เรียกได้ว่าสิ้นสุดการรอคอยเลิกค้นหากันอีกครั้งเมื่อ OPPO ได้สานต่อความสำเร็จของรุ่นเรือธงใน OPPO Find Series เปิดตัว OPPO Find X2 Series 5G ออกมาพร้อมกัน 2 ถึง 2 รุ่นนั่นก็คือ OPPO Find X2 5G และ OPPO Find X2 Pro 5G สุดยอดสมาร์ทโฟนที่อัดแน่นได้ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆอย่างมากมายแบบทิ้งห่างคู่แข่งในตลาดไปอีกหลายปี
หลังจากที่เปิดตัว OPPO Find X ในปี 2018 ที่สร้างเสียงฮือฮาให้กับวงการมากมายไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ Panoramic Arc Screen ไร้ขอบ ไร้รอยบาก อีกทั้งยังมีนวัตกรรมกล้อง Stealth 3D ที่ถูกซ่อนไว้ภายในตัวเครื่อง แต่สำหรับ OPPO Find X2 Series 5G ได้พัฒนาต่อยอดไปได้ไกลกว่านั้นมาก
และในที่สุดก็ถึงเวลาที่เราจะได้สัมผัสกับ OPPO Find Series รุ่นใหม่กันอีกครั้ง ซึ่งได้รับการเปิดตัวทางการเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา และมาพร้อมกัน 2 รุ่น คือ Find X2 5G และ Find X2 Pro 5G ซึ่งทั้ง 2 รุ่นรองรับการใช้งาน 5G ในประเทศไทยอีกด้วย
OPPO Find X2 Series 5G อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีเท่าที่ OPPO จะใส่มาให้ได้ แน่นอนว่าทั้ง 2 รุ่น รองรับ 5G ในประเทศไทย มาพร้อมชิปประมวลผลที่ดีที่สุดในปัจจุบัน จอแสดงผล 120Hz ให้สีสันสวยงาม กล้องคุณภาพสูงจนได้รับคะแนนสูงสุดจาก DXOMARK และเป็นสมาร์ทโฟนที่มีระบบชาร์จเร็วที่สุดในโลก Super VOOC Flash Charge
หลังจากที่ทีมงาน @flashfly ได้ทำการพรีวิวไปในวันเปิดตัวทางการในไทยไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงรีวิวฉบับเต็มกันบ้าง มาเริ่มกันที่แแกะกล่องกันก่อนเช่นเคย โดยตัวกล่องของทั้ง OPPO Find X2 5G และ OPPO Find X2 Pro 5G เหมือนกัน ดีไซน์ธีมสีน้ำเงินสวยงามหรูหรา ตัดกับตัวอักษรพิมพ์สีทองดูพรีเมี่ยมอย่างมาก ต่างจากในรุ่น Reno Series ในปีที่แล้วที่เป็นกล่องแนวยาว
ที่มุมขวาบนจะบอกแรมและความจุของตัวเครื่องเอาไว้คือแรม 12GB เท่ากันส่วนความจุจะแตกต่างกันคือ OPPO Find X2 5G ความจุ 256GB ส่วน OPPO Find X2 Pro 5G ความจุ 512GB
เมื่อเปิดฝาออกมาก็จะพบกับกล่องกระดาษที่ใส่เคสใส เอกสารคู่มือการใช้งาน เอกสารรับประกันตัวเครื่อง และเข็มสำหรับจิ้มถาดใส่ซิม
ถัดมาก็จะพบตัวเครื่อง OPPO Find X2 Series 5G อยู่ในห่อพลาสติก แกะออกมาก็จะพบกับตัวเครื่องที่สวยงามอย่างมาก
วางตัวเครื่องลงไปก่อนมาดูกันต่อที่ชั้นล่างสุดของกล่องเราจะพบกับที่ชาร์จ Super VOOC Flash Charge 2.0 65W แบบเดียวกับที่ใช้ในรุ่น OPPO Reno Ace Gundam Edition
ในกล่อง OPPO Find X2 Series 5G ทั้ง 2 รุ่นแถมหูฟังแบบ USB-C มาให้ด้วย แต่มีความแตกต่างกัน โดยในรุ่น OPPO Find X2 5G จะเป็นแบบหูฟังธรรมดาสีขาว
