Apple เปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่ล่าสุดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเว้นระยะห่างจากรุ่นก่อนหน้าในปี 2018 มายาวนานประมาณ 16-17 เดือนเลยทีเดียว โดยในรุ่นใหม่ของปี 2020 นี้ iPad Pro ยังคงใช้ดีไซน์เดิม มีให้เลือก 2 ขนาด 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว โดยมีการอัพเกรดฟีเจอร์ใหม่ระบบกล้องหลังเพิ่มเป็น 2 เลนส์ ใส่กล้อง Ultra Wide เข้ามาแบบเดียวกับ iPhone 11 และที่เด็ดสุดคือ LiDAR Scanner สำหรับสแกนวัตถุแบบสามมิติที่อยู่รอบตัวสำหรับใช้งาน AR โดยเฉพาะ รวมถึงใช้ชิป A12Z รุ่นใหม่เอาใจสายตัดต่อ และเล่นเกมโดยเฉพาะ
ซึ่งล่าสุด Apple ก็ได้เตรียมวางจำหน่าย iPad Pro รุ่นใหม่ทั้ง 2 ขนาดในประเทศไทยแล้ว โดยรุ่นเข้ามาจำหน่ายนั้นจะเป็นรุ่น Wi-Fi อย่างเดียวก่อนเช่นเคย และวันนี้ทีมงาน @flashfly ก็ได้ตัวเครื่อง iPad Pro 12.9 นิ้ว ปี 2020 ความจุ 1TB เครื่องศูนย์ประเทศไทยมาทดสอบเป็นที่เรียบร้อย เราจะมาทำการแกะกล่องกันก่อนเช่นเคย
เริ่มจากการแกะพลาสติกใสห่อกล่องที่ไม่ต้องหาคัทเตอร์มากรีดที่ด้านหลังตามรอยอีกแล้วแบบเดียวกับ iPhone และ MacBook Pro รุ่นใหม่
iPad Pro 2020 ถูกเก็บไว้ในกล่องสีขาวตามสไตล์ Apple โดยฝากล่องมีการพิมพ์รูปภาพ iPad Pro พร้อมวอลเปเปอร์ใหม่ และมีขนาดใหญ่เท่าของจริง ที่ใหญ่จนเกือบเต็มพื้นที่บนฝากล่อง
ด้านข้างกล่องพิมพ์ชื่อ iPad Pro ไม่มีการระบุปีที่เปิดตัว ใครที่กลัวจะซื้อผิดให้ดูจากภาพบนฝากล่องหรือที่ด้านหลังแทน
ด้านหลังกล่อง มีข้อความระบุความจุไว้อย่างชัดเจนว่าความจุ 1TB พร้อมรายละเอียดของ iPad Pro ไว้ด้วยว่าเป็นขนาด 11 หรือ 12.9 นิ้ว และถ้าเป็นเวอร์ชั่น 2020 จะวงเล็บกำกับไว้ว่าเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 รวมถึงบอกด้วยว่าเป็นเวอร์ชั่น Wi-Fi + Cellular หรือ Wi-Fi อย่างเดียว
เมื่อเปิดฝากล่องออกก็จะพบกับ iPad Pro เป็นอย่างแรก โดยถูกห่อหุ้มด้วยแผ่นพลาสติกมาอย่างเรียบร้อยพร้อมกลิ่นของใหม่ Apple ที่แฟนๆคุ้นเคย
ยกตัวเครื่อง iPad Pro ออกไปก่อน มาดูที่ชั้นถัดมาเป็นซองเอกสารสีขาว
ด้านในก็จะมีเอกสารคู่มือการใช้งาน เอกสารการรับประกันตัวเครื่อง ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
ที่เพิ่มเข้ามาคือเอกสารจาก กสทช. ที่ระบุว่าเครื่องนี้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องใช้การตรวจได้รับอนุญาตวิทยุคมนาคมเนื่องจากเป็นรุ่น Wi-Fi อย่างเดียวไม่ใช่ Cellular ที่จะใช้เวลาตรวจสอบนานกว่า
สุดท้ายกับสติกเกอร์โลโก้ Apple สีขาวที่คุ้นเคยกันดี
ที่ด้านล่างสุดท้ายเป็นช่องเก็บสายเคเบิล USB-C (ยาว 1 เมตร) และอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C Power Adapter ขนาด 18 วัตต์
ดูของในกล่องไปหมดแล้วมาเริ่มแกะห่อ iPad Pro กันต่อให้เรียบร้อย ด้วยการพลิกด้านหลังจะเห็นกล้องหลังดีไซน์คุ้นเคยเด่นนูนออกมาจากตัวเครื่อง แล้วลอกพลาสติกจากด้านล่างขึ้นมาเป็นอันเรียบร้อย
สิ่งแรกที่ต้องทำหลังตั้งค่าต่างๆตอนเปิดใช้งานตัวเครื่องเสร็จคืออัพเดท iOS โดย iPad Pro 2020 นี้มาพร้อม iOS 13.4 ต้องอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดก่อนใช้งานจริง
