สายเกมถูกใจสิ่งนี้!! Oneplus 7T เรือธงที่มาพร้อม Snapdragon 855+ ชิปประมวลผลที่ดีที่สุดของ Qualcomm ในปีนี้ พร้อมด้วยจอแสดงผลขนาดใหญ่ ที่ให้อัตราการรีเฟรชสูง 90Hz ดีไซน์สวยงามพรีเมี่ยม กล้องหลัง 3 ตัว ลำโพงคู่ รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Warp Charge 30T ทำงานบนพื้นบาน Android 10 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุด ที่สำคัญก็คือ ราคาเปิดตัวที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายกว่าคู่แข่งที่ใช้ชิปรุ่นเดียวกัน
Oneplus 7T เป็นรุ่นอัพเกรดมาจาก Oneplus 7 ที่ออกมาในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ Oneplus 7T Pro ที่เราเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ ก็ได้รับการอัพเกรดมาจาก Oneplus 7 Pro แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือ Oneplus 7T Pro กับ Oneplus 7 Pro ยังคงใช้ดีไซน์เดียวกัน แต่สำหรับ Oneplus 7T ได้รับการออกแบบใหม่ แตกต่างจาก Oneplus 7 อย่างชัดเจน
มาแกะกล่องดูกันก่อนว่า OnePlus 7T จะแตกต่างจาก OnePlus 7T Pro รุ่นพี่อย่างไรบ้าง โดยตัวกล่องยังคังเป็นรูปทรงยาวสีแดงที่เป็นเอกลักษณ์ของ OnePlus ดูแล้วอาจจะแยกในรุ่น OnePlus 7T Pro แทบไม่ออก แต่ดูที่กล่องดีๆจะเห็นว่าระบุชื่อรุ่นเป็น OnePlus 7T
ถ้ายังไม่มั้นใจดูที่ด้านข้างกล่องก็จะเห็นว่าระบุเป็นรุ่น OnePlus 7T เช่นเดียวกัน
เปิดฝาออกมาก็จะพบกับซองสีแดง วางอยู่บนสุด ด้านในก็จะในก็จะมีเอกสารคู่มือการใช้งาน เอกสารการรับประกันตัวเครื่อง และสติกเกอร์ OnePlus สีแดงสวยงาม
ถัดมาก็จะพบกับตัวเครื่อง OnePlus 7T วางนอนอยู่ในห่อพลาสติก มีบอกไว้ด้วยว่ามีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
เมื่อนำถาดลองตัวเครื่องออกไปที่กล่องด้านล่างก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆจัดวางอยู่อย่างเป็นระเบียบ
อย่างแรกเลยที่เห็นก็คือเคสใส เจาะรูตรงกลางเป็นวงกลมเข้ากับดีไซน์ด้านหลังตัวเครื่อง OnePlus 7T ที่มีการดีไซน์การวางกล้องแบบใหม่
การออกแบบด้านหน้าของ Oneplus 7T อาจจะดูเหมือน Oneplus 7 เนื่องจากใช้จอแสดงผลที่มีรอยบากแบบหยดน้ำเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วรอยบากของ Oneplus 7T มีขนาดเล็กกว่ารุ่นก่อนถึง 31.46% นั่นหมายถึงขนาดพื้นที่ของจอแสดงผลก็ใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย
Oneplus 7T มาพร้อมจอแสดงผล Fluid AMOLED ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.55 นิ้ว (ใหญ่กว่ารุ่นก่อนที่มีขนาด 6.41 นิ้ว) ให้อัตราส่วนภาพ 20:9 ความสว่างสูงสุด 1,000 นิตส์ ครอบทับด้วยกระจก 3D Corning Gorilla Glass
และติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว
จอแสดงผลของ Oneplus 7T มีอัตราการรีเฟรช 90Hz ขณะที่สมาร์ทโฟนทั่วไปจะอยู่ในระดับ 60Hz ทำให้การตอบสนองของจอแสดงผลรวดเร็ว การแสดงภาพลื่นไหล อีกทั้งยังสนับสนุนเทคโนโลยีและมาตรฐานสีต่างๆ อย่าง sRGB, Display P3 และ HDR 10+ จึงให้สีสันที่แม่นยำคมชัด
