HUAWEI เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนเพียงไม่กี่รายจากประเทศจีน ที่ส่งสมาร์ทโฟนไปให้กับ DXOMARK ได้ทดสอบคุณภาพกล้อง โดย DXOMARK ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบคุณภาพกล้อง ไม่ว่าจะเป็นกล้องโปร หรือกล้องสมาร์ทโฟน และมีการให้คะแนนเปรียบเทียบ จนสื่อฯ หลายสำนักได้นำไปใช้ในการอ้างอิง
ล่าสุด DXOMARK ได้มีการประกาศรายชื่อสมาร์ทโฟนแห่งปี 2019 ที่มีความเป็นเลิศด้านการถ่ายภาพ โดยอ้างอิงจากสมาร์ทโฟนที่ DXOMARK ได้รับมารีวิวในปีนี้ และได้ยกให้ Mate 30 Pro เป็นอันดับ 1 ในฐานะสมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีที่สุดในปี 2019 หรือ The best smartphone cameras of 2019 เรียกได้ว่าถ้าเป็นเรื่องการถ่ายภาพ Mate 30 Pro ไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน
เบื้องหลังภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยมของ HUAWEI Mate 30 Pro อยู่ที่ระบบกล้องหลัง SuperSensing Cine camera ซึ่งติดตั้งมาให้ 4 ตัว ประกอบด้วย
– กล้องหลัก SuperSensing Camera ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.7 นิ้ว เทียบเท่าเลนส์ 27 มม. รูรับแสง f1/6 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
– กล้องอัลตร้าไวด์ Cine Camera ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.54 นิ้ว เทียบเท่าเลนส์ 18 มม. รูรับแสง f/1.8
– กล้อง Telephoto Camera ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/4 นิ้ว เทียบเท่าเลนส์ 80 มม. รูรับแสง f/2.4 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS รองรับการซูมแบบออปติคอล 3 เท่า ซูมแบบไฮบริด 5 เท่า และซูมแบบดิจิตอลสูงสุด 30 เท่า
– กล้อง 3D Depth Sensing ช่วยถ่ายภาพหรือวีดีโอในโหมด Portrait สร้างเอฟเฟกต์ Bokeh อย่างธรรมชาติ
สิ่งที่น่าสนใจในระบบกล้องหลังของ Mate 30 Pro อยู่ที่ Cine Camera ซึ่งเป็นกล้องอัลตร้าไวด์ที่มีความละเอียดสูงถึง 40 ล้านพิกเซล และยังรองรับความไวแสงที่ปรับได้สูงสุด ISO 51200 สำหรับการถ่ายวีดีโอ จึงสามารถเก็บภาพในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืนสำหรับฉากที่ต้องการมุมมองกว้างพิเศษได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นภาพความงดงามของทัศนียภาพยามค่ำคืน เมื่อถ่ายจากมุมสูง หรืออาคารหรือแหล่งท่องเที่ยวในเวลากลางคืนที่มีการประดับไฟอย่างสวยงาม รวมถึงรองรับการถ่ายภาพสมาชิกในครอบครัว และเพื่อนฝูงเป็นหมู่คณะ ในระหว่างท่องเที่ยว
ขณะที่กล้องหลัก SuperSensing Camera ก็มีขนาด รูรับแสง f1/6 พร้อมด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS (Optical Image Stabilization) ก็ช่วยให้การถ่ายภาพในเวลากลางคืนด้วยมุมมองปกติคมชัดมากยิ่งขึ้น โดย HUAWEI ได้พัฒนาเซ็นเซอร์ใหม่ RYYB ทำงานร่วมกับ ISP ที่ฝังอยู่ในชิปเซ็ทรุ่นใหม่ Kirin 990 ช่วยปรับภาพถ่ายในที่แสงน้อยให้สว่างและมีสีสันที่สดใสอย่างสมดุล
ด้านการถ่ายภาพบุคคล หรือโหมด Portrait ก็สามารถแยกบุคคลออกจากฉากหลังได้แม่นยำยิ่งขึ้น ทำให้เอฟเฟกต์ Bokeh หรือการละลายฉากหลังมีความแนบเนียนเหมือนกล้องโปร โดยใช้ประโยชน์จากกล้องตัวที่ 4 ซึ่งเป็น 3D Depth Sensing สามารถตรวจจับมิติความลึกของวัตถุต่างๆ ที่กล้องมองเห็นได้อย่างแม่นยำ และยังใช้ ISP ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ มาช่วยปรับปรุงในส่วนของเอฟเฟกต์ Bokeh
HUAWEI Mate 30 Pro ยังได้รับการปรับปรุงคุณสมบัติการถ่ายวีดีโออีกหลายด้าน การถ่ายวีดีโอทั่วไป รองรับความละเอียดสูงสุด 4K ด้วยอัตราเฟรม 60 เฟรมต่อวินาที พร้อมกับเปิดระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS โดยที่ไม่ลดอัตราเฟรม
การถ่ายวีดีโอด้วยกล้องหลังของ Mate 30 Pro มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง Dual View ที่สามารถใช้กล้องเทเลโฟโต้กับกล้องหลักถ่ายวีดีโอพร้อมกันได้ สามารถใช้กล้องอัลตร้าไวด์ถ่ายวีดีโอได้ ทำให้ได้วีดีโอมุมกว้างพิเศษเหมือนการถ่ายทำภาพภาพยนตร์