ส่วนในรุ่น OPPO Find X2 Pro 5G จะเป็นแบบ In-Ear สีดำ พร้อมจุกอย่างเปลี่ยนขนาด
ภายในกล่องใส่หูฟังทั้ง 2 รุ่นจะมีสาย USB-C ที่รองรับ VOOC Flash Charge ใส่มาให้ด้วย แกะกล่องกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็มาถึงรีวิวตัวเครื่องกันบ้างซึ่งบอกได้ว่าจัดเต็มแบบสุดขีดจริงๆ
OPPO Find X2 5G และ OPPO Find X2 Pro 5G มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ขอบโค้ง 67.8 องศา ให้สีสันถึง 1 พันล้านสี หรือ 10-bit (สมาร์ทโฟนทั่วไปให้สี 16.7 ล้านสี) ความละเอียดสูง 3K QHD+ (3168 x 1440 พิกเซล) ขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 19.8:9 ความหนาแน่นพิกเซล 513ppi ความสว่างสูงสุดถึง 1200nits ให้อัตราการรีเฟรช 120Hz อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอ 240Hz และป้องกันรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 6
อัตราการรีเฟรช 120Hz ช่วยให้จอแสดงผลของ OPPO Find X2 Series 5G แสดงกราฟิกได้รวดเร็วและราบรื่นขึ้น เห็นได้ชัดเจนเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนทั่วไปที่ให้อัตราการรีเฟรช 60Hz และอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอ 240Hz (Touch Sampling Rate) ช่วยให้หน้าจอตอบสนองตากการสัมผัสได้ไวขึ้น ด้วยค่าหน่วงเวลาที่ต่ำเพียง 4.2 มิลลิเมตรนาที จึงควบคุมเกมได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
แถมยังสามารถปรับความระเอียดหน้าจอสูงสุดระดับ QHD+ (3K) โดยยังใช้รีเฟรช 120Hz ได้อย่างลื่นไหลแบบสุดๆ
จอแสดงผลของ OPPO Find X2 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น ยังแสดงสีสันได้อย่างคมชัดสมจริง ด้วยขอบเขตสี 100% DCI-P3 ให้ความแม่นยำในการแสดงผลของสีที่สมบูรณ์ 0.4 JNCD เท่ากับจอแสดงผลในระดับมืออาชีพ ให้อัตราคอนทราส์สูงถึง 5,000,000:1 และได้รับเกรด A+ จาก DisplayMate ผู้เชี่ยวชาญในการทดสอบจอแสดงผล
เรียกได้ว่าจอแสดงผลของ OPPO Find X2 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น ถือเป็นจอแสดงผลที่ทันสมัยอยู่ในอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน ไม่แพ้เรือธงจากแบรนด์อื่น ซึ่งจอแสดงผลของ OPPO Find X2 Series 5G ยังสนับสนุน HDR10+ แสดงคอนเท้นต์วีดีโอด้วยความคมชัดสูง
OPPO Find X2 Series 5G มีชิปกราฟิก O1 Ultra Vision Engine ที่พัฒนาโดย OPPO แปลงวิดีโอในระดับฮาร์ดแวร์จาก SDR เป็น HDR ช่วยให้การชมวีดีโอความละเอียดธรรมดา เป็นระดับ HD ที่มีความคมชัดขึ้น รวมถึงเติมสีสันให้สดใส และให้ช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้นอีกด้วย หมายความว่าไม่จำเป็นต้องดูเฉพาะวีดีโอใหม่ๆ ที่เป็นระดับ HD แต่การดูวีดีโอเก่าๆ ในระดับ SD ก็จะได้ความคมชัดกว่าดูบนสมาร์ทโฟนทั่วไป
