Apple เริ่มวางจำหน่าย iPhone SE รุ่นที่ 2 อย่างทางการแล้วใน 40 ประเทศ และกำลังจะมาถึงประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้ โดยมีการประกาศราคาออกมาแล้ว เริ่มต้นที่ 14,900 บาท แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่ Apple ไม่ได้ประกาศออกมา ซึ่งเว็บไซต์ iPhoneHacks รวบรวมมาให้แล้ว
ถ่ายโอนข้อมูลจาก iPhone เครื่องเก่า
สำหรับเจ้าของ iPhone รุ่นเก่า ที่ตัดสินใจอัพเกรดมาซื้อ iPhone SE รุ่นที่ 2 สามารถทำการถ่ายโอนข้อมูลจาก iPhone เครื่องเก่า มาสู่เครื่องใหม่ได้ง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ iTunes หรือ iCloud เพียงนำ iPhone เครื่องเก่า มาวางใกล้กับ iPhone SE รุ่นใหม่ ก่อนทำการตั้งค่าครั้งแรก และให้ทำตามคำแนะนำจากวีดีโอด้านล่าง
ทำความรู้จักกับ Haptic Touch
สำหรับเจ้าของ iPhone รุ่นเก่า ที่จอแสดงผลรอบรับ 3D Touch จำเป็นต้องรู้ว่า iPhone SE รุ่นที่ 2 ได้เปลี่ยนมาใช้ Haptic Touch หรือ การแตะค้างแบบสั่น โดยการแตะที่ Link หรือ ไอคอน ค้างไว้ เพื่อแสดงเมนูย่อย โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าไปตั้งค่า Haptic Touch ได้ที่แอพการตั้งค่า > การช่วยการเข้าถึง > แตะ > การกดค้างแบบสั่น แล้วเลือกว่าจะให้ Haptic Touch ตอบสนองการสัมผัสช้าหรือเร็ว
QuickTake
iPhone SE รุ่นที่ 2 สนับสนุนฟีเจอร์ QuickTake เช่นเดียวกับ iPhone 11 และ iPhone 11 Pro ช่วยให้ผู้ใช้งานแตะปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้และเริ่มการถ่ายวิดีโอทันทีในแอพกล้อง แต่ถ้าต้องการถ่ายวีดีโอต่อไปเป้นเวลานาน ให้ลากปุ่มชัตเตอร์ไปทางขวา เพื่อล็อคเข้าสู่โหมดบันทึกวิดีโอ
QuickPath
ฟีเจอร์ QuickPath มาพร้อม iOS 13 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถป้อนข้อความด้วยวิธีการลากปลายนิ้วผ่านปุ่มตัวอักษรที่ต้องการพิมพ์โดยไม่ต้องยกนิ้ว คล้ายกับการทำงานของ SwiftKey และ Gboard ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการพิมพ์ข้อความบนจอแสดงผล 4.7 นิ้ว ของ iPhone SE รุ่นใหม่
รองรับชาร์จเร็ว
iPhone SE รุ่นที่ 2 รองรับการชาร์จเร็ว สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 50% ในเวลาเพียง 30 นาที แต่ต้องใช้ USB-C Power Adapter ขนาด 18W กับสายเคเบิล Lightning-to-USB-C และทั้ง 2 อย่างนี้ Apple ไม่ได้แถมมาให้ในกล่อง
การชาร์จไร้สาย
นอกจากชาร์จเร็วแล้ว iPhone SE รุ่นที่ 2 ยังสนับสนุนการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย แต่น่าเสียดาย Apple ได้แถมอุปกรณ์ชาร์จไร้สายมาให้ในกล่อง อย่างไรก็ตาม iPhone SE รุ่นใหม่ สามารถชาร์จไร้สายร่วมกับอุปกรณ์ชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน Qi ที่หาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด
จัดการงานอัตโนมัติด้วยแอพคำสั่งลัด
iPhone SE รุ่นที่ 2 สามารถใช้แอพคำสั่งลัด เพื่อทำงานซ้ำๆ อัตโนมัติ หรือจัดงานหลายอย่างเข้าด้วยกัน ตัวอย่างเช่น สร้างคำสั่งลัดเพื่อปิดโหมดห้ามรบกวน, ส่งข้อความหาใครสักคน, อ่านพาดหัวข่าวล่าสุด และเปิดไฟ ได้ด้วยคำสั่งเดียว
Portrait Lighting
ถึงแม้ iPhone SE รุ่นที่ 2 จะมาพร้อมกล้องหลังเลนส์เดียว แต่รองรับ Portrait Mode รวมถึง Portrait Lighting หรือ การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล ที่มาพร้อมเอฟเฟ็กต์ 6 แบบ ได้แก่ แสงไฟธรรมชาติ, แสงไฟสตูดิโอ, แสงไฟคอนทัวร์, แสงไฟเวที, แสงไฟเวทีขาวดำ และ แสงไฟขาวดำไฮคีย์
