OPPO เคยทำตลาดหูฟังไร้สาย Enco Q1 มาแล้วในปี 2019 ซึ่งมาพร้อมสายคล้องคอ เหมาะสำหรับผู้สวมใส่ในระหว่างออกกำลังกาย แต่ถ้าต้องการหูฟังไร้สายอย่างแท้จริงหรือ True Wireless ของ OPPO ตอนนี้ทำออกมาให้เลือกแล้วมีชื่อเรียกเต็มๆว่า OPPO Enco Free True Wireless Headphones พร้อมสโลแกน A Perfect Pair for Your Smartphone ซึ่งในบทความเราจะขอเรียกสั้นๆว่า OPPO Enco Free
ถึงแม้ OPPO จะไม่ใช่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายแรกที่หันมาทำ หูฟังไร้สายแบบ True Wireless แต่ต้องขอเล่าให้ฟังว่า ก่อนที่ OPPO จะกระโดดเข้ามาอยู่ในวงการโทรศัพท์มือถือ เคยเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านอะคูสติกมาก่อน นั่นหมายความว่า OPPO มีประสบการณ์ด้านเสียงมาอย่างยาวนาน เราจึงคาดหวังได้ว่าหูฟัง OPPO Enco Free จะให้คุณภาพเสียงที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน
OPPO Enco Free ถูกเก็บไว้ในกล่องสีขาวที่ดูดีมากๆ บนฝากล่องมีเฉพาะรูปภาพหูฟัง 2 ข้าง และมีชื่อ OPPO Enco Free อยู่ด้านล่าง ข้างกล่องมีโลโก้ OPPO
หลังกล่องบอกรายละเอียดเกี่ยวกับหูฟัง ทั้งเรื่องการเชื่อมต่อ, คุณสมบัติของลำโพง, ระบบตัดเสียงรบกวนด้วย AI, การควบคุมด้วยระบบสัมผัสกับตัวหูฟัง, รองรับผู้ช่วย AI, ต่อจุกยางเพื่อเพิ่มความกระชับได้, การจับคู่ที่รวดเร็ว และ แบตเตอรี่ที่ให้พลังงานนานสูงสุด 25 ชั่วโมง
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับซองเอกสาร มีคู่มือแนะนำการใช้งานเบื้องต้นมาให้อ่าน รวมถึงสอนการจับคู่อุปกรณ์
ใต้ซองเอกสารก็จะพบกับเคสชาร์จ OPPO Enco Free ส่วนหูฟังทั้ง 2 ข้างถูกเก็บอยู่ภายในเคส
ใต้ถาดวางเคสมีกล่องใส่สายชาร์จมาให้ (USB-C) โดยวางปิดถาดเก็บจุกยางซิลิโคน ซึ่งแถมมาให้อีก 2 คู่ ในขนาดที่แตกต่างกัน คือไซส์ M และ L
หูฟัง OPPO Enco Free ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงาม คำนึงถึงความสะดวกสบายเมื่อสวมใส่ และยังเพิ่มความโดดเด่นด้วยเส้นเรืองแสงในที่มืด ช่วยให้เจ้าของสามารถมองเห็นหูฟังที่มีขนาดเล็กได้ง่าย แม้อยู่ในห้องที่มืด
ตัวหูฟังของ OPPO Enco Free เป็นแบบ Semi-in-ear ที่สบายหูเพราะสามารถระบายอากาศได้ดีกว่า แต่สามารถเพิ่มจุกยางให้เป็นแบบ In-ear ได้ หากต้องการความกระชับและแน่นหนาในระดับสูงสุด โดยมีจุกยางซิลิโคนแถมมาให้ในกล่อง 2 คู่ ในขนาดแตกต่างกัน (จุกยางที่ติดหูฟังมาให้อยู่แล้วเป็นขนาดเล็กสุด)
OPPO Enco Free ได้รับการออกแบบมาให้กันน้ำในระดับ IPX4 ป้องกันเหงื่อและละอองน้ำ หูฟังแต่ละข้างเบาเพียง 4.6 กรัม ภายในมาพร้อมไดรเวอร์ไดนามิก 13.4 มิลลิเมตร ตอบสนองความถี่ในช่วง 16Hz ถึง 20KHz และแบตเตอรี่ 31mAh