OPPO ยังติดตั้งเทคโนโลยี AI Adaptive Eye Protection System ช่วยถนอมดวงตาของผู้ใช้งาน และยังผ่านการรับรอง TÜV Rheinland Full Care Display Certification ยืนยันว่าสามารถลดแสงสีฟ้าได้ 40% มั่นใจได้ว่าสีสันที่คมชัดสมจริง จะไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา
ส่วนมุมบนขวาของจอแสดงผล ที่เป็นวงกลมสีดำขนาดเล็กนั้น ซ่อนกล้องเซลฟี่เอาไว้ โดยทั้ง OPPO Find X2 Series 5G มีความละเอียดเท่ากัน 32 ล้านพิกเซล
สามารถใช้ในการปลดล็อกตัวเครื่องด้วยใบหน้าได้
และยังซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอด้วย โดยมีการขยายพื้นที่สแกนนิ้วให้ใหญ่ขึ้น 10% จึงปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัย
OPPO Find X2 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น ใช้ดีไซน์ร่วมกัน แต่มีความแตกต่างกันที่วัสดุด้านหลัง Find X2 มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ (วัสดุกระจก) กับ สีน้ำเงิน (วัสดุกระจก) ส่วน Find X2 Pro มีให้เลือก 2 สีเช่นกัน คือ สีดำ (วัสดุเซรามิค) กับ สีส้ม (วัสดุหนัง Vegan)
ถึงแม้ OPPO Find X2 5G และ OPPO Find X2 Pro 5G จะมีวัสดุเซรามิคสีดำให้เลือกเหมือนกัน แต่การออกแบบนั้นแตกต่างกัน OPPO Find X2 จะมีแทบสีดำด้านตรงขอบด้านข้าง ขณะที่สีน้ำเงิน จะมีพื้นผิวสะท้อนเงา สวยงามไปอีกแบบ
ส่วน OPPO Find X2 Pro 5G สีส้ม ใชัหนัง PU ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้สัมผัสที่ละเอียดอ่อนและอ่อนนุ่ม อีกทั้งยังกันน้ำ น้ำมัน และทนต่ออุณหภูมิ ความชื้น การสึกหรอ และการฉีกขาดทั่วไปได้
ตามสเปกแล้ว OPPO Find X2 Pro 5G มีขนาดใหญ่กว่าและหนักกว่า OPPO Find X2 5G แต่ก็แตกต่างเพียงเล็กน้อยจนไม่สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ความแตกต่างที่ชัดเจนก็คือรุ่น OPPO Find X2 Pro ได้รับการออกแบบมาให้ป้องกันน้ำในระดับ IP68 จึงกันน้ำได้ดีกว่า สามารถแช่อยู่ในน้ำลึกไม่เกิน 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที ส่วน OPPO Find X2 จะกันเฉพาะน้ำกระเซ็นใส่เท่านั้น
ทางขวาจะมีปุ่ม Power พร้อมสีเขียวเพียงปุ่มเดียวเท่านั้น
ทางซ้ายจะมีปุ่มเพิ่ม ลดเสียง
ด้านบนจะมีเพียงรูไมครโฟน
ด้านล่างจะมีช่องลำโพง พอร์ต USB-C รูไมโครโฟนตัว และช่องใส่ซิมการ์ด ซึ่งทั้ง OPPO Find X2 Series 5G นั้นรองรับ 5G ในประเทศไทยอีกด้วย
OPPO Find X2 5G และ OPPO Find X2 Pro 5G มาพร้อมกล้องเซลฟี่ 32 ล้านพิกเซล ซ่อนอยู่บนหน้าจอ โดยทั้งคู่ใช้กล้องเซลฟี่สเปกเดียวกัน มีขนาดรูรับแสง f/2.4 มาพร้อม AI Beautification ที่มีการปรับปรุงอัลกอริทึมของ AI ช่วยปรับผิวหน้าให้สวยงามสมจริงอย่างธรรมชาติ