โหมด Portrait ก็ใช้ได้กับการถ่ายวีดีโอด้วย และยังมีฟิลเตอร์สามารถเปลี่ยนฉากหลายเพื่อให้ได้เอฟเฟกต์สีที่หลากหลาย เช่น เปลี่ยนฉากหลังให้เป็นโมโนโครมหรือสีขาว-ดำ โดยที่ตัวบุคคลยังมีสีสันปกติ
และไฮไลท์ของการถ่ายวีดีโอด้วยกล้องหลังของ Mate 30 Pro ก็คือโหมด Ultra Slow-motion Video ที่สามารถถ่ายภาพในแบบเคลื่อนไหวช้าได้ถึง 7,680 เฟรมต่อวินาที ซึ่งปัจจุบันสมาร์ทโฟนเรือธงในตลาดทำได้เพียง 960 เฟรมต่อวินาที ด้วยโหมด Ultra Slow-motion Video ทำให้ Mate 30 Pro บันทึกภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ ให้ช้าลงจนมองเห็นรายละเอียดที่สายตาปกติไม่สามารถมองเห็นได้ทัน แม้แต่การแตกออกของผลไม้หรือวัตถุที่ตกลงสู่พื้น
นอกจากนี้ HUAWEI Mate 30 Pro ยังนำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการปรับภาพและวีดีโอตามความเหมาะสมของฉากหรือวัตถุที่กำลังเก็บภาพ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพในสภาพแสงมืดหรือสว่าง เพื่อให้ได้ภาพถ่ายออกมามีคุณภาพมากที่สุด โดยที่ผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่มีความรู้เรื่องกล้องไม่ต้องเข้าไปปวดหัวกับโหมด Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย HUAWEI Mate 30 Pro
สุดท้ายแต่ยังไม่ท้ายสุด HUAWEI Mate 30 Pro ยังมีจุดเด่นที่จอแสดงผล Horizon Display ขนาด 6.53 นิ้ว ขอบจอโค้งมนทำมุม 88 องศา มีระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และกล้องหน้ามาพร้อมระบบปลดล็อกหน้าด้วยใบหน้าแบบ 3 มิติ
อีกทั้งยังนำเทคโนโลยี Innovative Side-Touch Interaction นำมาใช้แทนปุ่มเพิ่มลดเสียงบริเวณด้านข้างของตัวเครื่อง
กรณีที่หลายคนยังคงกังวลเกี่ยวกับการขาด GMS (Google Mobile Service) หรือแอพพลิเคชั่นและบริการต่างๆ ของ Google ซึ่ง HUAWEI ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ แต่ Mate 30 Pro ก็มาพร้อม HMS (HUAWEI Mobile Service) ที่ HUAWEI พยายามผลักดันแอพพลิเคชั่นและบริการออกมาใช้งานทางที่ GMS
HMS (HUAWEI Mobile Service) ประกอบด้วย HUAWEI AppGallery, HUAWEI Themes, HUAWEI Video, HUAWEI Music, HUAWEI Read, HUAWEI Pay, HUAWEI Skytone, HUAWEI Assistant และอื่นๆ โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากกว่า 170 ประเทศทั่วโลก หรือมากกว่า 570 ล้านคน เจ้าของ HUAWEI Mate 30 Pro สามารถเข้าไปดาวน์โหลดเกมและแอพพลิเคชั่นมาติดตั้งลงบนสมาร์ทโฟนได้โดยตรงจาก AppGallery
เนื่องจาก HUAWEI Mate 30 Pro ทำงานบนพื้นฐาน Android 10 จึงรองรับเกมและแอพพลิเคชั่นในรูปแบบไฟล์ APK เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน Android ทั่วไป นั่นหมายถึง เจ้าของ Mate 30 Pro สามารถใช้แอพเบราเซอร์ค้นหาไฟล์ APK ของเกมหรือแอพที่ต้องการมาติดตั้งได้ด้วยตัวเอง แน่นอนว่าการติดตั้งไฟล์ APK ที่ไม่ได้มาจาก Google Play Store อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจึงไม่แนะนำสำหรับผู้ใช้งานมือใหม่
การขาด GMS (Google Mobile Service) ต้องยอมรับว่าทำให้ประสบการณ์การใช้งานในภาพรวมของ HUAWEI Mate 30 Pro ไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากยังมีบางเกมหรือบางแอพพลิเคชั่น ที่ต้องการเชื่อมโยงกับบัญชีของ Google แต่สำหรับผู้ใช้งานที่มีความรู้เรื่องการปรับแต่งซอฟต์แวร์ของ Android ยังพอมีหนทางติดตั้ง GMS ลงบน Mate 30 Pro ได้ ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้แนะนำวิธีการติดตั้งให้ได้ชมกันบน YouTube และนั่นหมายถึง Mate 30 Pro ก็ไม่ได้ขาดรองรับ GMS เสียทีเดียว แต่ต้องใช้วิธีการขั้นสูงเพื่อให้ได้มา
วิธีการติดตั้ง GMS ลงบน HUAWEI Mate 30 Pro
พรีวิว Huawei Mate 30 Pro มาพร้อมจอ Horizon Display ขอบโค้ง 88 องศา และกล้องหลัง 4 ตัว SuperSensing Cine Camera จาก Leica
HUAWEI Mate 30 Pro พร้อมวางจำหน่ายแล้วในราคา 28,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Space Silver และ Black ผ่าน HUAWEI Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