เป็นจอแสดงผลที่เหมาะสำหรับการรับชมคอนเท้นต์วีดีโอระดับ HDR อย่างแท้จริง โดยมาพร้อมโหมด Video Enhancer สำหรับการดูวีดีโอโดยเฉพาะ โหมด Reading สำหรับการอ่านข้อความบนหน้าจอเป็นเวลานาน และโหมด Night สำหรับจ้องหน้าจอในเวลากลางคืน สามารถป้องกันแสงสีฟ้าได้ถึง 40%
รอยบากแบบหยดน้ำมีขนาดเล็กลงถึง 31.46% เมื่อเทียบกับรุ่น Oneplus 7 ถูกใช้เป็นพื้นที่ติดตั้งกล้องหน้า (รองรับทั้งการถ่ายภาพเซลฟี่ และสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค) ขยับสายตาขึ้นไปจะพบกับตะแกรงลำโพงที่เป็นแนวยาววางอยู่สุดขอบบนพอดี
เมื่อพลิกมาดูที่ด้านหลัง จะเห็นว่ามีความแตกต่างไปจากเดิมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะดีไซน์กล้อง Oneplus 7 มาพร้อมกล้องคู่หลัง จัดวางในแนวตั้งภายในกรอบรูปทรงแคปซูล แต่ Oneplus 7T มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว จัดวางในแนวนอน และอยู่ในกรอบวงกลมสีดำ ส่วนสีสันของบอดี้มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Glacier Blue กับ สีเงิน Frosted Silver
ขอบด้านข้างมีความบาง 8.18 มิลลิเมตร โดยมีการจัดวางปุ่มต่างๆ เหมือนกับรุ่น OnePlus 7T Pro ปุ่มปรับระดับเสียงวางอยู่ทางซ้ายมือหรือทางขวาของจอแสดงผล
อีกข้างมีปุ่ม Alert Slider สำหรับตั้งค่าเสียงได้ทันที เมื่อเลื่อนปุ่มขึ้นจะปิดเสียงและระบบสั่น เลื่อนปุ่มมาตรงกลางจะเปิดเฉพาะระบบสั่น และเลื่อนลงจะเปิดเสียงและระบบสั่น ถัดลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์
ด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 ติดตั้งมาให้ด้วย ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง
ถาดใส่ซิมการ์ดติดตั้งอยู่ที่ด้านล่าง รองรับ 2 ซิมการ์ดแบบนาโน (ไม่รองรับการ์ด MicroSD) ถัดมามีรูไมโครโฟนอยู่ตรงเส้นเสาอากาศพอดี กึ่งกลางเป็นช่องต่อ USB Type-C (USB 3.1 Gen1) และลำโพง
ลำโพงด้านล่างสามารถทำงานร่วมกับลำโพงที่อยู่ขอบบน เพื่อให้เสียงสเตอริโอ เมื่อมีการฟังเพลง ดูวีดีโอ เล่นเกม และยังรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ช่วยเพิ่มมิติเสียงให้สมจริงมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทางที่ถอดแบบมาจากโรงภาพยนตร์
Oneplus 7T มีความจุแบตเตอรี่ 3800mAh ขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย และชาร์จเร็วกว่าด้วย เพราะรองรับ Warp Charge 30T Fast Charging (5V/6A) ชาร์จเร็วกว่าเดิม 23% เมื่อเทียบกับ Warp Charge 30 และสามารถชาร์จแบตเตอรี่จากระดับ 0% – 70% ในเวลาเพียง 30 นาที
Oneplus 7T ให้ประสบการณ์การใช้งานแบบเดียวกับ Oneplus 7T Pro ด้วยการทำงานบนระบบปฏิบัติการเดียวกัน OxygenOS ที่มีความเสถียร (พื้นฐานเป็น Android 10 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด) และมาพร้อม Zen Mode ช่วยปรับสมดุลระหว่างชีวิตกับเทคโนโลยีให้พอดี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้สมาร์ทโฟนให้น้อยลง
Oneplus 7T มาพร้อมชิปประมวลผล Snapdragon 855 Plus ซึ่งเป็นชิปที่ดีและแรงที่สุดของ Qualcomm ในปีนี้ และเป็นชิปรุ่นเดียวกับที่ใช้ใน OnePlus 7T Pro เร็วขึ้นกว่าเดิม 15% เมื่อเทียบกับชิป Snapdragon 855
