หลังจากที่ Vivo ได้ทำการเปิดตัว Vivo S1 สมาร์ทโฟนซีรีย์ใหม่ไปไม่นาน พร้อมกับพรีเซ็นเตอร์คนแรกของประเทศไทยนั่นก็คือ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ดาราสาวสวยชื่อดังที่สร้างกระแสฮือฮาไปทั่ววงการ ล่าสุดได้สานต่อความสำเร็จเตรียมส่งรุ่นพี่ Vivo S1 Pro ออกมาบุกตลาดสมาร์ทโฟนปลายปี 2019 ที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการแล้ว
Explore Your Style ค้นหาสไตล์ที่ใช่กับ Vivo S1 Pro เป็นสโลแกนของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Vivo ซึ่งชัดเจนว่าถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ นั่นทำให้ Vivo S1 Pro มากับดีไซน์ที่โดดเด่น จอแสดงผลคมชัดขนาดใหญ่ ถ่ายรูปสวยทั้งกล้องหน้า-กล้องหลัง และมาพร้อมประสิทธิภาพที่ตอบสนองการใช้งานได้รอบด้าน
มาเริ่มแกะกล่องกันก่อนอีกเช่นเคยโดยกล่องของ Vivo S1 Pro ก็ออกแบบมาสวยงามไม่แพ้ตัวเครื่อง โดยตัว S ที่เห็นเด่นชัดมีสีสันสวยงาม ชื่อรุ่น S1 Pro เป็นตัวนูนสีดำดูพรีเมียม ด้านบนก็จะมีโลโก้ Vivo ส่วนมุมขวาบนจะระบุว่ารุ่นใช้ แรม 8GB รอม 128GB
ที่ด้านหลังจะมีฟีเจอร์เด่นของรุ่นนี้บอกเอาไว้นั่นก็คือ กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียด 48 ล้านพิกเซล กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่หน้าจอ และรองรับชาร์จไว Dual Engine Fast Charging
เปิดกล่องออกมาก็จะพบซองใส่เอกสารคู่มือการใช้งาน การรับประกันตัวเครื่อง และเข็มจิ้มถาดใส่ซิม
รุ่นนี้ทาง Vivo ก็ยังคงแถมเคสใสมาให้พร้อมใช้งานเช่นเคย
สาย USB Type-C ก็ถูกนำมาใส่รวมกันพร้อมกับซองเอกสารด้วยเลย
ถัดมาเราก็จะพบกับตัวเครื่อง Vivo S1 Pro อยู่ในห่อพลาสติก พร้อมติดแผ่นกันรอยมาให้จากโรงงาน
เมื่อนำตัวเครื่องออกก็จะพบกบัอุปกรณ์เสริมอีก 2 อย่างที่อยู่ด้านล่างสุดนั่นก็คือหูฟังขนาด 3.5 มม.
และที่ชาร์จแบบพกพารองรับชาร์จไว Dual Engine Fast Charging
แกะกล่องกันไปแล้วมาดูที่ดีไซน์ตัวเครื่องของ Vivo S1 Pro กันบ้างที่มีความสวยงามและสะดุดตา โดยเฉพาะดีไซน์กล้องหลังรูปทรง Diamond หรือสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องประดับที่หรูหรา และสถาปัตยกรรมพระราชวัง
พื้นผิวด้านหลังสีสันที่สวยงามใช้เทคนิคไล่ระดับสีให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Knight Black โทนสีดำคลาสสิค และ Fancy Sky ที่มีส่วนผสมของสีขาวกับสีฟ้าอ่อน
ด้านหน้ามาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.38 นิ้วให้สีสันสดใสและคมชัด ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล และมีอัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ถึง 90%
จอแสดงผลของ Vivo S1 Pro ยังรองรับฟีเจอร์ Always On Display แสดงวันที่ เวลา สถานะแบตเตอรี่ และแสดงการแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นต่างๆ พร้อมรูปภาพที่ปรับแต่งได้ มองเห็นได้ทันทีแม้หน้าจอถูกล็อค โดยที่มีผลกระทบกับแบตเตอรี่น้อยมาก
Vivo S1 Pro ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล โดยไอคอนบอกตำแหน่งเซ็นเซอร์ได้รับการออกแบบใหม่ และสามารถเปลี่ยนเอฟเฟกต์ภาพเคลื่อนไหวตอนปลดล็อคได้หลายแบบ