OPPO Enco Free รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 (เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ในระยะ 10 เมตร) เพิ่มคุณภาพของเสียงสนทนาด้วยลำโพงคู่ พร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนด้วย AI
ส่วนก้านของหูฟัง รองรับการควบคุมด้วยระบบสัมผัส ตัวอย่างเช่น ถูปลายนิ้วขึ้นหรือลงที่หูฟังข้างซ้าย จะเป็นการปรับระดับเสียง, ถูปลายนิ้วขึ้นหรือลงที่หูฟังข้างขวา จะเป็นเปลี่ยนเพลง, แตะ 2 ครั้งที่หูฟัง จะเป็นการรับสายหรือวางสาย รวมถึงใช้เปิดหรือปิดเพลง และสามารถแตะค้างไว้ที่ก้านเพื่อปิดผู้ช่วย AI ของสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
ตัวหูฟังยังมีเซ็นเซอร์ที่ช่วยตอบสนองการใช้งานโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น เมื่อถอดหูฟังออกหนึ่งข้าง เพลงจะหยุดเล่นทันที และกลับมาเล่นต่อเมื่อสวมหูฟังกลับเข้าไป และถ้าหูฟังไม่ได้อยู่ในเคส และไม่ได้สวมไว้ในหู ก็จะเข้าสู่โหมดสลีปโดยอัตโนมัติ เพื่อประหยัดพลังงานของแบตเตอรี่
OPPO Enco Free มาพร้อมเคสชาร์จที่มีแบตเตอรี่ใน 410mAh มาในสีเดียวกับตัวหูฟัง ซึ่ง OPPO ผลิตออกมาให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว, สีชมพู และ สีดำ (แต่เรายังไม่มีความชัดเจนว่า OPPO จะนำเข้ามาในไทยทั้ง 3 สีหรือไม่)
เคสชาร์จ OPPO Enco Free มีบานพับที่แข็งแรง รู้สึกได้ทันทีเมื่อลองเปิด-ปิดฝา ด้านหน้ามาติดโลโก้ OPPO ในแนวตั้ง ด้วยป้ายโลหะ พร้อมหลอดไฟ LED เพื่อบ่งบอกสถานะของแบตเตอรี่
ความหมายของสี LED บนเคสชาร์จ สีเขียว แสดงว่าแบตเตอรี่เต็มหรือมีระดับสูง, สีส้ม แสดงว่าแบตเตอรี่อยู่ในระดับปานกลาง และสีแดง หมายถึงแบตเตอรี่เหลือน้อย
มีปุ่มกดด้านข้างที่เป็นโลหะเช่นกัน และด้านล่างเป็นพอร์ตชาร์จแบตเตอรี่ USB-C
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว เพียงนำ OPPO Enco Free มาอยู่ใกล้กับสมาร์ทโฟน จากนั้นเปิดฝาเคสชาร์จของหูฟัง ก็จะจับคู่กับสมาร์ทโฟนโดยอัตโนมัติ และถ้าใช้สมาร์ทโฟนของ OPPO ที่รันบน ColorOS 7.0 ขึ้นไป (ยกเว้น A Series, F Series และ OPPO R15)
ก็จะมีหน้าต่างป็อปอัพแสดงสถานะการจับคู่ปรากฏขึ้นมาให้เห็น และเมื่อเก็บหูฟังกลับเข้าไปในเคสแล้วปิดฝา ก็จะเป็นการปิดการเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ แน่นอนว่าใช้งานกับ iPhone ได้
จุดเด่นของ OPPO Enco Free อยู่ที่เทคโนโลยีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแบบ Binaural ให้หูฟังแต่ละข้างสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้โดยตรง แตกต่างจาก Monoral ที่ให้หูฟังข้างใดข้างหนึ่งเป็นตัวหลักในการเชื่อมต่อ ซึ่งทำให้สัญญาณเสียงที่ส่งมาจากสมาร์ทโฟนมีค่าความหน่วงต่ำ จากการทดสอบกับ OPPO Reno3 Pro พบว่ามีค่าความหน่วงที่ต่ำเพียง 120 มิลลิวินาที ต่ำที่สุดในตลาดปัจจุบัน
