OPPO เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพกล้องเป็นพิเศษ ไม่เพียงแต่กล้องหลังที่คมชัด กล้องหน้าก็ต้องถ่ายเซลฟี่ออกมาสวยงามด้วย นั่นทำให้สมาร์ทโฟน F Series ของ OPPO ประสบความสำเร็จตั้งแต่รุ่นแรก OPPO F1 จนมาถึง OPPO F11 Pro ที่มาพร้อมกล้องเซลฟี่แบบ Pop-up เพิ่มลูกเล่นด้วยกลไกซ่อนกล้องไว้ที่ด้านบน แต่ยังคงให้ภาพถ่ายออกมาคมชัดเหมือนเดิม ตามคอนเซ็ปต์ “Selfie Expert”
OPPO F1 สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ F Series เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยช่วงต้นปี 2016 และได้รับความนิยมในทันที ด้วยความโดดเด่นของกล้องเซลฟี่ และการออกแบบสมาร์ทโฟนที่สวยงามพรีเมี่ยม สวนทางกับราคาเปิดตัวที่ไม่ถึง 10,000 บาท จึงไม่น่าแปลกใจที่จะออกรุ่นใหม่ตามมา
นั่นก็คือ OPPO F1 Plus ที่มาพร้อมสโลแกน “Selfie Expert” กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล รองรับฟีเจอร์ Beautify 4.0 ให้ภาพถ่ายเซลฟี่คมชัดสวยงาม และเนียนใสอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้แอพพลิเคชั่นอื่นมาช่วยเติมแต่ง หลังจากนั้น OPPO ก็กลายแบรนด์ขึ้นชื่อด้านการถ่ายภาพเซลฟี่อันดับต้นของวงการสมาร์ทโฟนในทันที
และยังได้เปิดตัวรุ่นใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอกย้ำความเป็น “Selfie Expert” ไม่ว่าจะเป็น OPPO F1s ,OPPO F5 ,OPPO F7 และ OPPO F9 ที่ไม่ได้มีเพียงจุดเด่นที่กล้องเซลฟี่เท่านั้น แต่ยังดีไซน์ตัวเครื่องออกมาอย่างสวยงาม สะดุดตาอย่างมาก
จากการที่ OPPO ได้พัฒนาทั้งด้านกล้องและดีไซน์มาอย่างต่อเนื่องจนมาถึงในรุ่น OPPO F11 Pro ได้สร้างความโดดเด่นด้วยกล้องเซลฟี่แบบ Pop-up เป็นครั้งแรก ดีไซน์ตัวเครื่องแบบไล่เฉดสี ส่งผลให้ทำยอดขายแบบถล่มทลายหลังจากเปิดจองในแรกอีกเช่นเคย
ปัจจุบันสมาร์ทโฟน F Series ของ OPPO ไม่ได้หายไปไหน แต่ได้ถ่ายทอด DNA ความเป็น Selfie Expert ไปยังแบรนด์อื่นๆ ของ OPPO อย่าง OPPO Reno Series โดยเฉพาะ OPPO Reno 10x Zoom สมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมที่มีดีไซน์กล้องหน้าสุดล้ำสมัย Pivot Rising Camera หรือที่รู้จักกันดีว่า Shark-fin ที่เป็นการซ่อนกล้องวในตัวเครื่องที่แนบเนียนและไม่เหมือนใคร
ตามมาด้วย OPPO Reno2 Series ที่ยังคงถ่ายทอดความเป็น “Selfie Expert” มาพร้อมพร้อมกล้องหน้าแบบ Pop-up ถ่ายภาพเซลฟี่สวยชัดทุกมุมมองด้วย Atmosphere Light และ AI Beauty Mode แบบใหม่หมด รวมทั้งรองรับโหมดถ่ายภาพ Portrait ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
OPPO Reno3 Pro ครั้งแรกในโลก กับกล้องคู่หน้าความละเอียด 44 ล้านพิกเซล
มาถึงรุ่นใหม่ล่าสุด OPPO Reno3 Pro ที่มาพร้อมสโลกแกน “Clear in Every Shot กล้องหน้าคู่สวยชัด 44 MP” ได้ยกระดับ Selfie Expert ขึ้นไปอีกขั้น ถือครั้งแรกในโลกกับสมาร์ทโฟนที่มีกล้องหน้าคู่ชัดสุดถึง 44 ล้านพิกเซล ที่มีความคมชัด เบลอหลังอย่างมีมิติและสวยเนียนธรรชาติ และยังมีดีไซน์สวยงามเรียบง่ายอย่างลงตัว ด้วยการติดตั้งกล้องคู่เซลฟี่ไว้ใต้จอแสดงผลแบบ Dual Punch-hole Display
