หลังจากที่ Vivo ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนแห่งอนาคต Vivo APEX 2020 ไปในช่วงต้นปี 2020 ไปเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดทาง Vivo ก็ได้เตรียมเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดประเทศไทยแล้ว โดยสานต่อความสำเร็จจากในรุ่น Vivo V17 ที่เปิดตัวในปีที่แล้ว
ด้วยรุ่นใหม่ล่าสุดกับ Vivo V19 ซึ่งหลายคนอาจจะเคยได้ยินข่าวการเปิดตัวในต่างประเทศมาบ้างแล้ว แต่ขอบอกเลยว่า V19 ในประเทศไทยนั้นแตกต่างออกไป และมีหลายจุดที่เหนือกว่า ส่วนจะมีจุดเด่นอะไรบ้าง? วันนี้ทีมงาน @flashfly ได้ตัวเครื่องมาทดสอบเป็นที่เรียบร้อยจะขอพรีวิวพร้อมแกะกล่องให้ได้ชมกันก่อนใครเช่นเคย
ตัวกล่องของ Vivo V19 มาในกล่องสีดำดูหรูหราสวยงาสมจะเห็นชื่อรุ่น V19 สีฟ้าอย่างชัดเจนบนฝากล่อง โดยมีรูปภาพด้านหน้าของตัวเครื่องที่เน้นไปที่ตำแหน่งกล้องคู่เซลฟี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเด่นของ Vivo V19 นั่นเอง ส่วนโลโก้ Vivo อยู่มุมซ้ายบน
หลังกล่องมีการระบุจุดเด่นของ Vivo V19 ไว้ 3 อย่าง ได้แก่ กล้องคู่เซลฟี่แบบฝังไว้ในรูตรงมุมบนของจอแสดงผล, รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Vivo FlashCharge 2.0 และโหมดถ่ายภาพเซลฟีในเวลากลางคืน Super Night Selfie
เมื่อเปิดฝากล่องขึ้นมา จะพบกับกล่องกระดาษสีดำที่มีชื่อรุ่น V19 อยู่ด้านล่าง ภายในบรรจุอุปกรณ์ต่างๆไว้ดังนี้
อย่างแรกที่พบเลยคือสายเคเบิล USB Type-C สำหรับชาร์จตัวเครื่อง
เคสใสสำหรับใส่ปกป้องสมาร์ทโฟน ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มเติมให้เสียเวลา
เอกสารคู่มือการใช้งานเบื้องต้นและบัตรรับประกัน และแถมเข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
ถัดมาจะพบกับสมาร์ทโฟน Vivo V19 นอนอยู่ในซองพลาสติก ช่วยป้องกันริ้วรอยในระหว่างเดินทาง และมีการติดฟิล์มกันรอยจอแสดงผลมาให้แล้ว
เมื่อนำตัวเครื่องออกไปมาดูด้านล่างสุดยังมีอุปกรณ์ที่สำคัญอยู่อีก 2 อย่าง
นั่นก็คือ Power Adapter หรืออุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ 33W Vivo FlashCharge 2.0 ขนาดพกพา
และสุดท้าย Vivo ยังได้แถมชุดหูฟัง 3.5 มม.มาให้ด้วย เรียกได้ว่าของแถมมาครบ ที่หลังๆจะเริ่มหาได้ยากในชุดของสมาร์ตโฟยปัจจุบันแล้ว
ดีไซน์ด้านหลังของ Vivo V19 ทำออกมาได้อย่างเรียบหรูดูดี ด้วยพื้นผิวกระจกสะท้อนเงา ผลิตออกมาให้เลือก 2 สี ได้แก่ Gleam Black สีดำสุดคลาสสิกสง่างาม กับ Sleek Silver สีเงินที่มีความเปล่งประกายคล้ายกลุ่มดาวบนท้องฟ้า และไม่ว่าจะเลือกสีไหนก็จับถือได้อย่างถนัดด้วยดีไซน์โค้ง 3D รับกับฝ่ามือได้อย่างพอดี
ด้านหน้าเต็มไปด้วยพื้นที่ของจอแสดงผล Super AMOLED แบบ Ultra O Screen ความละเอียด Full HD+ ขนาด 6.44 นิ้ว ให้สีสันคมชัดสมจริงด้วยขอบเขตสี DCI-P3 100% และยังได้รับการรับรองจากสถาบัน TÜV Rheinland ประเทศเยอรมันว่าสามารถกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายได้ถึง 42% เมื่อเปรียบเทียบกับหน้าจอ E2 ที่ไม่มีการป้องกัน (จอแสดงผลของ Vivo V19 ใช้วัสดุ E3 OLED)
นอกจากนี้หน้าจอของ Vivo V19 ยังรองรับวิธีสแกนลายนิ้วมือบนจอแสดงผลอีกด้วย
Vivo V19 ฝังกล้องคู่เซลฟี่แบบ Dual In-Display Selfie Camera ไว้ที่มุมบนซ้ายของหน้าจอ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องรองที่เป็นเลนส์มุมกว้างพิเศษ 8 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพเซลฟี่ในมุมมองกว้าง 105 ล้านพิกเซล และถ่ายเซลฟี่ในเวลากลางคืนหรือในที่แสงน้อยได้อย่างสวยงามด้วยด้วยฟีเจอร์ AI Night Selfie และ Face Beauty
ระบบกล้องหลัง 4 ตัว จัดวางเลนส์กล้องเป็นรูปตัว L ภายในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ให้ความรู้สึกเหมือนกล้อคอมแพค ประกอบด้วย กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล, กล้องอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล, กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล และกล้องโบเก้ 2 ล้านพิกเซล
กล้องหลังของ Vivo V19 รองรับการถ่ายภาพได้ทุกสภาพแสง รวมถึงโหมดถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ ถ่ายภาพระยะใกล้วัตถุ และถ่ายภาพบุคคลออกมาอย่างโดดเด่น ด้วยการละลายฉากหลังอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังถ่ายวีดีโอได้อย่างราบรื่นด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหว Ultra Stable Video
Vivo V19 ทำงานบนพื้นฐาน Android 10 สวมทับด้วย FuntouchOS 10 ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 712 ความจำ RAM 8GB จับคู่กับ ROM 128GB และยังมีระบบระบายความร้อน Copper Tube Liquid Cooling ใช้ประโยชน์จากการถ่ายเทความร้อนระหว่างของเหลวกับไอน้ำ เพื่อให้เกิดการกระจายความร้อนอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้ซีพียูมีอุณหภูมิลดลง 3 – 7 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ใช้งานได้นานต่อเนื่อง โดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพลดลง
Vivo V19 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4500mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Vivo FlashCharge 2.0 ผ่านพอร์ต USB Typle-C ให้อายุการใช้งานยาวนานตลอดทั้งวัน และยังชาร์จจนเต็มได้อย่างรวดเร็วทันใจ
และนี่คือฟีเจอร์ที่น่าสนใจบางส่วนของ Vivo V19 ที่กำลังจะเปิดตัวในประเทศไทยในเร็วๆนี้ ซึ่งยังคงโดดเด่นด้วยดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงาม หน้าจอคุณภาพสูงโดยเฉพาะกล้องคู่หน้าที่มีความละเอียดถึง 32 ล้านพิกเซล อีกเลนส์เป็นเลนส์ Super Wide-Angle และรองรับการถ่ายภาพเซลฟี่ตอนกลางคืน Super Night Selfie ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังอีกด้วย ซึ่งทาง Vivo จะเปิดตัวทางการในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ติดตามรีวิวฉบับเต็มกันได้ไม่นานเกินรอ