iPhone SE รุ่นที่ 2 เริ่มวางจำหน่ายแล้วใน 40 ประเทศทั่วโลก ในราคาเริ่มต้นเพียง 399 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 14,900 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทำให้เกิดความต้องการได้อย่างมาก เมื่อเทียบกับคุณสมบัติที่ Apple จัดให้ โดย iPhone SE เวอร์ชั่น 2020 มาพร้อมชิปประมวลผล A13 Bionic รองรับการชาร์จไร้สาย กันน้ำในระดับ IP67 แต่คุณภาพกล้องจะเป็นอย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับ iPhone 11 และ iPhone XR
iPhone SE รุ่นที่ 2 อยู่ตรงกลางระหว่าง iPhone XR กับ iPhone 11 มาพร้อมกล้องหลังเลนส์เดียว 12 ล้านพิกเซล รองรับการบันทึกวีดีโอ 4K พร้อมระบบกันสั่น OIS ส่วนกล้องหน้ามีคุณสมบัติคล้าย iPhone XR แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อถูกนำมาถ่ายภาพในชีวิตจริง
เจ้าของช่อง Mrwhosetheboss ใน YouTube ได้นำ iPhone SE รุ่นที่ 2, iPhone 11 และ iPhone XR มาเปรียบกล้องให้ได้ชมกันแล้ว ซึ่งผลสรุปว่า iPhone SE เวอร์ชั่น 2020 ได้ภาพได้ดีกว่า iPhone XR และเกือบจะดีเท่า iPhone 11 สำหรับการถ่ายภาพในบริเวณที่มีแสงจากธรรมชาติ ให้รายละเอียดสีที่ถูกต้อง และช่วงไดนามิกที่กว้าง ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการใช้ชิป A13 Bionic ที่ได้รับการปรับปรุง ISP อย่างไรก็ตาม ภาพถ่ายในที่แสงน้อย iPhone XR ยังทำได้ดีกว่า
iPhone SE รุ่นที่ 2 ยังรองรับโหมดภาพถ่ายบุคคล แต่ไม่สามารถใช้ได้กับการถ่ายภาพสัตว์และวัตถุต่างๆ (นอกจากจะใช้แอพจากบุคคลที่สาม) สำหรับกล้องหน้า iPhone 11 ทำได้ดีที่สุด ให้ช่วงไดนามิกที่กว้างกว่า
เมื่อมาถึงการถ่ายวิดีโอ iPhone SE รุ่นที่ 2, iPhone 11 และ iPhone XR มีคุณภาพใกล้เคียงกัน แต่ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS ของ iPhone 11 กับ iPhone SE ดูเหมือนจะทำได้ดีกว่า iPhone XR อย่างไรก็ตาม การถ่ายวิดีโอสโลว์โมชั่น iPhone 11 มีความโดดเด่นที่สุด ส่วน iPhone XR กับ iPhone SE รุ่นใหม่ มีคุณภาพใกล้เคียงกัน
สำหรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้า iPhone 11 เหนือกว่าอย่างชัดเจน ด้วยความละเอียด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ขณะที่ iPhone XR กับ iPhone SE รุ่นที่ 2 ยังติดอยู่กับความละเอียด Full HD 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที นอกจากนี้ iPhone SE รุ่นที่ 2 กับ iPhone XR ยังขาด Night Mode นั่นหมายถึงการถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืน iPhone 11 จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
SuperSaf เป็น YouTuber อีกรายที่นำ iPhone SE รุ่นที่ 2 กับ iPhone 11 มาเปรียบเทียบกล้องให้ได้ชมกัน ตามคลิปวีดีโอด้านล่าง