realme เริ่มต้นปี 2020 ด้วยการทำตลาดสมาร์ทโฟน realme 5i เป็นรุ่นแรก ซึ่งเป็นหนึ่งใน realme 5 series ที่เคยวางจำหน่ายมาแล้ว 3 รุ่น ก่อนหน้านี้ ได้แก่ realme 5, realme 5 Pro และ realme 5s ที่ขายดิบขายดีในบ้านเรา แต่สำหรับ realme 5i นั้นมีรายละเอียดบางอย่างที่แตกต่างไปจากรุ่นอื่นๆในซีรีย์เดียวกันจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างตามมาดูกันได้เลย
พรีวิว realme 5i และ realme Buds Air
รีวิว realme Buds Air
มาเริ่มกันที่ตัวกล่องของ realme 5i ที่ครั้งนี้เปลี่ยนโฉมใหม่หมดเป็นสีเหลืองเช่นดีกับสีโลโก้ของแบรนด์และบนฝากล่องมีเพียงชื่อรุ่น 5i ขนาดใหญ่ และมีโลโก้ realme อยู่ด้านล่าง ต่างจากในรุ่นก่อนหน้าในปีที่แล้วที่ใช้เป็นพื้นขาวและโชว์ดีไซน์ตัวเครื่องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
พลิกมาดูที่ด้านหลัง จะพบกับรูปภาพไอคอนพร้อมบอกจุดเด่นของ realme 5i ได้แก่ แบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 665 AIE ระบบกล้องหลัง 4 ตัว รวมถึงกล้องอัลตร้าไวด์ และ จอแสดงผล 6.5 นิ้ว ที่มีรอยบากเล็กลง
เมื่อเปิดฝาออกมาจะพบกับซองเอกสารสีเหลืองเป็นอย่างแรก มีข้อความกล่าวยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวเรียลมี ภายในมีคู่มือ Quick Start Guide เอกสารการรับประกัน เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
ถัดจากซองเอกสารจะพบกับสมาร์ทโฟน realme 5i ที่มีซองพลาสติกห่อไว้ บนซองยังบอกด้วยว่า realme 5i รองรับการ์ด 3 ช่อง (ซิมการ์ด 2 ช่อง + การ์ด MicroSD)
ด้านล่างมีช่องเก็บ Power Adapter หรืออุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ 10 วัตต์ (5V, 2A) พร้อมด้วยสายเคเบิลหรือสายชาร์จแบบ Micro USB และไม่มีชุดหูฟังแถมมาให้
เมื่อแกะ realme 5i ออกมาจากซอง จะพบว่าการออกแบบด้านหลังนั้นแตกต่างไปจาก realme 5, realme 5 Pro และ realme 5s อย่างชัดเจน โดย realme 5 series ทั้ง 3 รุ่น ก่อนหน้านี้ จะมีดีไซน์แบบเหลี่ยมเพชร Holographic Diamond
แต่สำหรับ realme 5i จะพบว่าใช้เทคนิคการเคลือบผิวที่ต่างออกไป เรียกว่า Sunrise Design ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากแสงแรกของดวงอาทิตย์ และสะท้อนออกมาเป็นเอฟเฟกต์ที่มุมล่าง
realme 5i มาพร้อมจอแสดงผล LCD (1600 x 720 พิกเซล) ขนาด 6.5 นิ้ว ให้อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 89% ถนอมดวงตาด้วย Dark Mode ป้องกันรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3 และติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้วจากโรงงาน
รอยบากที่ขอบบนใช้ดีไซน์แบบหยดน้ำ และมีขนาดเล็กลงถึง 30.9% เมื่อเทียบกับรอยบากของ realme 3 และถูกใช้เป็นที่อยู่ของกล้องเซลฟี่ 8 ล้านพิกเซล
กล้องหลังติดตั้งมาให้ 4 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล + กล้องอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล + กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล + กล้องถ่ายภาพบุคคล 2 ล้านพิกเซล
ด้านหลังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้ด้วย ขณะที่กล้องเซลฟี่ก็สามารถใช้สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคได้เช่นกัน
พื้นผิวด้านหลังของ realme 5i ผ่านการขัดมันและแกะสลักเรเดียมด้วยเครื่องจักรที่มีความแม่นยำแบบ 5 แกนจากประเทศเยอรมนี และผลิตออกมาให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Aqua Blue กับสีเขียว Forest Green
