบูรณ์แบบ และควบคุม Noise หรือจุดรบกวนให้น้อยที่สุด
และยังมี Selfie Softlight Band ใช้จอแสดงผลทำหน้าที่แทนแสงแฟลชแบบนุ่มนวล ช่วยให้ภาพถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือไม่มีแสงออกมาสว่างเสมือนถ่ายอยู่ในสตูดิโอ
กล้องหลังของ Vivo V19 ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กล้องหน้า โดยวางกล้องหลัง 4 ตัว พร้อมแฟลช เป็นรูปตัว L ภายในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ให้ความรู้สึกเหมือนกล้องคอมแพค
โดยกล้องแต่ละตัวประกอบด้วย กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79, กล้องอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, กล้องโบเก้ 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และ กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 การใช้งานโหมดสลับเลนส์ต่างๆให้แตะที่ไอคอน Lens แล้วจะมีโหมด Super wide angle,Bokeh และ Super macro ออกมาให้เลือกใช้งาน
กล้องหลังของ Vivo V19 รองรับการถ่ายภาพได้ทุกสภาพแสง รวมถึงโหมดถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ ถ่ายภาพระยะใกล้วัตถุ และถ่ายภาพบุคคลออกมาอย่างโดดเด่น ด้วยการละลายฉากหลังอย่างเป็นะธรรมชาติ
กล้องหลังมาพร้อมโหมด Super Night Portrait ที่ใช้ AI มาช่วยวิเคราะห์ ปรับค่าความสว่าง และความคมชัดของภาพ ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่ สามารถจับภาพถ่ายในระดับแสงที่แตกต่างกันหลายๆ ภาพในระยะเวลาอันสั้น เพื่อทำให้ภาพถ่าย Portrait ในเวลากลางคืนออกมาสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ตามสโลแกน “จุดประกายค่ำคืนของคุณ”
AI Super Night Mode เวอร์ชั่นใหม่ สามารถจับภาพถ่ายในระดับแสงที่แตกต่างกันหลายๆภาพในระยะเวลาอันสั้นเพื่อนำมารวมกัน วิเคราะห์ ปรับค่าความสว่าง และความคมชัดของภาพให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยของ V19 ช่วยให้คุณเปล่งประกายได้แม้ในเวลากลางคืน
การถ่ายวีดีโอด้วยกล้องหลัง ก็มีฟีเจอร์ Ultra Stable Video มาช่วยทำให้ภาพเคลื่อนไหวราบรื่นและนุ่มนวล โดยใช้เทคโนโลยีลดภาพสั่นไหวแบบ EIS สามารถถ่ายความละเอียดสูงสุดระดับ 4K ที่ 30 fps
โหมดต่างๆของกล้อง Vivo V19 นอกจากจะมีโหมดเบสิกอย่าง Night ,Portrait ,Photo และ VDO แล้วที่ More เราจะพบอีก 6 โหมดนั่นก็คือโหมดความละเอียดสูง 48MP ,Pano ,Live Photo ,Slo-Mo ,Time-Lapse ,Pro ,AR Sticker ,Jovi Vision และ Doc สำหรับถ่ายภาพเพื่อสแกนเอกสาร
ฟีเจอร์การแก้ไขตกแต่งภาพถ่ายด้วย AI ของ Vivo V19 นั้นมีความสามารถมากขึ้นไปอีกขั้นเลยทีเดียว จากเดิมที่หลายคนมักจะใช้ AI Makeup ในการตกแต่งใบหน้า หรือแก้ไขสัดส่วนให้ผอมเพียว ตอนนี้ก็มี AI Matting ให้เลือกเพิ่มเข้ามา เมื่อเลือกใช้งานตัว AI จะทำการประมวลผลภาพถ่ายแยกภาพบุคคลระยะหน้าและฉากหลังออกจากกัน
ทำให้สามารถใส่เอ็ฟเฟ็คฉากหลังได้ตามใจ ส่วนภาพบุคคลระยะหน้าก็สามารถย่อขยาย หรือเลื่อนไปได้ทั่วเหมือนภาพที่ผ่านการไดคัทออกมาแล้ว สามารถเปลี่ยนฉากหลังเป็นรูปอะไรก็ได้
ยิ่งในช่วง COVID-19 ทำให้หลายคนไม่ได้ไปเที่ยวไกลๆ ก็ใช้ Vivo V19 ช่วยแก้ขัดพาไปเที่ยวโดยไม่ต้องพึ่งพาโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์แต่อย่างใดเลย ที่เด็ดสุดคือสามารถลบภาพบุคคลที่ไม่ต้องออกจากภาพได้ด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายตอนกลางคืน
Vivo V19 เลือกใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 712 มาพร้อมระบบระบายความร้อน Copper Tube Liquid Cooling โดยใช้ประโยชน์จากการถ่ายเทความร้อนระหว่างของเหลวกับไอน้ำ
เพื่อให้เกิดการกระจายความร้อนอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้ซีพียูมีอุณหภูมิลดลง 3 – 7 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ใช้งานได้นานต่อเนื่อง โดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพลดลง จากการทดสอบวัดประสิทํิภาพตัวเครื่องจาก AnTuTu ได้ถึง 24,1439 คะแนน
ด้านความจำ มาพร้อม RAM 8GB จับคู่กับ ROM 128GB รองรับการ์ด MicroSD และทำงานบนพื้นฐาน Android 10 สวมทับด้วย FuntouchOS 10 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่รองรับการใช้งาน Dark Mode ตอนกลางคืนอีกด้วย
เอ็ฟเฟ็คต่างๆสามารถเลือกปรับเปลี่ยนได้หลากหลายแบบ ทั้งการชาร์จ สแกนลายนิ้วมือ สแกนใบหน้า การแจ้งเตือน และการเสียบสาย USB ถูกใจแฟนๆ Vivo แน่นอน
ด้วยการที่ Vivo V19 ใช้หน้าจอแบบ Super AMOLED จึงสามารถใช้งานหน้าจอ Always On Display ได้ มีให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ นาฬิกา ภาพกราฟิก ปฏิทิน ไม่ซ้ำใครแน่นอน
Jovi Samrt Scene ฟีเจอร์ใหม่ของ AI ในเครื่อง แสดงพฤติกรรมต่างๆของการใช้งานตัวเครื่องในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นเวลาในการงานหน้าจอ สัมผัสหน้าจอกี่ครั้ง หยิบขึ้นมาบ่อยแค่ไหน ซึ่งบางครั้งเราอาจใช้งานมากจนเกินไปทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าทางสายตาได้
ชัดเจนว่า Vivo V19 ถูกอออกแบบมาเพื่อรองรับการเล่นเกม ด้วยชิป Snapdragon 712 พร้อมระบบระบายความร้อน Copper Tube Liquid Cooling แต่เพื่อให้การเล่นเกมลื่นไหลมากขึ้น จึงได้เพิ่มเทคโนโลยี Multi-Turbo 3.0 ช่วยเพิ่มความเร็วในการเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่น
และยังมี Game Turbo ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ตอบสนองการสัมผัสได้ไวขึ้น รวมถึง Center Turbo ที่ช่วยลดปัญหาเฟรมเรทตกได้ถึง 78.05%
นอกจากนี้ยังมี Ultra Game Mode เวอร์ชั่นใหม่ ตัวช่วยในการบันทึกหน้าจอระหว่างเล่นเกม และยังได้รับการอัพเกรด Game Vibration ตอบเกมด้วยระบบสั่น ให้การเล่นเกมสมจริงและสนุกมากขึ้น และ Voice Changer เอฟเฟกต์เปลี่ยนเสียงผู้ใช้งาน
Vivo V19 มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Vivo FlashCharge 2.0 ผ่านพอร์ต USB Typle-C สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 54% ภายในเวลาเพียง 30 นาที โดยมีความจุแบตเตอรี่ 4500mAh ที่สามารถให้อายุการใช้งานยาวนานได้ตลอดทั้งวัน
สรุปแล้ว Vivo V19 ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามพรีเมี่ยม จอแสดงผลขนาดใหญ่ ให้สีสันสวยงาม เหมาะสำหรับการรับชมคอนเท้นต์วีดีโอ โดยมีจุดเด่นที่กล้องคู่หน้า พร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ที่สามารถถ่ายภาพในเวลากลางคืนได้อย่างสวยงามไม่ว่าจะถ่ายเซลฟี่ หรือถ่ายภาพบุคคลอื่น และยังมีประสิทธิภาพในการเล่นเกมยอดนิยมในปัจจุบันได้หมดทุกเกม และเชื่อว่า Vivo V19 ก็น่าจะเป็นรุ่นยอดนิยมอีกรุ่นของ Vivo ในปีนี้
Vivo V19 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ Gleam Black ที่มีความสง่างามคลาสสิกเหนือกาลเวลา และ สีเงิน Sleek Silver ที่เปรียบดั่งความมหัศจรรย์ของกลุ่มดาวบนท้องฟ้า เปิดราคาทางการในประเทศไทยเพียง ราคา 12,999 บาท วางจำหน่ายวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
สามารถจับจองเป็นเจ้าของที่ร้านค้าออนไลน์ได้ที่