กล้องเซลฟี่ รองรับโหมด Ultra Night ช่วยถ่ายภาพในเวลากลางคืนให้สวมงาม และมีฟีเจอร์เพิ่มแสงสว่างด้วยหน้าจอ ช่วยให้ใบหน้าสว่างขึ้น เมื่อถ่ายเซลฟี่ในเวลากลางคืน และถ่ายวีดีโอสูงสุด Full HD 1080p ด้วยอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที
ระบบกล้องหลังเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับ OPPO Find X2 5G และ OPPO Find X2 Pro 5G ถึงแม้ทั้งคู่จะได้รับกล้องหลัง 3 ตัวเหมือนกัน แต่มีรายละเอียดแตกต่างกัน
โดยกล้องหลังของ OPPO Find X2 5G ประกอบด้วย กล้องไวด์ 48 ล้านพิกเซล (Sony IMX586) รูรับแสง f/1.7, กล้องอัลตร้าไวด์ 12 ล้านพิกเซล (Sony IMX708) รูรับแสง f/2.2 และกล้องเทเลโฟโต้ 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
กล้องเทเลโฟโต้ สามารถซูมไฮบริดได้สูงสุด 5 เท่า ซูมดิจิตอลสูงสุด 20 เท่า รองรับโหมด Ultra Night Mode 3.0
OPPO Find X2 Pro 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวเช่นกัน แต่มีรายละเอียดต่างออกไป ด้วยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (Sony IMX689) รูรับแสง f/1.7 กล้องอัลตร้าไวด์ 48 ล้านพิกเซล (Sony IMX586) รูรับแสง f/2.2 และกล้องเทเลโฟโต้ 13 ล้านพิกเซล โครงสร้างเลนส์แบบ Periscope รูรับแสง f/3.0
กล้องหลักมาพร้อมเทคโนโลยี All Pixel Omni-Directional PDAF (ได้รับการอัพเกรดประสิทธิภาพการโฟกัสโดยรวม นอกจากนี้ยังปรับปรุงประสิทธิภาพการโฟกัสในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย) Dual Native ISO (สลับระหว่าง ISO สูงและ ISO ต่ำได้โดยอัตโนมัติขึ้นอยู่กับสภาพแสง) มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS รองรับโหมด Ultra Night Mode 3.0, Live HDR Video, Ultra Steady Video และสามารถผลิตภาพขนาด 12bit ได้ ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับ 12bit True Capture
กล้องอัลตร้าไวด์ ช่วยเก็บภาพในมุมมองกว้าง 120 องศา รองรับโหมด Ultra Night Mode 3.0, Ultra Steady Video Pro และถ่ายภาพระยะใกล้วัตถุ 3 เซนติเมตร
กล้องเทเลโฟโต้ มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS สามารถซูมไฮบริดได้สูงสุด 10 เท่า ซูมดิจิตอลสูงสุด 60 เท่า คมชัดกว่าเดิม
ระบบกล้องหลังของ OPPO Find X2 Pro 5G รองรับรับออโต้โฟกัส PDAF, CDAF และ LAF มาพร้อมโหมดถ่ายภาพ Portrait, Panorama, Professional รองรับโหมด Ultra Night Mode 3.0
และถ่ายวีดีโอสูงสุด 4K ด้วยอัตรา 60 เฟรมต่อวินาทีพร้อมโหมด Time-lapse และ Slow Motion
OPPO Find X2 5G และ OPPO Find X2 Pro 5G สามารถใช้กล้องอัลตร้าไวด์ถ่ายวีดีโอ เพื่อให้ได้มุมมองกว้างพิเศษ โดยมีเทคโนโลยีลดภาพสั่นไหว Ultra Steady Video Pro ให้ภาพเคลื่อนไหลราบรื่น เหมือนใช้ Gimbal ช่วยจับ และยังติดตั้งไมโครโฟนมาให้ 3 ตัว ช่วยบันทึกเสียง 360 องศา ลดเสียงรบกวน รองรับ Audio Zoom ช่วยเน้นเสียงจากสิ่งที่กล้องกำลังซูม และมาพร้อมแอพ Soloop สามารถตัดต่อวีดีโอได้อย่างง่ายดาย
