หลังจากปล่อยแฟนให้รอมานานข้ามปี OPPO ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง OPPO Find X2 Series 5G เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ซึ่งทางทีมงาน @flashfly ก็ได้ทำการรีวิวตัวเครื่องทั้ง 2 รุ่นไปก่อนหน้าแล้วก็คือ OPPO Find X2 5G และ OPPO Find X2 Pro 5G โดยมีความโดดเด่นที่จอแสดงผล สี 10Bit แบบ True Billion Colour Display แสดงสีสันได้มากกว่า 1 พันล้านสี
แถมหน้าจอยังมีอัตราการรีเฟรชถึง 120Hz อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอ 240Hz ลื่นไหลแบบสุดๆ และได้รับเกรด A+ จาก DisplayMate ผู้เชี่ยวชาญในการทดสอบจอแสดงผล แต่จอแสดงผลไม่ใช่ความน่าสนใจเพียงสิ่งเดียวของ OPPO Find X2 Series 5G ในปีนี้
OPPO Find X2 Series 5G ยังมาพร้อมระบบกล้อง Ultra Vision โดยเฉพาะ OPPO Find X2 Pro 5G ที่ถูกจัดให้อยู่บนอันดับ 1 จากการทดสอบระบบกล้องหลังของ DxOMark ผู้เชี่ยวชาญในการทดสอบประสิทธิภาพกล้อง ด้วยคะแนนรวม 124 คะแนน สูงที่สุดในปัจจุบันนี้
สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง OPPO Find X2 Pro 5G ได้รับ 134 คะแนน จาก DxOMark ซึ่งมาพร้อมระบบออโต้โฟกัสที่มีประสิทธิภาพ ให้สีสันสวยงามและช่วงไดนามิกกว้าง จุดรบกวนต่ำในทุกสภาพแสง ให้รายละเอียดที่ดีในการถ่ายภาพระยะใกล้และระยะไกล ภาพถ่ายจากกล้องอัลตร้าไวด์ก็ผิดเพี้ยนเพียงเล็กนอก ส่วนภาพโบเก้มีความสมจริงพร้อมช่วงไดนามิกที่กว้าง
สำหรับการถ่ายวีดีโอ OPPO Find X2 Pro 5G ได้รับ 104 คะแนน จาก DxOMark ด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ยอดเยี่ยม ให้สีสันดีและช่วงไดนามิกที่กว้าง ระบบโฟกัสอัตโนมัติทำงานรวดเร็ว และพบจุดรบกวนต่ำในที่แสงน้อย
เบื้องหลังของคะแนนที่สูงเป็นอันดับ 1 ของ OPPO Find X2 Pro 5G มาจากระบบกล้องหลัง Ultra Vision ที่ประกอบด้วยกล้องสามตัวที่ทรงพลังที่สุด และยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่สามารถผลิตภาพได้ขนาด 12-bit
– กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (Sony IMX689) รูรับแสง F1.7 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.4 นิ้ว มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS (Optical Image Stabilization)
– กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (Sony IMX586) รูรับแสง F2.2 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2 นิ้ว เก็บภาพในมุมกว้าง 120 องศา
– กล้อง Tele ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (โครงสร้างเลนส์แบบ Periscope) รูรับแสง F3.0 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.4 นิ้ว มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์กล้อง Sony IMX689 ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี All Pixel Omni-Directional PDAF สามารถจับโฟกัสได้รอบทิศทางและยังช่วยหาความสมดุลของแสง ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างและรูปแบบเซ็นเซอร์รับภาพไมโครเลนส์ที่อัพเกรดประสิทธิภาพการโฟกัสโดยรวม ทำให้กล้องหลังของ OPPO Find X2 Pro 5G สามารถจับโฟกัสได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว แม้ในเวลากลางคืนหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย
ไม่ว่าจะถ่ายภาพในช่วงกลางวันหรือในเวลากลางคืน ระบบกล้องหลังของ OPPO Find X2 Pro 5G ก็ให้ภาพถ่ายออกมาคมชัดในทุกสภาพแสงด้วย Dual Native ISO ที่สามารถสลับระหว่าง ISO สูงและ ISO ต่ำโดยอัตโนมัติ ตามสภาพแสงในเวลานั้น จึงให้ภาพถ่ายออกมาคมชัดปราศจากจุดรบกวนแม้ในที่แสงน้อย และให้ภาพถ่ายมีรายละเอียดครบแม้ในที่แสงสว่างจ้าเกินไป
ระบบกล้องหลังของ OPPO Find X2 Pro 5G ยังมาพร้อม Portrait Mode สำหรับถ่ายภาพบุคคลอย่างมืออาชีพ พร้อมด้วยเอฟเฟ็กต์โบเก้ ซูมได้ 2 ระยะ 1x และ 2x และมีฟิลเตอร์ให้เลือกเปลี่ยนตามอารมณ์ได้อีกด้วย
กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (Sony IMX586) เก็บภาพในมุมกว้าง 120 องศา เก็บฉากหลังได้ครบหมดทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ
ระบบกล้องหลังของ OPPO Find X2 Pro 5G ยังงสามารถซูมภาพแบบออปติคอลได้สูงสุด 5 เท่า ซูมแบบไฮบริด 10 เท่า และซูมแบบดิจิตอลได้สูงถึง 60 เท่า ที่คมชัดกว่าเดิมอีกด้วย
อีกรูปแบบการถ่ายภาพที่น่าสนใจของ OPPO Find X2 Pro 5G คือโหมด Ultra Macro เหมาะสำหรับการถ่ายภาพใกล้วัตถุ สิ่งของขนาดเล็ก ช่วยขยายภาพของวัตถุที่มีขนาดเล็กได้ถึง 8 เท่า และยังให้รายละเอียดคมชัด ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
OPPO Find X2 Pro 5G ยังมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้อย่างสวยงามเป็นธรรมชาติด้วย ระบบ AI Beautification
และยังมีโหมด Ultra Night Mode สำหรับถ่ายภาพเซลฟี่ในเวลากลางคืน ให้ภาพถ่ายออกมาสว่างสดใส แม้อยู่ในที่แสงน้อย
เซ็นเซอร์กล้อง Sony IMX689 มีขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่ที่สุดและมีขนาดพิกเซลเดียวในเซ็นเซอร์กล้องมือถือ 48 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับโหมด Ultra Night Mode 3.0 ช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถ่ายวิดีโอย้อนแสงด้วย Live HDR Video
ไม่ใช่เพียงแค่ภาพนิ่ง และการถ่ายวีดีโอ OPPO Find X2 Pro 5G ก็ยังให้ความคมชัดในทุกสภาพแสงด้วยฟีเจอร์ Live HDR Video ที่พัฒนาขึ้นมารองรับการถ่ายวีดีโอในที่ย้อนแสง ช่วยให้มองเห็นรายละเอียดแสงและเงาชัดเจนยิ่งขึ้น และยิ่งดูผ่านจอแสดงผลระดับ 10-bit ของ OPPO Find X2 Pro 5G ก็ทำให้ภาพเคลื่อนไหวมีความคมชัดเสมือนจริงมากยิ่งขึ้น
OPPO Find X2 Pro 5G ยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในระหว่างถ่ายวีดีโอ Ultra Steady Video 2.0 ช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวออกมานุ่มนวล ราบรื่น เหมือนบันทึกมาจากกล้องมืออาชีพ และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบภาพมุมกว้าง
นอกจากนี้ OPPO Find X2 Pro 5G ยังติดตั้งไมโครโฟนมาให้ 3 ตัว ช่วยให้บันทึกเสียงในระบบ 3 มิติ สามารถแยกเสียงทุกทิศทางได้อย่างชัดเจน และยังช่วยลดเสียงรบกวนของลม เรียกได้ว่าวีดีโอที่ถ่ายมาจาก OPPO Find X2 Pro 5G จะให้ความคมชัดทั้งภาพและเสียง
SoLoop สุดยอดแอพตัดต่อวิดีโอสำหรับสมาร์ทโฟน OPPO เท่านั้น
หลังจากถ่ายวีดีโอเรียบร้อยแล้ว ยังสามารถตัดต่อแก้ไขวีดีโอได้อย่างง่ายๆ ก่อนแชร์ออกไปผ่านแอพพลิเคชั่น SoLoop Video Editor เพียงเปิดเข้าไปที่แอพ SoLoop แตะปุ่ม Create Video เลือกวีดีโอที่บันทึกไว้ แล้วแตะปุ่ม Import จัดนั้นก็ตัดต่อแก้ไขวีดีโอได้ง่ายๆ เพราะมีเครื่องมือและเอฟเฟกต์มากมายเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว เสร็จแล้วแตะปุ่ม Generate เพื่อบันทึกวีดีโอไปยังอัลบั้ม และยังมีตัวเลือกให้แชร์ต่อได้ทันที
OPPO Find X2 Series ทั้ง Find X2 และ Find X2 Pro ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยทั้ง 2 รุ่น รองรับ 5G แบบ Dual-Mode รองรับผู้ให้บริการฯ ทุกระบบในประเทศไทย สนับสนุนการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 ที่เป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุด ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 865 ซึ่งเป็นชิปที่ดีที่สุดของ Qualcomm ในปัจจุบันนี้
โดยสามารถเป็นเจ้าของ OPPO Find X2 5G ในราคาจำหน่าย 33,990 บาท และ OPPO Find X2 Pro 5G ในราคาจำหน่าย 40,990 บาท ได้แล้ววันนี้ ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมรับฟรี OPPO Enco Free True Wireless Headphones มูลค่า 3,999 บาท
มอบส่วนลดสูงสุด 15,000 บาท เมื่อซื้อ OPPO Find X2 Series 5G ผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย พิเศษสำหรับ OPPO Find X2 Pro 5G รับฟรี OPPO Enco Free True Wireless Headphones มูลค่า 3,999 บาท
สามารถเป็นเจ้าของได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ได้ที่ลิ้งค์นี้ https://bit.ly/oppoth-lzd
และเร็วๆนี้ OPPO Find X2 Pro 5G จะมีสีใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟ Orange (Vegan Leather) Limited Edition ที่มีเนื้อสัมผัสแบบหนังสุดพรีเมี่ยม โดยจะทำการจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 มีนาคม 2563 ในราคา 40,990 บาท ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