ค่าความหน่วงยิ่งต่ำ ยิ่งส่งผลดีต่อการเล่นเกมและรับชมวีดีโอ เพราะจะให้สัญญาณเสียงที่ตรงกับภาพ แต่เทคโนโลยี Binaural จะใช้ได้กับสมาร์ทโฟนที่มีชิปประมวลผลจาก Qualcomm หรือ MediaTek เท่านั้น
หูฟัง OPPO Enco Free มาพร้อมลำโพงไดนามิกแบบพิเศษ ให้เสียงที่ขับออกมามีมิติ และมีเสียงเบสที่ทรงพลัง โครงสร้างภายในประกอบด้วย FPC (Flexible Printed Circuit) ที่ใช้ในอุปกรณ์สเตอริโอระดับไฮเอนด์ แผ่นแม่เหล็กคู่และไดอะแฟรมคอมโพสิตที่ทำมาจากโดมไททาเนียม และการหุ้มด้วยแมกนาเลียม
OPPO Enco Free ยังใช้ชิป AAC (Advanced Audio Coding Coding) และรองรับ Dolby Atmos บนสมาร์ทโฟน OPPO จึงให้ประสบการณ์ด้านเสียงที่สร้างความประทับใจได้ และไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อการฟังเพลงเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียงสนทนาด้วย โดยใช้เทคโนโลยี Dual Microphone Beam Forming ทำงานร่วมกับ AI ช่วยปิดกั้นเสียงรบกวนรอบข้างในระหว่างสนทนา พร้อมแยกเสียงของผู้ใช้งานออกจากเสียงรบกวน ทำให้เสียงที่พูดออกมาส่งไปถึงปลายสายอย่างชัดเจน
อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจของ OPPO Enco Free คือระยะการใช้งานของแบตเตอรี่ หูฟังแต่ละข้างสามารถฟังเพลงได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมง หรือใช้สนทนาได้นานสูงสุด 3 ชั่วโมง แต่ด้วยเคสชาร์จที่มีแบตเตอรี่ในตัว (410mAh) รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับหูฟังได้ถึง 4 ครั้ง นั่นหมายถึง เมื่อมีเคสชาร์จอยู่ด้วย จะสามารถฟังเพลงได้นานสูงสุด 25 ชั่วโมง หรือสนทนาได้นานสูงสุด 15 ชั่วโมง รับรองว่าเพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวัน
OPPO Enco Free ยังรองรับชาร์จเร็ว ใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาที สามารถใช้งานได้นาน 1.5 ชั่วโมง แต่ถ้าต้องการชาร์จจนเต็ม จะใช้เวลา 70 นาที สำหรับหูฟัง และ 110 นาที สำหรับเคสชาร์จ
สรุปแล้ว OPPO Enco Free เป็นหูฟังไร้สายแบบ True Wireless ที่มีงานประกอบดูดี คุณภาพเสียงอยู่ในระดับที่น่าประทับใจทั้งการฟังเพลงและสนทนา เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดาย รองรับทั้ง Android และ iOS เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการเข้าสู่โลกความบันเทิงแบบส่วนตัวและเป็นอิสระ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม สนทนา OPPO Enco Free ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี