หลังจากอยู่ในตลาดสมาร์ทโฟนมาได้ 19 เดือน โดยประมาณ realme ก็พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจในปัจจุบัน นั่นคือ realme Buds Air หูฟังไร้สายแบบ True Wireless ซึ่งกำลังจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยในช่วงต้นปีนี้ พร้อมกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ realme 5i
มาเริ่มกันที่ realme 5i เป็นอีกหนึ่งในสมาร์ทโฟน Series 5 ที่เปิดตัวออกมาแล้ว 3 รุ่น ได้แก่ realme 5, realme 5 Pro และ realme 5s โดยมีจุดเด่นตามสโลแกน “4 เลนส์ แบตทรงพลัง” ด้วยการติดตั้งกล้องด้านหลังมาให้ 4 ตัว พร้อมด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ดีไซน์สวยงามในราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีราคาใกล้เคียงกัน
realme 5i มาพร้อมจอแสดงผล HD+ ขนาด 6.5 นิ้ว ให้อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 89% ป้องกันรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3 และวางกล้องเซลฟี่ 8 ล้านพิกเซล ไว้ในรอยบากรูปทรงหยดน้ำ
ดีไซน์ด้านหลังของ realme 5i ออกแบบใหม่ไม่เหมือนรุ่นก่อนหน้าที่มีดีไซน์เหลี่ยมเพชร ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแสงแรกของดวงอาทิตย์ ที่ผ่านการขัดมันและแกะสลักเรเดียมโดยเครื่องจักรจากประเทศเยอรมนี มี 2 สีให้เลือกคือสีน้ำเงิน Aqua Blue และและสีเขียว Forest Green เครื่องนี้นี่เอง
กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียด 12 + 8 + 2 + 2 ล้านพิกเซล ประกอบด้วย กล้องหลัก กล้องอัลตร้าไวด์ กล้องมาโคร และ กล้องถ่ายภาพบุคคล ตามลำดับ มีจุดเด่นที่โหมดถ่ายภาพ Nightscape ใช้ได้ทั้งกล้องหลักและกล้องอัตร้าไวด์ ซึ่งกล้องอัลตร้าไวด์ สามารถจับภาพในมุมมองกว้าง 119 องศา และสามารถถ่ายภาพระยะใกล้วัตถุได้ถึง 4 เซนติเมตร ด้วยกล้องมาโคร
realme 5i ทำงานบนพื้นฐาน Android Pie สวมทับด้วย ColorOS 6.1 ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 665 AIE ความจำ RAM 4GB ความจุ 64GB และยังรองรับการ์ด MicroSD สูงสุด 256GB
อีกจุดเด่นของ realme 5i อยู่ที่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh สามารถดูวีดีโอจาก YouTube ได้นานถึง 19 ชั่วโมง โดยมาพร้อม AI freezer ช่วยปิดแอพพลิเคชั่นที่ไม่มีการใช้งาน และยังมีโหมดประหยัดพลังงาน ช่วยลดแสงสว่างของจอแสดงผล ทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น 10%
มาถึงคู่หูคนใหม่ของสมาร์ทโฟน realme 5i ที่จะเปิดตัวพร้อมกันในประเทศไทยเร็วๆนี้นั่นก็คือ realme Buds Air หูฟังไร้สายแบบ True Wireless รุ่นแรกของแบรนด์ หลังจากที่เคยเปิดตัวหูฟังไร้สาย realme Buds Wireless มาแล้ว
แต่สำหรับ Buds Air เป็นหูฟังไร้สายอย่างแท้จริง เน้นการจับคู่กับสมาร์ทโฟนอย่างง่ายดาย และเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติหลังจากที่เคยจับคู่กันแล้ว อีกทั้งยังมาพร้อมเคสชาร์จ ที่สนับสนุนการชาร์จทั้งแบบมีสาย และไร้สาย จึงสะดวกในการใช้งาน
realme Buds Air ได้รับการออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบา เพื่อให้สวมใส่ได้อย่างสบาย โดยมีไมโครโฟนคู่ ช่วยให้การสนทนาชัดเจน รองรับระบบลดเสียงรบกวนรอบข้างแบบ ENC (Environmental Noise Cancellation) และมีโหมด Gaming ช่วยลดอาการดีเลย์ของเสียง ทำให้เสียงตรงกับภาพ
realme Buds Air มาพร้อมสโลแกน “ตัวจริงการเชื่อมต่อแบบไร้สาย” สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดาย และเมื่อจับคู่กันแล้ว ครั้งต่อไปจะเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังสนับสนุน Google Fast Pair ช่วยให้ Buds Air สามารถควบคุมการเล่นผ่านคำสั่งเสียง และแสดงข้อมูลหูฟัง เมื่อกำลังจับคู่กับสมาร์ทโฟน
ภายในตัวหูฟัง realme Buds Air มาพร้อมไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 12 มิลลิเมตร ได้รับการปรับแต่งเสียงจาก DJ Master ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี พร้อมด้วยเซนเซอร์ตรวจจับการใช้งาน โดยจะหยุดเล่นเสียงทันที เมื่อพบว่ามีการถอดหูฟังออกจากหู และจะเล่นเสียงอัตโนมัติ เมื่อสวมหูฟังกลับเข้าไป ส่วนการควบคุมก็ทำได้ง่ายๆ ผ่านระบบสัมผัส
realme Buds Air มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 3 ชั่วโมง แต่สามารถขยายได้นานถึง 17 ชั่วโมง เมื่อพกพาเคสชาร์จติดตัวไปด้วย โดยเคสชาร์จสามารถเติมพลังงานให้ตัวเองได้ 2 ช่องทาง คือ ผ่านสาย USB Type-C กับ ชาร์จไร้สาย 10 วัตต์ ผ่านอุปกรณ์ Qi Wireless Charging
นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นปีใหม่ของ realme ในตลาดประเทศไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป โดยที่ยังคงพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา และสำหรับ realme Buds Air ยังถือเป็นการเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Internet of Things (IoT) ซึ่งทาง realme กำลังผลักดันผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ออกมาอีกในอนาคต เพื่อรองรับยุคแห่งการสื่อสาร 5G
สำหรับรีวิวฉบับเต็มของ realme 5i กับ realme Buds Air ติดตามได้เร็วๆนี้เช่นเคย