OPPO Find X2 Pro 5G ยังได้รับ 124 คะแนน จากการทดสอบประสิทธิภาพกล้องหลังของ DXOMARK ซึ่งเป็นคะแนนที่สูงที่สุดในปัจจุบัน ได้รับคำชมว่ามาพร้อมระบบออโต้โฟกัสที่มีประสิทธิภาพ ให้สีสันสวยงามและช่วงไดนามิกกว้าง จุดรบกวนต่ำในทุกสภาพแสง ให้รายละเอียดที่ดีในการถ่ายภาพระยะใกล้และระยะไกล
ภาพถ่ายจากกล้องอัลตร้าไวด์ให้สัดส่วนภาพที่ไม่ผิดเพี้ยน ส่วนภาพโบเก้มีความสมจริงพร้อมช่วงไดนามิกที่กว้าง ส่วนการถ่ายวีดีโอ มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ยอดเยี่ยม ให้สีสันดีและช่วงไดนามิกที่กว้าง ระบบโฟกัสอัตโนมัติทำงานรวดเร็ว และพบจุดรบกวนต่ำในที่แสงน้อย
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายตอนกลางคืน
ในเมื่อ OPPO Find X2 Series 5G มีกล้องที่คุณภาพสูงระดับโปรแล้วทาง OPPO ยังมีแอพตัดต่อวิดีโอแบบสำเร็จรูปมีเอ็ฟเฟ็คต่างๆมากมาย
รวมถึงเสียงเพลงประกอบที่ใช้งานง่ายมากๆกับแอพ SoLoop ที่หาดาวน์โหลดที่ไหนไม่ได้นอกจากจะใช้สมาร์ทโฟน OPPO เท่านั้น ซึ่ง OPPO Find X2 Series 5G ทั้ง 2 รุ่นก็มีติดตั้งมาพร้อมใช้งานทันที ไว้แชร์อวดเพื่อนบนโลกโซเชียลที่ใครเห็นแล้วต้องทึ่งอย่างแน่นอน
OPPO Find X2 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น ใช้ชิปประมวลผลตัวเดียวกัน Qualcomm Snapdragon 865 ซึ่งเป็นชิประดับเรือธงที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบัน มาพร้อมจีพียู Adreno 650 ความจำ RAM 12GB แบบ LPDDR5 ที่เป็นมาตรฐานล่าสุดได้รับการปรับปรุงให้อ่านและเขียนข้อมูลได้เร็วขึ้น
ส่วนความจำ ROM เป็นแบบ UFS 3.0 ที่มีขนาดแตกต่างกัน OPPO Find X2 มีความจุ ROM 256GB และ OPPO Find X2 Pro มีความจุ ROM 512GB ลงเกมได้แบบสะใจไม่ต้องกลัวเมมเครื่องจะเต็ม
ถือได้ว่า OPPO Find X2 Series 5G ทั้ง 2 รุ่นนั่นสามารถเล่นได้ทุกเกมบนโลกได้อย่างสบายๆ จากการทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพ AnTuTu Benchmark ทำคะแนนทะลุชาร์ตไปเป็นที่เรียบร้อยถึง 576,400 คะแนนเลยทีเดียว
กลายเป็นสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูงสุดในตารางของ AnTuTu ในเวลานี้ ใครเป็นคอเกมตัวจริงต้องประทับใจอย่างแน่นอน
อีกทั้งยังมี Game Space ฟีเจอร์เด็ดเอาใจเหล่าเกมเมอร์ในการที่จะรีดประสิทธิภาพตัวเครื่องออกมาอย่างเต็มรูปแบบทำให้เล่นเกมได้อย่างราบลื่น รวมถึงยังปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆไม่ให้มารบกวนขณะเล่นเกมอีกด้วย
จากการทดสอบเล่นเกมดังอย่าง Asphalt 9 ,PUBG Mobile ,Call of Duty และ ROV ที่ทุกเกมสามารถปรับความละเอียดสูงสุด เฟรมเรทลื่นไหล 60FPS ได้แบบไม่มีตกอีกด้วยถือได้ว่า OPPO Find X2 Series 5G นี้เป็นตัวจบของสายเกมอย่างแท้จริง
