ถึงแม้ฟีเจอร์ส่วนใหญ่บน iPhone จะสามารถทำได้โดยอาศัยการเชื่อมต่อ Wi-Fi แต่ Cellular ก็ยังมีความสำคัญมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานด้านการโทร และส่งข้อความ SMS ต่อให้ iPhone จะมีประสิทธิภาพดีเพียงใด แต่ถ้าสัญญาณโทรศัพท์อยู่ในระดับต่ำ ก็ทำให้การสื่อสารไม่ราบรื่นอย่างแน่นอน และต่อไปนี้คือ 10 วิธีการที่จะทำให้ระดับสัญญาณโทรศัพท์กลับมาแรงขึ้น
1. รีเฟรชสัญญาณโทรศัพท์
การรีเฟรชสัญญาณโทรศัพท์ จะช่วยให้ iPhone ค้นหาเสาสัญญาณใหม่ที่ใกล้ที่สุด ซึ่งสามารถทำได้โดยไปที่ Control Center แล้วเปิดใช้โหมด Airplane รอสักครู่จนโหมด Airplane ถูกเปิดใช้งาน ให้แตะอีกครั้งเพื่อปิดโหมด Airplane หลังจากนั้น iPhone จะทำการค้นหาเสาสัญญาณโทรศัพท์ใหม่ที่ใกล้ที่สุด ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าการปิดแล้วเปิดเครื่องใหม่
2. อัพเดตการตั้งค่าผู้ให้บริการฯ
นอกจากการอัพเดท iOS ผู้ให้บริการฯ ก็มีการอัพเดทด้วยเช่นกัน และเจ้าของ iPhone ก็ควรอัพเดทเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีที่สุด ซึ่งการอัพเดทจะทำผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ Cellular ก็ได้ โดยไปที่ Settings > General > About ถ้าหากมีการอัพเดทจะพบหน้าต่างแจ้งเตือน แต่ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็หมายถึงไม่มีการปล่อยเวอร์ชั่นใหม่ออกมา
เจ้าของ iPhone สามารถตรวจสอบเวอร์ชั่นปัจจุบันได้ที่ Settings > General > About > Carrier
3. ลองใช้ Wi-Fi Calling
Wi-Fi Calling เป็นบริการโทรผ่านระบบ VoIP ที่มีมานานแล้ว แต่ใช้ได้เฉพาะการโทรเท่านั้น ไม่สามารถใช้ส่งข้อความได้ แต่อย่างน้อยถ้าหากสัญญาณโทรศัพท์ในบริเวณที่ใช้งานอยู่ในระดับต่ำ การโทรผ่าน Wi-Fi Calling จะทำให้เสียงสนทนาชัดเจนกว่า
การโทรผ่าน Wi-Fi Calling สามารถทำได้โดยเข้าไปที่ Settings > Cellular > Wi-Fi Calling
4. ถอดเคสออก
เคสอาจจะช่วยปกป้อง iPhone จากริ้วรอย แต่เคสที่หนาไปอาจปิดกั้นสัญญาณโทรศัพท์ได้ โดยเฉพาะเคสที่มีส่วนประกอบของโลหะบางชนิด เพราะฉะนั้น ถ้าพบว่าที่บ้านสัญญาณโทรศัพท์ไม่ค่อยดี การลองถอดเคสออกแล้วทำตามขั้นตอนแรก (รีเฟรชสัญญาณโทรศัพท์) อาจช่วยให้ iPhone รับสัญญาณได้ดีขึ้น
5. ชาร์จแบตเตอรี่ iPhone
iPhone ที่แบตเตอรี่เหลือน้อย อาจทำให้ความสามารถในการค้นหาสัญญาณลดลง บ่อยครั้งที่เจ้าของ iPhone กลับเข้ามาในบ้านแล้วพบว่าระดับแบตเตอรี่เหลือน้อย เนื่องจากมีการใช้งาน iPhone มาตลอดทั้งวัน การชาร์จแบตเตอรี่เข้าไปใหม่ ให้มีระดับเกิน 50% อาจทำให้สัญญาณโทรศัพท์ดีขึ้น
6. อัพเดท iOS แล้วล้างการตั้งค่าใหม่
iPhone ที่รองรับ iOS เวอร์ชั่นใหม่ ควรทำการอัพเดทให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่อยู่เสมอ โดยเข้าไปตรวจสอบได้ที่ Settings > General > Software Update
แต่ถ้าหลังจากการอัพเดท iOS เวอร์ชั่นใหม่ ยังพบปัญหาสัญญาณโทรศัพท์ไม่ดี แนะนำให้ล้างการตั้งค่าเครือข่ายใหม่ โดยไปที่ Settings > General > Reset แล้วแตะที่ Reset Network Settings
7. ตรวจสอบซิมการ์ด
โดยปกติแล้วซิมการ์ด เป็นชิ้นส่นที่ไม่ค่อยได้รับความเสียหายมากนัก เนื่องจากจะถูกเก็บไว้ภายในเครื่องเป็นอย่างดี แต่ถ้าหากซิมการ์ดถูกใช้เป็นเวลานานหลายปี ก็คุ้มค่าที่จะลองถอดออกมาตรวจสอบดู ซึ่งควรปิด iPhone ให้เรียบร้อยก่อนถอดซิมการ์ดออกมา
8. ใช้อุปกรณ์ Cell Signal Repeater
อุปกรณ์ Cell Signal Repeater หรือ Booster ทำงานคล้ายกับ Wi-Fi Router แต่แทนที่จะปล่อยสัญญาณ Wi-Fi อุปกรณ์นี้จะทำการดักสัญญาณ Cellular ในอากาศ แล้วปรับคุณภาพสัญญาณใหม่ ก่อนกระจายสัญญาณออกมา ซึ่งจะทำให้สัญญาณโทรศัพท์ในบริเวณนั้นแข็งแรงขึ้น
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เร่งสัญญาณโทรศัพท์อีกประเภท เรียกว่า Femtocell หรือ Microcell ช่วยทำหน้าที่แปลงสัญญาณจากสายบรอดแบนด์ให้เป็น Cellular ผ่าน Wi-Fi แต่เป็นอุปกรณ์ที่หายากมากขึ้นทุกที
9. ย้ายค่าย
หากลองทำมาทุกวิธีข้างต้นยังไม่ได้ผล การเปลี่ยนไปใช้ผู้ให้บริการฯ รายใหม่อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ก่อนอื่นควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าบริเวณที่ใช้งานนั้น อยู่ในพื้นที่สัญญาณของผู้ให้บริการฯ รายใด
10. เปลี่ยนตำแหน่งการใช้งาน
ทางออกสุดท้ายคือ การเปลี่ยนตำแหน่งที่ใช้งาน หากพบว่าในจุดนั้นของบ้านมีสัญญาณต่ำ ให้ลองหาตำแหน่งใหม่ บางครั้งต้นไม้ เครื่องใช้ไฟฟ้า กำแพง วัสดุของบ้าน ก็อาจทำให้ระดับสัญญาณโทรศัพท์ต่ำลง และเชื่อว่านี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หลายคนมักเดินออกไปโทรศัพท์นอกตัวอาคาร
ที่มา – iDropNews
https://www.flashfly.net/wp/281138