Fitbit Versa 2 อุปกรณ์สวมใส่สำหรับติดตามสุขภาพที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่ง โดยมีดีไซน์แบบ Smart Watch ที่สวยงามพรีเมี่ยม รองรับโหมด Always-On Display แสดงเวลาอยู่ตลอดเวลา เหมือนเป็นนาฬิกาจริง มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง กันน้ำได้ 50 เมตร จึงสามารถสวมใส่เพื่อติดตามการว่ายน้ำได้
อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ติดตามการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ ติดตามการนอนหลับได้ และแบตเตอรี่ก็มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 6 วัน
Fitbit Versa 2 ได้รับการออกแบบมาอย่างเรียบง่าย แต่ดูพรีเมี่ยมด้วยตัวเรือนอะลูมิเนียม รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มุมทั้งสี่มีความโค้งมน มาพร้อมสายที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่ายๆ เพียงเลื่อนสลักที่อยู่ด้านหลัง
การออกแบบก็ใช้งานง่ายเช่นกัน สามารถควบคุม User Interface เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ ได้จากการสัมผัสหน้าจอ ปัดลงเพื่อเข้าถึงเพลง , Fitbit Pay และการตั้งค่า Quick Settings ปัดขึ้นเพื่อเข้าถึงกิจกรรมต่างๆในวันนี้ว่าเดินไปกี่ก้าว เผาผลาญไปกี่กิโลแคลลอรี่ หัวใจเต้นเป็นอย่างไร และปัดไปทางซ้ายเพื่อใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ
ส่วนปุ่มกดด้านข้างใช้กดเพื่อเปิด-ปิดหน้าจอ หรือกดเพื่อย้อนกลับ และสามารถกดค้างไว้เพื่อเรียกใช้ผู้ช่วยดิจิตอล Alexa รวมถึงตั้งค่าเป็นช็อตคัทเรียกใช้งานฟีเจอร์อื่นได้ตามใจ
Fitbit Versa 2 ติดตั้งไมโครโฟนไว้ที่ด้านขวา
Fitbit Versa 2 ใช้จอแสดงผล AMOLED (300 x 300 พิกเซล) ป้องกันรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3 รองรับโหมด Always-On Display ซึ่งจะแสดงเวลา, สถานะแบตเตอรี่ และ วันที่ แต่ถ้าต้องการประหยัดแบตเตอรี่ ก็สามารถปิดโหมดนี้ได้ที่ Qucik Settings
ด้านหลังติดตั้งเซ็นเซอร์สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ โดยจะติดตามอัตราการเต้นของหัวใจตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
Fitbit Versa 2 ถูกออกแบบมาให้กันน้ำได้ 50 เมตร พร้อมฟีเจอร์ติดตามการว่ายน้ำ นั่นหมายถึง สามารถสวมใส่ลงไปว่ายน้ำในสระได้ หรือ จะอาบน้ำโดยไม่ถอด Versa 2 ออกจากข้อมือก็ได้เช่นกัน
Fitbit Versa 2 มีตัวเรือนให้เลือก 3 สี ได้แก่ Carbon (สีเทาเข้ม), Mist Grey (สีเทาอ่อน) และ Copper Rose (สีชมพู) จึงสามารถสวมใส่ได้ทั้งผู้ชาย และผู้หญิง สำหรับ Fitbit Versa 2 Special Edition มีเพียง 2 สี คือ Mist Grey กับ Copper Rose
ความแตกต่างระหว่าง Fitbit Versa 2 กับรุ่น Special Edition อยู่ที่สายนาฬิกาที่แถมมาให้ ในรุ่นปกติจะเป็นสายซิลิโคน ส่วนรุ่น Special Edition จะเป็นสายถัก
Fitbit Versa 2 มาพร้อมฟีเจอร์ติดตามการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ, ลู่วิ่ง, ยกน้ำหนัก และบริหารร่างกายแบบจับเวลา
และยังนับจำนวนก้าวเดินให้อัตโนมัติ สามารถตรวจสอบระยะทาง และแคลอรี่ที่ถูกเผาผลาญได้
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับสุขภาพก็มี Sleep Score สำหรับติดตามสุขภาพการนอนหลับ, ฝึกการหายใจเพื่อผ่อนคลายจากความตึงเครียด และสำหรับผู้หญิงยังมีฟีเจอร์ติดตามการมีประจำเดือนและคาดการณ์ช่วงเวลาตกไข่
Fitbit Versa 2 ติดตั้งแอพ Spotify และ Deezer มาให้อยู่แล้ว และรองรับการเชื่อมต่อกับหูฟัง Bluetooth จึงสามารถฟังเพลงในระหว่างออกกำลังกายได้ หลังจากซิงค์เพลงกับสมาร์ทโฟน (มีพื้นที่พอสำหรับ 300 เพลง) หรือจะใช้แอพ Music ฟังเพลงที่ถ่ายโอนมาเก็บไว้ใน Versa 2 โดยตรงก็ทำได้เช่นกัน
Fitbit Versa 2 สามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS เพื่อรับการแจ้งเตือนต่างๆ ทั้งการโทร, ข้อความ, กิจกรรมในปฏิทิน และยังมีฟีเจอร์ตอบกลับอย่างรวดเร็ว แต่ฟีเจอร์นี้รองรับเฉพาะการจับคู่กับอุปกรณ์ Android เท่านั้น
ส่วนการติดตั้งแอพพลิเคชั่นอื่นๆ รวมถึงหน้าปัดของ Fitbit Versa 2 สามารถติดตั้งผ่านทางแอพ Fitbit บนสมาร์ทโฟนได้ทันทีเลยมีให้เลือกใช้มากมาย
ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่ของ Fitbit Versa 2 ก็ทำได้ง่ายๆนำไปใส่ที่ชาร์จแบบหนีบที่แถมมาให้ในกล่องผ่านสาย USB
โดยรวมแล้ว Fitbit Versa 2 ถือเป็นอุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกายที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น ด้วยฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง สามารถติดตามการออกกำลังกายได้หลากหลาย แม้แต่การว่ายน้ำ แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานยาวนานสูงสุด 6 วัน สำหรับการชาร์จหนึ่งครั้ง ด้านการออกแบบก็สวยงามพรีเมี่ยม สามารถสวมใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
Fitbit Versa 2 พร้อมวางจำหน่ายแล้วในราคา 7,990 บาท มาพร้อมสายซิลิโคน หรือเพิ่มเงินอีก 1,000 บาท ก็จะได้รุ่น Special Edition ที่มาพร้อมสายถัก และในชุดยังแถมสายซิลิโคน มาให้สำหรับใส่ออกกำลังอีกด้วย สามารถถอดเปลี่ยนสายได้ง่ายๆ