กล้องคู่หน้าของ OPPO Reno3 Pro ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 44 ล้านพิกเซล Ultra-clear Main Camera ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.65 นิ้ว รูรับแสง F2.4 ให้ภาพเซลฟี่คมชัดสวยงาม เป็นธรรมชาติ วางคู่กับกล้องโบเก้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล Depth of Field Lens ขนาดเซ็นเซอร์ 1/5 นิ้ว รูรับแสง F2.4
กล้องหน้าของ OPPO Reno3 Pro มีจุดเด่นที่ Dual Lens Bokeh ใช้ประโยชน์จากกล้องรองที่ติดตั้งมาคู่กัน ช่วยทำหน้าที่ช่วยจับระยะชัดลึก ทำให้ภาพเซลฟี่มีระยะชัดลึกชัดตื้นเป็นธรรมชาติมากกว่าที่เคย สามารถโฟกัสที่ตัวบุคคลได้ดีและคมชัดมากยิ่งขึ้น
ส่งผลให้กล้องเซลฟี่ของ OPPO Reno3 Pro ถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลายได้อย่างมีมิติและเป็นธรรมชาติเหมือนกล้องโปร แม้จะถ่ายด้วยกล้องด้านหน้าก็ตาม
อีกฟีเจอร์เด่นของกล้องหน้า OPPO Reno3 Pro ก็คือ Ultra Night Selfie Mode ครั้งแรกกับสมาร์ทโฟน OPPO ที่ทำให้การถ่ายภาพเซลฟี่ตอนกลางคืนหรือที่แสงน้อยให้ภาพที่สว่างและสวยงาม ด้วยการทำหน้าที่ของระบบ New Multi-frame Composition จับภาพหลายเฟรมแล้วนำมารวมกันเป็นภาพเดียว พร้อมทำงานร่วมกับโหมด HDR เพื่อให้ได้ภาพถ่ายเซลฟี่ที่ดีที่สุด
เบื้องหลังที่ทำให้โหมดถ่ายภาพ Ultra Night Selfie Mode ถ่ายภาพออกมาอย่างคมชัด มาจากเทคโนโลยีลดจุดรบกวนอัจฉริยะ AI-based Noise Reduction ที่ผสานการทำงานร่วมกันระหว่าง AI Algorithms, HDR และ Multi-frame Noise Reduction
ไม่เพียงแค่นั้น กล้องหน้าของ OPPO Reno3 Pro ยังมาพร้อมระบบประมวลใบหน้า Human Face Protection สามารถวิเคราะห์ลักษณะเฉพาะต่างๆ บนใบหน้า เพื่อช่วยปรับความสว่างของใบหน้าบุคคลและฉากหลัง ช่วยให้ภาพถ่ายเซลฟี่ในเวลากลางคืน ออกมาสวยงามคมชัด และให้รายละเอียดชัดเจนแบบที่ตาเปล่าไม่สามารถมองเห็นได้
เปรียบเทียบภาพถ่ายระหว่าง OPPO Reno3 Pro กับ iPhone 11 Pro Max
Portrait Mode (กล้องหน้า)
Selfie Mode (กล้องหน้า)
Portrait Mode (กล้องหลัง)
ไม่ใช่เพียงกล้องคู่เซลฟี่เท่านั้น ที่เป็นจุดเด่นของ OPPO Reno3 Pro แต่ยังมาพร้อมระบบกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.72 นิ้ว ขนาดพิกเซล 0.8 ไมครอน รูรับแสง F1.8
- กล้องเทเลโฟโต้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.4 นิ้ว ขนาดพิกเซล 1.0 ไมครอน รูรับแสง F2.4
- กล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/4 นิ้ว ขนาดพิกเซล 1.12 ไมครอน รูรับแสง F2.2
- กล้องโมโนความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/5 นิ้ว ขนาดพิกเซล 1.75 ไมครอน รูรับแสง F2.4
กล้องหลังของ OPPO Reno3 Pro รองรับการถ่ายภาพความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล และให้รายละเอียดอย่างคมชัด แม้จะนำภาพถ่ายมาขยายหรือครอป และยังมี Ultra Dark Mode สำหรับถ่ายภาพในที่มืดได้อย่างเหลือเชื่อ โดยกล้องหลังของ OPPO Reno3 Pro จะเปิดโหมด Ultra Dark ขี้นมาอัตโนมัติ เมื่อถ่ายภาพในบริเวณที่มีแสงสว่างน้อยกว่า 1 ลักซ์