หลังจากแกะแผ่นพลาสติกที่พันรอบ iPad Pro ออกไป ก็สัมผัสได้ว่า iPad Pro รุ่นใหม่ มีส่วนคล้ายกับรุ่นก่อนที่เปิดตัวในปลายปี 2018 โดยเฉพาะมุมมองด้านหน้า แต่ไม่ได้หมายความการออกแบบเดิมนั้นไม่ดี ต้องบอกก่อนว่า iPad Pro ในปี 2018 ถือวาได้รับการเปลี่ยนแปลงการออกแบบครั้งใหญ่ มีพื้นที่ขอบจอบางลงอย่างชัดเจน และมีการติดตั้งกล้อง TrueDepth สำหรับ Face ID มาให้ด้วย ซึ่งทั้งหมดนั้นถูกถ่ายทอดมาถึง iPad Pro ในปีนี้
iPad Pro รุ่นใหม่ล่าสุด ยังคงใช้จอแสดงผล Liquid Retina พร้อมแบ็คไลท์แบบ LED ในรุ่น 12.9 นิ้ว มีความละเอียด 2732 x 2048 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 264 พิกเซลต่อนิ้ว รองรับเทคโนโลยี ProMotion ปรับอัตรารีเฟรชหน้าจอสูงสุด 120Hz จอภาพรองรับการแสดงผลแบบ True Tone และให้ช่วงสีกว้าง
ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง iPad Pro เวอร์ชั่น 2020 กับ 2018 อยู่ที่ระบบกล้องหลัง เนื่องจากรุ่นก่อนมีกล้องตัวเดียว แต่ในรุ่นใหม่มาพร้อมกล้องไวด์ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/1.8 มาคู่กับกล้องอัลตร้าไวด์ 10 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.4 มุมมองภาพ 125 องศา รองรับซูมออปติคอล 2 เท่า และซูมดิจิตอลสูงสุด 5 เท่า
ที่พิเศษก็คือ ในระบบกล้องหลังมีการติดตั้ง LiDAR Scanner มาให้ด้วย สามารถวัดระยะวัตถุที่อยู่ไกลสูงสุด 5 เมตร โดยใช้เทคโนโลยี Time of Flight ทำงานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ประโยชน์ด้าน AR
ส่วนกล้องหน้าเรียกว่ากล้อง TrueDepth สนับสนุนฟีเจอร์ Face ID, Animoji, Memoji และรองรองรับการถ่ายภาพด้วยกล้อง 7 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2 พร้อมด้วยโหมดภาพถ่ายบุคคล, การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล และ ไลฟ์โฟโต้ รวมไปถึงใช้งานวีดีโอคอล หรือ FaceTime
กล้อง TrueDepth รองรับการถ่ายวีดีโอ 1080p ด้วยอัตรา 30 หรือ 60 เฟรมต่อวินาที ส่วนระบบกล้องหลัง ถ่ายวีดีโอได้สูงสุด 4K ด้วยอัตรา เฟรมต่อวินาที
iPad Pro รุ่นใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานด้านเสียงระดับสตูดิโอ โดยติดตั้งลำโพงมาให้ 4 ตัว สามารถปรับเสียงตามการหมุนตัวเครื่องโดยอัตโนมัติ และยังมาพร้อมไมโครโฟนคุณภาพสูงถึง 5 ตัว เพื่อการบันทึกเสียงที่ชัดเจน ทำให้ iPad Pro 2020 รองรับการใช้งานด้านความบันเทิงได้สมบูรณ์แบบ ตลอดจนการทำงานด้านครีเอทีฟ ไม่ว่าจะเป็นงานตัดต่อวีดีโอ สร้างพ็อดคาสท์ และคอนเทนต์อื่นๆ การมี iPad Pro ก็เปรียบเสมือนพกพาสตูดิโอติดตัวไปด้วยตลอดเวลา
ด้านประสิทธิภาพ iPad Pro รุ่นใหม่ มาพร้อมชิปประมวลผล A12Z Bionic ที่มีจีพียูแบบ 8‑core รองรับงานตัดต่อวีดีโอ 4K และงานออกแบบกราฟิก 3 มิติ ได้อย่างลื่นไหล อีกทั้งยังมี Neural Engine สำหรับการประมวลผลด้าน AI
