โดย Campaign Asia-Pacific ที่ออกมาวานนี้ เผยถึงผลการจัดลำดับใหม่ของแบรนด์ยอดนิยมที่ติดอันดับในเอเชียประจำปี 2012 ซึ่งพบว่า ซัมซุงสามารถครองแชมป์มาในอันดับที่หนึ่ง ตามมาด้วยแอปเปิ้ล ในขณะที่ ที่สามและห้า ตกเป็นของ โซนี่และพานาโซนิค ตามลำดับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า 4 อันดับในท็อปไฟว์ทั้งหมด ล้วนแล้วแต่เป็นแบรนด์ของบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ทั้งสิ้น จะมีก็แต่ เนสท์เล่ ที่ไม่ใช่ผู้ผลิตอิเล็กทรอนิคส์ ที่เข้ามาอยู่ในลำดับที่สี่
โดยการจัดอันดับนี้ เป็นปีที่ 9 แล้ว โดยมีการสำรวจและรวบรวมข้อมูลจากผู้อยู่อาศัยทั่วเอเชียกว่า 4,800 คน โดย Jolene Otremba บรรณาธิการนิตยสาร กล่าว “ชัยชนะของซัมซุงในการเป็นจุดสูงสุด มาจากการอุทิศตนเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมให้มีความหลากหลายในวงการอิเล็กทรอ นิคส์ โดยโฟกัสในเรื่องของการตลาดที่สามารถมองเห็นได้สูงและการโฆษณา เช่นเดียวกับความมุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์ที่กำลังพัฒนาทั้งสิ่งใหม่ๆและตลาด ที่เติบโตเต็มที่แล้ว เพื่อช่วยเป็นแรงผลักดันตัวแบรนด์ให้มีชื่อเสียงนั่นเอง” ซึ่งจากผลการสำรวจยังสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงค่านิยมในสังคมเอเชีย ว่า มีแนวโน้มโอนเอียงไปทางสมาร์ทโฟนและแท๊บเล็ต โดยโซนี่ที่เคยครองแชมป์ในอันดับหนึ่งนั้น กลับตกลงมาอยู่ในอันดับที่สามหลังจากที่ทั้งซัมซุงและแอปเปิ้ลสามารถก้าว ข้ามผ่านไปได้
ซึ่งซีอีโอของโซนี่ได้กล่าวเอาไว้เมื่อตอนต้นปีว่า จะมีการปรับโครงสร้างเพื่อนำให้บริษัทกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง โดยผู้บริโภคชาวเอเชียยังได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ระดับสูง อย่างเช่น Louis Vuitton และ Calvin Klein อีกด้วย ซึ่งแบรนด์ระดับโลกต่างก็ยังคงสามารถรักษาตำแหน่งเอาไว้ได้ สังเกตได้จากส่วนหนึ่งของผลสำรวจ ที่พบว่า มีแบรนด์ท้องถิ่นของจีนโผล่เข้ามาแค่เพียง 3 บริษัทเท่านั้น เทียบกับ 8 แบรนด์ที่พบเมื่อปีที่ผ่านมา
โดยซัมซุงนอกจากจะได้รับการยอมรับและความนิยมในประเทศบ้านเกิดตัวเองแล้ว ยังพบว่า สามารถครองใจผู้บริโภคในฮ่องกง, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และ ไทย ได้อีกด้วย แม้แบรนด์แอปเปิ้ลจะได้เป็นที่สองในตลาดเอเชีย แต่ได้รับการยอมรับทั่วโลกว่า เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีมูลค่ามากที่สุด ซึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Millward Brown ได้ประกาศว่า ผู้ผลิตไอโฟนเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุดของโลก ด้วยมูลค่าที่ประเมินได้ 183พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และจากการจัดอันดับโลก แอปเปิ้ลถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 8 ในปี 2011
ที่มา – Pantip