สำหรับการถ่ายภาพระยะไกล ก็สามารถซูมแบบไฮบริดออปติคอลได้สูงสุด 5 เท่า โดยไม่สูญเสียรายละเอียด และซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุด 20 เท่า ส่วนกล้องอัลตร้าไวด์ช่วยเก็บภาพในมุมกว้าง 109 องศา และกล้องตัวที่สี่ ช่วยถ่ายภาพในโหมด Portrait นอกจากนี้ กล้องหลังของ OPPO Reno3 Pro ยังสามารถถ่ายภาพในระยะใกล้ได้สูงสุด 3 เซนติเมตร
OPPO Reno3 Pro ยังสามารถถ่ายวีดีโอได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า โดยเฉพาะกล้องหลังมาพร้อมเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหว Ultra Steady Video 2.0 ช่วยให้วีดีโอแสดงภาพเคลื่อนไหวอย่างราบรื่นนุ่มนวล อีกทั้งยังรองรับฟีเจอร์ Video Bokeh, AI Beauty Video และ Video Zoom เหมือนถ่ายทำภาพยนตร์จากกล้องโปร
ในด้านการออกแบบ OPPO Reno3 Pro โดดเด่นที่กล้องคู่หน้าแบบ Dual Punch-hole Display และด้านหลังก็สวยงามพรีเมี่ยม โดยมีให้เลือก 3 สี แต่ละสีได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีสันบนท้องฟ้า ได้แก่
สีน้ำเงิน Auroral Blue ได้รับแรงบันดาลใจมาจากท้องฟ้าทางตอนเหนือของยุโรป หรือที่เรียกกันว่า “แสงเหนือ” มาพร้อมริ้วความสวยงามที่พริ้วไหวเกิดเป็นการไล่ระดับสี และการรวมกันของสีสันต่างๆ ได้อย่างสวยงามและลงตัวไม่ว่าจะเป็นสีน้ำเงิน สีเขียว และสีม่วง แสดงถึงพลังลึกลับของธรรมชาติ
สีดำ Midnight Black ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องฟ้าในเวลากลางคืนที่เต็มไปด้วยความลึกลับ เงียบสงบ เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าค้นหา จากแสงของดวงดาว และดวงจันทร์
สีขาว Sky White Limited Edition ได้รับแรงบันดาลใจมากจากท้องฟ้ายามเช้าที่เบิกบานสดใส ช่วยให้รู้สึกสดชื่น พร้อมกับแสงอาทิตย์จางๆ ช่วยเพิ่มความงดงามได้อย่างไร้ที่ติ
นอกจากนี้ OPPO Reno3 Pro ยังมาพร้อมชิปประมวลผล MediaTek Helio P95 ความจำ RAM 8GB จับคู่กับ ROM 256GB ทำงานบนพื้นฐาน Android 10 สวมทับด้วย ColorOS 7 ความจุแบตเตอรี่ 4025mAh รองรับรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0 ใช้เวลาชาร์จเพียง 20 นาที ได้ระดับแบตเตอรี่ 50%
OPPO ได้นำจุดเด่นกล้องเซลฟี่ของ F Series มาผสานกับความพรีเมี่ยมของ OPPO Reno Series ทำให้ OPPO Reno3 Pro กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์สวยงาม ถ่ายภาพได้อย่างสวยงามทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ประสิทธิภาพอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตอบสนองได้ทั้งการเล่นเกม ความบันเทิง และยังมีราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย
OPPO Reno3 Pro เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 1-7 พฤษภาคม 2563 พร้อมโปรโมชั่นพิเศษได้ของแถมเป็นกระเป๋า OPPO Backpack และ บัตร E-VIP Service ประกันหน้าจอแตกนาน 1 ปี และส่วนลดพิเศษ 500 บาทในวันรับเครื่อง รวมมูลค่ากว่า 7,990 บาท
สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และโปรโมชั่นพิเศษหากซื้อร่วมแพ็กเกจของผู้ให้บริการเครือข่ายรับทันทีส่วนลดสูงสุด 10,000 บาท
จองผ่านค่ายมือถือรับส่วนลดสูงสุด 10,000 บาท เริ่มต้นเพียง 8,990 บาท เมื่อสมัครแพ็คเกจที่กำหนด พร้อมกันนี้ OPPO ยังได้เปิดตัวหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ OPPO Enco W31 ในราคาเพียง 1,999 บาทอีกด้วย