ชิป A12Z Bionic ยังช่วยให้ iPad Pro ใหม่มีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่นานสูงสุด 10 ชั่วโมง สำหรับการดูวีดีโอ ช่วยให้การเชื่อมต่อ Wi-Fi เร็วยิ่งขึ้น และ LTE ระดับ Gigabit เร็วขึ้น 60% โดย iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว ได้รับแบตเตอรี่ 36.71 วัตต์ต่อชั่วโมง (9720mAh)
iPad Pro รุ่นใหม่ ยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริมใหม่ Magic Keyboard ที่ออกแบบมาให้ยึดติดกับ iPad Pro ด้วยแม่เหล็ก และช่วยยก iPad Pro ให้ลอยขึ้น พร้อมบานพับที่ปรับมุมมองได้ 130 องศา พร้อมแป้นพิมพ์แบบมีไฟ และแทร็คแพดในตัว
รวมถึง Smart Keyboard Folio ก็ยังคงมีมาให้ใช้งานและพร้อมวางจำหน่ายตัวเครื่องเลย รวมถึง Magic Mouse และ Magic Trackpad ของเครื่อง Mac
iPad Pro รุ่นใหม่ ยังสนับสนุน Apple Pencil รุ่นที่ 2 ที่ออกแบบมาให้ยึดติดกับ iPad Pro ด้วยแม่เหล็ก พร้อมชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายในเวลาเดียวกัน โดยภายใน Apple Pencil รุ่นที่ 2 ได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์ระบบสัมผัสแบบใหม่ ช่วยตรวจจับการแตะเพื่อนำเสนอวิธีการใหม่ในการโต้ตอบภายในแอพพลิเคชั่นต่างๆ
iPad Pro รุ่นใหม่ พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ ผ่านเว็บไซต์ทางการของ Apple โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงิน กับ สีเทาสเปซเกรย์ เริ่มจัดส่งวันที่ 10 เมษายนเป็นวันแรก สำหรับร้านตัวแทนจำหน่ายอย่าง iStudio หรือ Studio 7 ก็เปิดให้จับจองแล้วเช่นเดียวกันจะเริ่มจัดส่งวันที่ 11 เมษายนตามมาเช่นกัน โดยแต่ละรุ่นมีราคาแตกต่างกันดังนี้
iPad Pro ขนาด 11 นิ้ว รุ่น Wi-Fi
- ความจุ 128GB ราคา 27,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 31,400 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 38,400 บาท
- ความจุ 1TB ราคา 45,400 บาท
iPad Pro ขนาด 11 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular
- ความจุ 128GB ราคา 32,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 36,400 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 43,400 บาท
- ความจุ 1TB ราคา 50,400 บาท
iPad Pro ขนาด 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi
- ความจุ 128GB ราคา 34,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 38,400 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 45,400 บาท
- ความจุ 1TB ราคา 52,400 บาท
iPad Pro ขนาด 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi + Cellular
- ความจุ 128GB ราคา 39,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 43,400 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 50,400 บาท
- ความจุ 1TB ราคา 57,400 บาท
สำหรับ Magic Keyboard จะวางจำหน่ายในประเทศไทยช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ ราคา 9,990 บาท สำหรับ iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว และ 11,690 บาท สำหรับ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว พร้อมกับ iPad Pro รุ่น Wi-Fi + Cellular ส่วนรีวิวฉบับเต็มติดตามได้เร็วๆนี้