ขอบด้านข้างมีความบางประมาณ 9 มิลลิเมตร พร้อมติดตั้งปุ่มเพาเวอร์ไว้ทางขวามือ
อีกข้างหนึ่งมีถาดใส่การ์ด 3 ช่อง รองรับซิมการ์ดแบบนาโน 2 ช่อง และอีกช่องสำหรับวางการ์ด MicroSD สูงสุด 256GB ถัดลงมาจะพบกับปุ่มปรับระดับเสียง
มุมมองด้านบนไม่พบไมโครโฟนตัวที่ 2 เช่นเดียว realme 5 กับ realme 5s
ด้านล่างจะพบกับช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร รูไมโครโฟน พอร์ต Micro-USB และตะแกรงลำโพง
realme 5i ยังได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษให้ป้องกันละอองน้ำได้ แต่ไม่สามารถนำลงไปแช่ในน้ำได้ ขณะที่พื้นผิวด้านหลังเป็นผิวด้านไม่เงาเท่ารุ่นอื่นๆ ใน Series เดียวกัน แต่ข้อดีก็คือ เกิดรอยนิ้วมือได้ยากกว่า และให้ความรู้สึกกระชับมือกว่าเมื่อถือใช้งาน
จุดเด่นของ realme 5i คือระบบกล้องหลัง AI Quad Camera ประกอบด้วยกล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8, กล้องอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.25 เก็บภาพในมุมกว้าง 119 องศา, กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายภาพระยะใกล้สุด 4 เซนติเมตร และกล้องตัวสุดท้าย 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ช่วยถ่ายภาพ Portrait Mode หรือ หน้าชัดหลังเบลอ
กล้องหลังของ realme 5i รองรับ Super Nightscape 2.0 สำหรับถ่ายภาพในเวลากลางคืนหรือในที่แสงน้อย ที่น่าประทับใจก็คือ โหมด Super Nightscape สามารถใช้ได้ทั้งกล้องหลัง และกล้องอัลตร้าไวด์ ซึ่งกล้องอัลตร้าไวด์สามารถเก็บภาพได้กว้างกว่า 4 เท่า ช่วยให้ถ่ายภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้อย่างสวยงาม
กล้องตัวหลัก รองรับการถ่ายภาพในทุกสภาพแสง ด้วย Chrome Boost ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยประมวลผลภาพ เพื่อปรับสีสันให้สวยงามขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
สำหรับการถ่ายวีดีโอด้วยกล้องหลังของ realme 5i สามารถบันทึกวีดีโอได้ในความละเอียดสูง 4K ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที รองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ EIS (Electronic Image Stabilization) มีแอพตัดต่อวีดีโอมาให้ สามารถถ่ายวีดีโอในโหมด Slow Motion ที่อัตรา 240 เฟรมต่อวินาที ความละเอียด HD 720p และรองรับโหมด Time-Lapse เหมาะสำหรับตั้งกล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน โดยตั้งเวลาเก็บภาพทีละเฟรม หลังจากบันทึกเสร็จแล้วจะได้ภาพแบบเร่งเวลา เหมาะสำหรับการถ่ายภาพดวงอาทิตย์กำลังขึ้นหรือตก กลุ่มก้อนเมฆที่กำลังเคลื่อนผ่าน หรือ ดอกไม้กำลังผลิบาน
กล้องเซลฟี่ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 รองรับ AI Beauty ปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และ AI HDR เหมาะสำหรับการถ่ายเซลฟี่ย้อนแสง หรือบริเวณที่มีสภาพแสงแตกต่างกัน
กล้องเซลฟี่ยังรองรับโหมด Panorama และ ยังมีโหมดบุคคล หรือ Portrait Mode สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ สามารถถ่ายวีดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ EIS และรองรับโหมด Time-Lapse เช่นเดียวกับกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
