ในช่วงเวลาที่การสื่อสารสำคัญที่สุด ทรูมูฟ เอช พร้อมให้ลูกค้าชาวไทยมั่นใจได้เต็มที่กับสัญญาณคุณภาพเครือข่ายที่ดีที่สุด แม้ยามวิกฤตโควิด-19 โดยได้รับการยืนยันจากสถาบันทดสอบคุณภาพระดับโลกอย่าง nPerf ผู้ให้บริการทดสอบคุณภาพอินเทอร์เน็ตบนมือถือ ทั้งระบบปฎิบัติการ iOS และ Android ที่ประกาศล่าสุดให้ ทรูมูฟ เอช เป็น “เครือข่าย ยอดเยี่ยม/ที่ดีที่สุดในประเทศไทยประจำไตรมาส 1 ปี 2563” แชมป์ต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2559-2562 โดยผลล่าสุดในหมวดผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Internet) ประจำไตรมาส 1 ปี 2563 ได้รวบรวมผลทดสอบจากผู้ใช้งานแอป nPerf ทั้งหมดในช่วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2563 มากกว่า 547,242 ครั้ง ซึ่งทรูมูฟ เอชได้คะแนนรวมสูงสุดที่ 63,278 คะแนน และมีคะแนนนำในหมวดการทดสอบ ทั้งการบราวน์ซิ่งหรือคุณภาพในการเปิดเว็บที่ดีที่สุด (Best Browsing Performance) ด้วยค่าเฉลี่ยสูงสุดถึง 60 % โดยพิจารณาจากคุณภาพการเปิด 5 เว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตชาวไทยใช้บ่อยที่สุด และการสตรีมมิ่งหรือคุณภาพการสตรีมมิ่งวิดีโอที่ดีที่สุด (Best Streaming Performance) ด้วยค่าเฉลี่ยสูงสุดถึง 83% โดยพิจารณาจากคุณภาพการรับชมวิดีโอบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยูทูป แม้ว่าในช่วงนี้จะมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เนื่องมาจากการ Work from Home และเรียนออนไลน์ ทรูมูฟ เอชยังคงรักษาคุณภาพของเครือข่ายได้อย่างเต็มศักยภาพ ตอกย้ำความสำเร็จของทรูมูฟ เอช ในการพัฒนาเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุดมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการเปิดให้บริการเครือข่ายอัจฉริยะ True 5G ส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้งานทรูมูฟ เอช 4G ดีขึ้นด้วย
นายจิระชัย คุณากร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการโครงข่าย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทรูมูฟ เอช มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนไทยได้ติดต่อสื่อสารบนเครือข่ายที่ดีที่สุดโดยเฉพาะในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่คนไทยต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานโดยรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อร่วมกันอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ การสื่อสารจึงมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงให้คนไทยใกล้กันได้มากขึ้น ทั้งยังสนับสนุนการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทรูมูฟ เอช ได้เตรียมความพร้อมของโครงข่ายเพื่อรองรับการสื่อสารทุกรูปแบบในภาวะวิกฤตนี้ เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา และมั่นใจได้เต็มที่กับสัญญาณคุณภาพบนเครือข่ายที่ดีที่สุด
โดยทรูมูฟ เอช ได้รับการยืนยันจากสถาบันทดสอบคุณภาพระดับโลกอย่าง nPerf ที่ประกาศให้ทรูมูฟ เอชเป็น “เครือข่ายยอดเยี่ยม/ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ประจำไตรมาส 1 ปี 2563” นับเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 – 2562 และล่าสุดในไตรมาส 1 ปี 2563 เราก็ยังคงมีคะแนนนำรวมสูงสุดอยู่ที่ 63,278 คะแนน โดยเฉพาะในหมวดการทดสอบการบราวน์ซิ่งหรือคุณภาพในการเปิดเว็บที่ดีที่สุด (Best Browsing Performance) ด้วยค่าเฉลี่ยสูงสุดถึง 60 % ซึ่งพิจารณาจากคุณภาพการเปิด 5 เว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตชาวไทยใช้บ่อยที่สุด รวมถึงการทดสอบการสตรีมมิ่งหรือคุณภาพการสตรีมมิ่งวิดีโอที่ดีที่สุด (Best Streaming Performance) ที่ได้ค่าเฉลี่ยสูงสุดถึง 83% จากการพิจารณาคุณภาพการรับชมวิดีโอบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยูทูป โดยผลการทดสอบดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของเครือข่ายและความมุ่งมั่นของทรูมูฟ เอช ในการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารของไทยอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อส่งมอบประสบการณ์การสื่อสารที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าชาวไทย รวมถึงการเปิดให้บริการเครือข่ายอัจฉริยะ True 5G ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วไทย ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานทรูมูฟ เอช 4G ดีขึ้นอีกด้วย”
ทั้งนี้ nPerf เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ทดสอบคุณภาพอินเทอร์เน็ตบนมือถือแบบรอบด้านระดับโลกจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งให้บริการมาตั้งแต่ปี 2003 โดยทดสอบคุณภาพการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนมือถือทั้งระบบปฎิบัติการ iOS และ Android ได้ประกาศผลรางวัลล่าสุดในหมวดของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Internet) ประจำไตรมาส 1 ปี 2563 โดยรวบรวมผลทดสอบจากผู้ใช้งานแอป nPerf ทั้งหมดในช่วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2563 มากกว่า 547,242 ครั้ง ซึ่งทรูมูฟ เอชได้คะแนนรวมสูงสุดที่ 63,278 คะแนน และมีคะแนนนำในหมวดการทดสอบ ทั้งการบราวน์ซิ่งหรือคุณภาพในการเปิดเว็บที่ดีที่สุด (Best Browsing Performance) ด้วยค่าเฉลี่ยสูงสุดถึง 60 % โดยพิจารณาจากคุณภาพการเปิด 5 เว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตชาวไทยใช้บ่อยที่สุด และการสตรีมมิ่งหรือคุณภาพการสตรีมมิ่งวิดีโอที่ดีที่สุด (Best Streaming Performance) ด้วยค่าเฉลี่ยสูงสุดถึง 83% โดยพิจารณาจากคุณภาพการรับชมวิดีโอบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยูทูป ซึ่งทรูมูฟ เอชสามารถรักษาแชมป์เครือข่ายยอดเยี่ยม/ที่ดีที่สุดในประเทศไทยต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 4 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 – 2562