กล้องเซลฟี่ซ่อนอยู่ในรอยบากรูปทรงหยดน้ำ เหนือขึ้นไปเป็นตะแกรงของลำโพงสนทนาวางอยู่ชิดขอบบน
ส่วนขอบด้านข้างมีความบาง 8.68 มิลลิเมตร มาพร้อมถาดใส่ซิมการ์ด 2 ช่องแบบไฮบริด ซึ่งหมายถึงช่องที่ 2 สามารถวางการ์ด MicroSD แทนซิมการ์ดได้ รองรับความจุสูงสุด 256GB
อีกข้างหนึ่งมีปุ่มปรับระดับเสียง กับปุ่มเพาเวอร์สีแดง เพิ่มความโดดเด่นให้กับปุ่มและดีไซน์ด้านข้าง
ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร พร้อมด้วยไมโครโฟนช่วยลดเสียงรบกวน
ด้านล่างมีไมโครโฟนตัวหลัก ช่องเชื่อมต่อ USB Type-C และ ลำโพง
มาถึงไฮไลท์ของ Vivo S1 Pro คือ ระบบกล้องหลัง 4 ตัว 48MP Quad Camera ที่วางอยู่ในกรอบรูปทรง Diamond หรือสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ซึ่งสะดุดตาไม่เหมือนใคร ประกอบด้วย กล้องหลัก + กล้องมุมกว้างพิเศษ + กล้องจับระยะชัดลึก + กล้องมาโคร
กล้องหลักมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.8 รองรับการถ่ายภาพทั้งในตอนกลางวันและในที่แสงน้อย ใช้เซนเซอร์ GM1 ขนาด 1/2 นิ้ว มี physical pixel points 48 ล้านพิกเซล โดยค่าเริ่มต้นจะถ่ายภาพที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แบบ 4-in-one และยังสามารถเลือกถ่ายที่ความละเอียด 48 ล้านพิกเซลได้อีกด้วย
กล้องมุมกว้างพิเศษ 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 (แต่เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์ที่สุด จะเก็บภาพในมุมมอง 108 องศา), กล้องจับระยะชัดลีก 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 สำหรับถ่ายภาพบุคคลพร้อมเอฟเฟกต์ Bokeh และกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 สามารถถ่ายภาพในระยะใกล้วัตถุถึง 4 เซนติเมตร
ซึ่งการเปิดใช้งานให้ที่โหมด Photo แล้วแตะที่วงกลมก็จะเป็นการเลือกโหมดการถ่ายภาพ 3 แบบคือ Ultra wide Angle ,Bokeh และ Super Macro โดย Vivo S1 Pro สามารถซูมเลนส์ได้ 2 เท่าและซูมไกลสุด 10 เท่าแบบดิจิตอล
โดยโหมดกล้องต่างๆของ Vivo S1 Pro มีดังนี้ AR Sticker, Portrait ,Photo,VIDEO ,AI 48MP ,Pano,LIVE Photo ,Slo-Mo ,Time- Lapse ,Pro และ Jovi กล้องหลังยังรองรับคำสั่ง Palm Capture สั่งถ่ายภาพด้วยการกางมือหน้ากล้อง และรองรับคำสั่งเสียงสำหรับจับภาพแทนกดปุ่มชัตเตอร์
สำหรับการถ่ายภาพในโหมด Portrait นั้นสามารถถ่ายแบบ Ultra wide Angle ได้ด้วย และยังมีโหมด Face Beauty ในการปรับระดับความสวยงามของใบหน้าและ Posture ผู้ช่วยสำคัญในการโพสต์ท่าถ่ายรูปแบบให้เหมือนโมเดลมืออาชีพ
ส่วนการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080P รวมถึงถ่ายวิดีโอด้วยเลนส์มุมกว้างได้แต่ถ้าจะใช้โหมด Face Beauty ต้องลดความละเอียดลงไปที่ 720P แทน
กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.0 มีโหมด AR Sticker, Portrait ที่สามารถเลือกแบบ Natural หน้าสดหรือ Fresh หน้าใสได้
นอกจากนี้ยังมีโหมด Face Beauty และ Posture ให้ใช้งานแบบกล้องหลังอีกด้วย ส่วนการถ่ายวิดีโอนั้นรองรับ Face Beauty ที่ความละเอียด 720P เช่นเดียวกัน