realme 5i ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 665 AIE Octa-core 2.0GHz ผลิตด้วยเทคโนโลยี 11 นาโนเมตร มาพร้อมจีพียู Adreno 610 ที่รองรับ Vulkan 1 ซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่า 20% เมื่อเทียบกับ OpenGLES
ส่วนความจำให้ RAM มาไม่น้อย 4GB จับคู่กับ ROM 64GB แต่ถ้าไม่พอ สามารถเก็บข้อมูลไว้ในการ์ด MicroSD ได้สูงสุด 256GB เล่นเกมยอดนิยมในเวลาได้ครบหมดทุกเกมแน่นอน
realme 5i มาพร้อมกับสโลแกน “4 เลนส์ แบตทรงพลัง” ซึ่ง 4 เลนส์ก็คือระบบกล้องหลังนั่นเอง ส่วนอีกหนึ่งจุดเด่นนั่นคือแบตเตอรี่ ที่ให้ความจุถึง 5,000mAh ขณะที่น้ำหนักบอดี้อยู่ที่ 195 กรัม ซึ่งถือว่าไม่หนักมากเมื่อเทียบกับขนาดจอแสดงผลกับขนาดแบตเตอรี่
นอกจากแบตเตอรี่จะมีขนาดใหญ่ realme 5i ยังออกแบบมาให้ประหยัดพลังงานด้วย โหมดประหยัดพลังงาน ช่วยปรับลดแสงสว่างของจอแสดงผล สามารถประหยัดแบตเตอรี่ไปได้ถึง 10% มี AI freezer ช่วยปิดแอพพลิเคชั่นที่ไม่มีการใช้งาน ทำให้ไม่มีแอพเปิดค้างไว้อยู่เบื้องหลังซึ่งมีส่วนทำให้แบตเตอรี่ถูกระบายออกไปได้ และยังเลือกใช้ชิปประมวลผลที่ประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้นกว่ารุ่นก่อน
ด้วยความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh และการออกแบบมาให้ประหยัดพลังงาน ส่งผลให้ realme 5i สามารถสแตนด์บายได้นานถึง 720 ชั่วโมง หรือ 30 วัน ใช้สนทนาได้นานสูงสุด 49 ชั่วโมง ดูวีดีโอผ่าน YouTube นาน 19 ชั่วโมง หรือ เล่นเกม PUBG Mobile ได้นานถึง 9.4 ชั่วโมง
และด้วยที่ realme 5i มีแบตเตอรี่ใช้เหลือเฟือขนาดนี้ ยังสามารถใช้งานเป็น Power Bank ชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่นที่รองรับได้อีกด้วยผ่านสาย USB OTG แถมยังปลอดภัยมากถึง 3 ช้ัน ที่ป้องกันแบตเตอรี่ร้อน แบตละลาย และแบตระเบิดต้ังแต่ หัวชาร์จไปยังแบตเตอรี่
realme 5i ทำงานบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android Pie สวมทับด้วย ColorOS 6.1 ที่ได้รับการปรับแต่ง User Interface โดย realme รองรับ Dark Mode เปลี่ยนธีมเป็นสีเข้ม สำหรับใช้งานในเวลากลางคืนได้อย่างสบายตา เพียงเข้าไปที่การตั้งค่า เลื่อนลงไปล่างสุด แล้วแตะเข้าไปที่ realme Lab ก็จะพบกับฟีเจอร์โหมดกลางคืนให้เปิดใช้งาน
realme 5i ยังมีฟีเจอร์ Real Private สำหรับปกป้องความเป็นส่วนตัวด้วยการซ่อนแอพพลิเคชั่น และไฟล์ต่างๆ ไม่ให้บุคคลอื่นเข้าถึงได้ ซึ่งต้องใช้วิธีการปลดล็อคที่ตั้งค่าไว้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการใส่รหัสผ่าน สแกนลายนิ้วมือ หรือ สแกนใบหน้า
สรุปแล้ว realme 5i เป็นสมาร์ทโฟนราคาไม่กี่พันบาท ที่ให้กล้องหลังมาถึง 4 ตัว รองรับการถ่ายภาพได้หลายสถานการณ์ และยังบันทึกวีดีโอในระดับ 4K ซึ่งมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ใช้งานได้จริง ขณะที่ชิปประมวลผลก็สามารถตอบสนองการเล่นเกมยอดนิยมในปัจจุบันได้ครบทุกเกม
ตลอดถึงการใช้งานทั่วไปอย่างดูหนัง ฟังเพลง ดูซีรีย์ออนไลน์ ท่องโลกโซเชี่ยล เล่นเว็บไซต์ จึงไม่มีอะไรให้กังวล นอกจากนี้ ยังให้ความจุแบตเตอรี่มากถึง 5000mAh เพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องพกพา Power Bank หรือที่ชาร์จให้หนักกระเป๋าอีกต่อไป
realme 5i วางจำหน่ายในประเทศไทย 2 รุ่นคือแรม 4GB ความจุ 64GB ราคา 4,699 บาท และ แรม 4GB ความจุ 128GB ราคา 4,999 บาท นอกจากนี้ realme ยังได้เปิดตัว realme Buds Air หูฟังแบบ True Wireless รุ่นแรกของแบรนด์ออกมาเพียง 1,999 บาท เป็นคู่หูคู่ใหม่ในปีนี้อีกด้วย