อย่างไรก็ตาม Portrait Mode ของ iPhone SE รุ่นที่ 2 ไม่สามารถใช้ได้กับการถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง และวัตถุต่างๆ
ถ่ายวีดีโอ 4K
iPhone SE รุ่นที่ 2 สามารถถ่ายวีดีโอความละเอียดสูง 4K ด้วยอัตราเฟรมเรทสูงสุด 60 เฟรมต่อวินาที แต่การบันทึกวีดีโอความละเอียดสูง 4K จำเป็นต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก ซึ่งรุ่นพื้นฐาน 64GB อาจไม่เพียงพอ
Cut, Copy, Paste อย่างง่ายดาย
ด้วย iOS 13 ทำให้ iPhone SE รุ่นที่ 2 สนับสนุนคำสั่งท่าทางสำหรับ Cut, Copy, Paste ข้อความได้อย่างง่ายดาย โดยใช้ 3 นิ้ว จีบหน้าจอ เพื่อ Copy, ใช้ 3 นิ้ว จีบหน้าจอ 2 ครั้ว เพื่อ Cut และ ใช้ 3 นิ้ว แตะบนหน้าจอแล้วถ่างออก เพื่อ Paste
เชื่อมต่อ AirPods ได้หลายคู่
iPhone SE รุ่นที่ 2 รองรับฟีเจอร์ Audio Sharing สำหรับการฟังเพลงร่วมกับ AirPods ได้มากกว่า 1 คู่ โดยเข้าไปที่ AirPlay จาก Control Center แล้วยอมรับการจับคู่กับ AirPods คู่ที่ 2 เพื่อร่วมฟังเสียงพร้อมกัน
การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่
Optimize Battery Charging หรือ การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่ เป็นอีกฟีเจอร์ที่ iPhone SE รุ่นที่ 2 ได้รับประโยชน์จาก iOS 13 การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ iPhone และปรับปรุงอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ โดยลดเวลาที่ iPhone จะได้รับการชาร์จจนเต็ม
เมื่อเปิดใช้งาน การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่ iPhone จะหน่วงเวลาชาร์จเมื่อมีแบตเตอรี่เกิน 80% ในบางสถานการณ์ iPhone จะใช้การเรียนรู้ของเครื่องในอุปกรณ์เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมการชาร์จรายวันของผู้ใช้งาน เพื่อให้การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่ทำงานเฉพาะเมื่อ iPhone คาดการณ์ว่าจะเชื่อมต่อกับที่ชาร์จเป็นเวลานาน อัลกอริทึมมีจุดมุ่งหมายเพื่อรับประกันว่า iPhone จะยังคงชาร์จจนเต็มเมื่อถอดปลั๊ก
ปรับแต่งความไวปุ่มโฮม
ปุ่มโฮมของ iPhone SE รุ่นที่ 2 เป็นปุ่มสัมผัส Capacitive ซึ่งทำงานคล้ายกับ Force Touch บนแทร็คแพดของ MacBook และสามารถปรับแต่งความไวในการสัมผัสได้ โดยเข้าไปที่แอพ Settings > General > Home Button แล้วลองปรับการตอบสนองของปุ่มโฮมตามต้องการ
ปิดเสียงเรียกเข้าจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก
iPhone SE รุ่นที่ 2 รองรับฟีเจอร์ Silence Unknown Callers สามารถปิดเสียงสายเรียกเข้าทั้งหมดโดยอัตโนมัติจากหมายเลขที่ไม่รู้จัก หรือ ไม่ได้อยู่ใน Contacts บน iPhone โดยไปที่ Settings > Messages แล้วเปิดฟีเจอร์ Silence Unknown Callers หลังจากนั้น สายเรียกเข้าที่ไม่รู้จัก จะถูกโอนไปยัง Voicemail
Express Card
iPhone SE เวอร์ชั่น 2020 รองรับฟีเจอร์ Express Card พร้อม Power Reserve ซึ่งหมายความว่า iPhone SE รุ่นใหม่ สามารถชำระค่าบริการขนส่งสาธารณะ อย่างเช่น รถไฟใต้ดิน ได้ทุกเมื่อ แม้ว่าแบตเตอรี่ iPhone จะหมด แต่ทำงานร่วมกับบริการขนส่งสาธารณะที่สนับสนุน Express Transit
ที่มา – iPhoneHacks
https://www.flashfly.net/wp/296815