หน้าจอลื่นไหลระดับ 120Hz ให้สี 10Bit กล้องก็เทพ สเปกแรงที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนทั้ง OPPO Find X2 5G และ OPPO Find X2 Pro 5G ยังมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 Flash Charge ที่ถือได้ว่าเป็นระบบชาร์จที่เร็วที่สุดในโลกในเวลานี้ ใส่มาในเครื่องให้อีกด้วย
ซึ่ง 65W SuperVOOC 2.0 Flash Charge สามารถชาร์จแบตเตอรี่ของ Find X2 Pro 5G ทั้ง 2 รุ่นได้เต็มในเวลาเพียง 38 นาที โดยรุ่น OPPO Find X2 Pro 5G มีความจุแบตเตอรี่ 4260mAh และรุ่น OPPO Find X2 5G มีความจุแบตเตอรี่ 4200mAh จะเห็นว่าใกล้เคียงกันมากถือว่าแทบไม่แตกต่างกันเลยทีเดียว
OPPO ไม่ได้เน้นที่ความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่เท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้วย ด้วยระบบป้องกันถึง 5 ระดับ ตั้งแต่อุปกรณ์ชาร์จ สายชาร์จ ไปจนถึงสมาร์ทโฟน โดยมีการฝังชิปตรวจสอบความปลอดภัยของแบตเตอรี่ ช่วยให้สามารถตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ในระหว่างชาร์จ และติดตามสถานะแบตเตอรี่แบบเรียลไทม์เมื่อพบว่าสมาร์ทโฟนได้รับความเสียหายจากสาเหตุต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีระบายความร้อน VC และกราไฟต์ถึง 3 ชั้น ทำให้แบตเตอรี่ไม่ร้อนสามารถชาร์จไปพร้อมกับเล่นเกมไปได้อย่างสบาย
OPPO Find X2 Series 5G มาพร้อมลำโพงคู่แบบสเตอริโอ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และทำงานร่วมกับชิปกราฟิก O1 Ultra Vision Engine จึงให้เสียงที่มีคุณภาพไม่ว่าจะฟังเพลงหรือชมคอนเท้นต์วีดีโอ โดยให้เสียงเบสที่หนักแน่น และยังให้เสียงแหลมออกมาชัดเจน
OPPO Find X2 Series 5G รองรับ 5G ทั้ง 2 รุ่น สามารถใช้งาน 5G จากผู้ให้บริการฯ ในประเทศไทย และครอบคลุมความถี่ 5G ทั่วโลก สนับสนุน 5G Dual-Mode ทั้ง NSA และ SA สามารถโรมมิ่งทั่วโลก รองรับ 6 โหมด และ 36 ความถี่ในเวลาเดียวกัน และยังสนับสนุนการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐานใหม่ล่าสุด
OPPO Find X2 Series 5G สามารถทำความเร็วในการดาวน์โหลดได้สูงสุด 4.1 Gbps และยังสามารถรับสัญญาณ 5G + 4G ได้พร้อมกัน ทำความเร็วในการดาวน์โหลดได้สูงสุด 5.9 Gbps พร้อมรองรับ Dual SIM และ Dual Standby แยกรับสัญญาณจากเสาอากาศ Master และ Slave Cards ให้เป็นอิสระจากกัน ทำให้การเชื่อมต่อเครือข่ายกับผู้ให้บริการฯ เป็นไปอย่างราบรื่น
OPPO Find X2 5G และ OPPO Find X2 Pro 5G ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 สวมทับด้วย ColorOS 7.1 ที่ได้รับการออกแบบใหม่เหมาะสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มีดีไซน์ไร้กรอบ เน้นความสบายตา เพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตา และมาพร้อมแอพพลิเคชั่นที่ช่วยตอบสนองการทำงานมากมาย