ดังนั้น Oneplus 7T จึงตอบสนองการทำงานและเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล รวดเร็ว เท่าที่สมาร์ทโฟนในระบบ Android จะให้ได้ในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเกมที่ต้องการทรัพยากรเครื่องมากเป็นพิเศษ ก็สามารถปรับคุณภาพกราฟิกในเกมได้สูงสุด
ด้านความจำของ Oneplus 7T ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมีให้เลือกเวอร์ชั่นเดียว คือ RAM 8GB แบบ LPDDR4X จับคู่กับ ROM 128GB แบบ UFS 3.0 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ มีความเร็วในการอ่านหรือเขียนข้อมูลได้เร็วกว่ามาตรฐาน UFS 2.1 เวอร์ชั่นก่อน แน่นอนว่าเร็วกว่า eMMC ที่อยู่ในสมาร์ทโฟนทั่วไป ข้อจำกัดก็คือ Oneplus 7T ไม่รองรับการ์ด MicroSD
นอกจากจะใช้ชิปประมวลผลที่ดีที่สุดของ Qualcomm แล้ว Oneplus 7T ยังมาพร้อมโหมด Fnatic ที่สามารถปิดการแจ้งเตือนจากข้อความหรือการโทร เพื่อไม่ให้รบกวนในระหว่างเล่นเกม จำกัดการทำงานของพื้นหลัง เพื่อให้ชิปประมวลผลตอบสนองการเล่นเกมโดยเฉพาะ
รวมถึงจำกัดการเชื่อมต่อเครือข่ายของซิมการ์ดที่ 2 (กรณีใช้งานพร้อมกัน 2 ซิม) เพื่อให้การเล่นเกมออนไลน์มีความเสถียรมากขึ้น รวมถึงรีดประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนให้สูงที่สุด เพื่อให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
Oneplus 7T ให้ผู้ใช้งานเล่นเกมได้อย่างสนุกสมจริงมากขึ้น ด้วยมอเตอร์สั่นสะเทือน Haptic Vibration ที่ได้รับการอัพเกรดตัวขับเคลื่อน Haptic แบบอิสระ ช่วยให้ตอบสนองต่อการสัมผัสอย่างเป็นธรรมชาติ แม่นยำและดีขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงระบบเสียง Dolby Atmos ทำให้การเล่นเกมบน Oneplus 7T มีความสมบูรณ์แบบทั้งภาพและเสียง
อีกจุดเด่นของ Oneplus 7T ที่ได้รับการอัพเกรดมาจากรุ่นก่อนก็คือ ระบบกล้องหลัง ที่ติดตั้งกล้องมาให้ 3 ตัว จัดวางในแนวนอน อยู่ในกรอบวงกลมสีดำ ประกอบด้วย กล้องมุมกว้างพิเศษ + กล้องหลัก + กล้องเทเลโฟโต้ และติดตั้งแฟลชแบบ Dual LED ไว้ใต้กล้องหลัก
กล้องหลัก มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ประกอบด้วยเลนส์ 7 ชิ้น ขนาดรูรับแสง F1.6 จึงถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
กล้องอัลตร้าไวด์หรือกล้องมุมกว้างพิเศษ มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง F2.2 สามารถเก็บภาพในมุมมองกว้าง 117 องศา กล้องเทเลโฟโต้ 12 ล้านพิกเซล เทียบเท่าระยะเลนส์ 78 มม. ขนาดพิกเซล 1 ไมครอน ขนาดรูรับแสง F2.2 รองรับการซูมแบบออปติคอล สูงสุด 2 เท่า
กล้องหลังของ Oneplus 7T ไม่มีเลนส์มาโครมาให้ แต่ก็โหมด Super Macro รองรับการถ่ายภาพระยะใกล้ได้อย่างคมชัด โดยการแตะที่ไอคอนรูปดอกไม้ (ด้านบนของโหมดรูปภาพ) สามารถถ่ายภาพใกล้วัตถุได้ถึง 2.5 ซม. เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวัตถุขนาดเล็ก ที่ต้องการเห็นรายละเอียดอย่างชัดเจน
Oneplus 7T รองรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืนด้วยโหมด Nightscape โดยใช้ประโยชน์จากกล้องหลักที่มีค่า F1.6 ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ ช่วยจับภาพหลายเฟรมในค่าแสงที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดภาพถ่ายที่มีไดนามิคกว้าง มีความสว่าง ชัดเจน แม้ถ่ายในที่มืด หรือต้องการเก็บภาพในมุมกว้างขึ้น กล้องอัลตร้าไวด์ ก็สามารถถ่ายภาพในโหมด Nightscape ได้เช่นกัน
โหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดพร้อมละลายฉากหลัง ก็ทำได้ดีเช่นกัน สามารถเลือกความยาวโฟกัสได้ 2 ระยะ และด้วย UltraShot Engine ก็ช่วยให้การถ่ายภาพ Portrait ออกมาสวยงามมากขึ้นแม้ในสภาพแสงที่ไม่เป็นใจ ไม่ว่าจะถ่ายย้อนแสง หรือถ่ายในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังตก
นอกจากนี้ยังมี Oneplus 7T ยังมีโหมดถ่ายภาพ Pro สำหรับปรับค่ากล้องได้อย่างละเอียด สำหรับคนที่มีความรู้เรื่องการถ่ายภาพ แต่ถ้าไม่มี ก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีตัวช่วยอย่าง AI Scene Detection สามารถปรับค่ากล้องอัตโนมัติ ตามฉากหรือวัตถุที่กำลังจะถ่าย ส่วนโหมด HDR กับ Panorama ยังมีมาให้เหมือนเดิม รองรับการถ่ายภาพรูปแบบ RAW โหมด Time-Lapse และโหมด Super Slow Motion ก็มีมาให้เช่นกัน รองรับ ความละเอียดสูงสุด 1080P ด้วยอัตรา 240 เฟรมต่อวินาที หรือ 720P ด้วยอัตรา 960 เฟรมต่อวินาที
สำหรับการบันทึกวีดีโอ Oneplus 7T รองรับการถ่ายวีดีโอสูงสุด 4K ด้วยอัตรา 60 เฟรมต่อวินาที มาพร้อมโหมด Super Stable ซึ่งเป็นการเปิดระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Hybrid (OIS+EIS) ทำให้ได้ภาพเคลื่อนไหวที่ราบรื่น เหมาะสำหรับการถ่ายวีดีโอในขณะที่ผู้ใช้งานกำลังเคลื่อนไหว แต่โหมด Super Stable จะบันทึกด้วยอัตรา 30 เฟรมต่อวินาทีเท่านั้น
กล้องเซลฟี่ 16 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 ขนาดรูรับแสง F2.0 ขนาดพิกเซล 1 ไมครอน มาพร้อมโหมด Portrait, Face Retouching, HDR, Time-Lapse และสามารถใช้กล้องหน้าในฟีเจอร์ Face Unlock ได้ด้วย สำหรับใครที่ไม่ต้องการสแกนลายนิ้วมือบนจอแสดงผล
กล้องหน้าของ Oneplus 7T สามารถถ่ายวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p ด้วยอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที โดยมีระบบลดภาพสั่นไหวแบบ EIS (Electronic Image Stabilization)
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้อง
สรุปแล้ว Oneplus 7T จัดเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่มีจุดเด่นในเรื่องของความคุ้มค่า ดีไซน์พรีเมี่ยม มาพร้อมจอแสดงผลสวยงาม คมชัด ขนาดใหญ่ เหมาะกับการรับชมวีดีโอ ตอบสนองความบันเทิงได้ดีทั้งภาพและเสียง
โดยมีไฮไลท์ที่ชิปประมวลผล Snapdragon 855 Plus ซึ่งถือว่าเป็นชิปที่ดีที่สุดในปีนี้ของ Qualcomm และยังมีราคาถูกที่สุดในตลาดตอนนี้ เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่ใช้ชิปรุ่นเดียวกัน Oneplus 7T ยังให้ประสบการณ์การใช้งานแบบเดียวกับ Oneplus 7T Pro ที่มีราคาแพงกว่า 9,000 บาท
Oneplus 7T พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคา 17,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Glacier Blue กับ สีเงิน Frosted Silver สามารถสั่งซื้อได้ที่ AIS Shop ทั้ง 33 สาขาที่ร่วมรายการ และระบบออนไลน์ของ AIS, JD Central และ Lazada โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ http://oneplus7tseries.onlineoneplus.com/