สำหรับโหมดถ่ายภาพกลางคืนนั้น Vivo S1 Pro จะมีการอัพเดท SuperNight Mode เข้ามาในวันที่ 22 ธันวาคม 2562 โดยสามารถใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังอีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล
Vivo S1 Pro ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 665 ซึงตอบสนองการเล่นเกมได้ดีและใช้งานได้อย่างลื่นไหลด้วย RAM สูงถึง 8GB จึงรองรับการทำงานแบบ Multitasking ได้อย่างราบรื่น
พร้อมด้วย ROM 128GB สำหรับการติดตั้งเกมขนาดใหญ่ และยังรองรับการเก็บข้อมูลไว้ในการ์ด MicroSD สูงสุด 256GB โดย
จากการทดสอบเล่นเกมดังที่กราฟิกโหดๆทั้ง PUBG Mobile ,Call of Duty Mobile หรือ Asphalt 9 ก็สามารถเล่นแข่งกับเพื่อนได้อย่างสบายๆ ส่วนใครที่แฟนเกม ROV บอกเลยว่าลื่นระดับ 61 FPS เลยทีเดียว
นอกจากชิปประมวลผล Vivo S1 Pro ยังได้รับเทคโนโลยี Multi Turbo ช่วยรีดประสิทธิภาพการทำงานของระบบให้เร็วขึ้น พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายความร้อน เพื่อให้ใช้งานได้นานต่อเนื่อง
และยังมี Ultra Game Mode สำหรับปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ ช่วยทำให้เล่นเกมมีความสุขมากขึ้น และสนุกกับการเล่นเกมมากขึ้นด้วยฟีเจอร์ Voice Changer เปลี่ยนเสียงของผู้ใช้งานเป็นโทนเสียงที่แปลกออกไป
เล่นเกมได้แบบสบายๆแล้ว Vivo S1 Pro ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4500mAh เพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวัน และยังรองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์ (9V 2A) ผ่านพอร์ตมาตรฐานใหม่ USB Type-C โดยใช้เทคโนโลยี Dual Engine Fast Charging ที่เน้นเรื่องชาร์จไวและให้ความปลอดภัยในระหว่างชาร์จแบตเตอรี่
Vivo S1 Pro ทำงานบนพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie สวมทับด้วย Funtouch OS 9.2 ซึ่งมาพร้อม Dark Mode เปลี่ยนธีมหรือ User Interface เป็นโทนสีเข้ม ช่วยให้ใช้งานได้อย่างสบายตาในที่แสงน้อย หรือในเวลากลางคืน
เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ชอบเล่นมือถือก่อนนอน โดยสามารถตั้งเวลาให้สมาร์ทโฟนเปิด Dark Mode โดยอัตโนมัติในเวลากลางคืนได้
สรุปแล้ว Vivo S1 Pro ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่สร้างมาเอาใจคนรุ่นใหม่ ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร มาพร้อมกล้องหลังที่รองรับการถ่ายภาพได้หลายรูปแบบ กล้องเซลฟี่สวยงามคมชัด จอแสดงผลขนาดใหญ่และให้สีสันสดใส
เหมาะสำหรับการชมคอนเท้นต์วีดีโอ แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานยาวนาน และยังมีประสิทธิภาพที่น่าพอใจ เพียงพอต่อการเล่นเกม ถือว่าเหมาะสมกับราคาที่ต้องจ่ายไป
Vivo S1 Pro เปิดให้เป็นเจ้าของได้ในราคาเพียง 9,999 บาท จองล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. 62 – 28 พ.ย. 62 รับเครื่อง 29 พ.ย. 62 ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
#VivoS1Pro #ExploreYourStyle #ค้นหาสไตล์ที่เป็นคุณ