ColorOS 7.1 สามารถปรับแต่งไอคอนได้ 3 แบบ คือ Rectangle, Pebble และ Material อีกทั้งยังออกแบบไอคอนมากกว่า 200 แบบให้ผู้พัฒนาบุคคลที่สาม เพื่อให้ไอคอนส่วนใหญ่ออกมาในธีมเดียวกัน รวมถึงร่วมงานกับศิลปินทั่วโลก เพื่อนำเสนอรูปภาพวอลเปเปอร์แนวศิลปะที่สวยงาม และมีเอกลักษณ์เฉพาะ
เอฟเฟกต์ภาพเคลื่อนไหวในระบบ ColorOS 7.1 ช่วยให้การแสดงผลโดยรวมสวยงามมากขึ้น เมื่อมีการใช้งานสมาร์ทโฟน อย่างการลบแอพ การชาร์จแบตเตอรี่ ตรวจสอบสภาพอากาศ หรือใช้งานฟีเจอร์อื่นๆ
ColorOS 7.1 มาพร้อม Dark Mode แบบเต็มระบบ เปลี่ยน User Interface เป็นสีเข้ม เพื่อความสบายตาเวลาใช้งานในที่แสงน้อย และยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่อีกด้วย
OPPO Find X2 Series 5G มาพร้อม OPPO Relax ช่วยให้ผู้ใช้งานผ่อนคลาย ฝึงการหายใจ ทำสมาธิ หรือ เปิดฟังก่อนนอน ด้วยเสียงเสียงการหายใจ เครื่องดนตรี และเสียงคลื่นที่น่าฟัง
OPPO ร่วมมือกับ Epic Sound เพื่อปรับปรุงเสียงแจ้งเตือนต่างๆ ให้น่าฟังมากขึ้น โดยมีที่มาจากเสียงของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเตือนจาก SMS การแจ้งเตือนสภาพอากาศ นาฬิกาปลุก และเสียงแจ้งเตือนอื่นๆ
สรุปแล้ว OPPO Find X2 5G และ OPPO Find X2 Pro 5G ถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีรอบด้าน โดดเด่นที่จอแสดงผลที่ให้สีสันสวยงามและทันสมัยที่สุด ชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง ด้วยชิปที่ดีที่สุดของ Qualcomm อีกทั้งยังรองรับ 5G ทั้ง 2 รุ่น ทำให้ประสบการณ์การใช้งานโดยรวมของทั้งคู่ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ OPPO Find X2 Pro 5G จะโดดเด่นกว่าที่ระบบกล้องหลัง ด้วยกล้องความละเอียดกว่าและซูมได้ไกลกว่า แต่ถ้าไม่เน้นการซูม OPPO Find X2 5G ก็จะช่วยประหยัดเงินได้พอสมควร
OPPO Find X2 Series 5G เปิดราคาทางการในประเทศไทยออกมาดังนี้ OPPO Find X2 5G แรม 12GB ความจุ 256GB ราคา 33,990 บาท และ OPPO Find X2 Pro 5G แรม 12GB ความจุ 512GB ราคา 40,990 บาท พร้อมเปิดจองแล้ววันนี้ – 19 มีนาคมนี้ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ กับส่วนลดสูงสุดถึง 15,000 บาท เมื่อซื้อพร้อมแพ็คเกจกับผู้ให้บริการเครือข่าย สำหรับผู้ที่ทำการซื้อ OPPO Find X2 Series 5G ทั้งรุ่น OPPO Find X2 5G และ OPPO Find X2 Pro 5G รับฟรีของสมนาคุณมูลค่ารวม 15,739 บาท ประกอบด้วย OPPO Enco Free True Wireless Headphones, 50W SuperVOOC Car Charger และ VIP Card
โดย OPPO Find X2 Series 5G จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มีนาคมเป็นต้นไป ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