iPhone รุ่นใหม่ในปีนี้ ได้รับการพัฒนาระบบกล้องหลังให้ดีขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะ iPhone 11 Pro Max และ iPhone 11 Pro ที่มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว และยังได้รับการพัฒนาซอฟต์แวร์กล้องให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่จากการทดสอบกล้องของ DxOMark ได้แสดงให้เห็นว่า iPhone 11 Pro ยังไม่ใช่สมาร์ทโฟนที่สามารถถ่ายภาพได้ดีที่สุดในปีนี้
iPhone 11 Pro Max ได้รับ 117 คะแนน จากการทดสอบกล้องหลังของ DxOMark ซึ่งหมายถึง iPhone 11 Pro ก็ควรจะได้รับคะแนนเท่ากัน เนื่องจากใช้สเปกกล้องเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่ผ่านการทดสอบจาก DxOMark จะเห็นว่า iPhone 11 Pro Max อยู่อันดับที่ 2 ของตารางคะแนน ร่วมกับ Samsung Galaxy Note 10+ 5G และ Galaxy Note 10+ ส่วนอันดับบนสุดเป็นของ Xiaomi Mi CC9 Pro Premium Edition และ Huawei Mate 30 Pro ที่ทำได้ 121 คะแนน
117 เป็นคะแนนรวมของ iPhone 11 Pro Max ที่เกิดมาจากการถ่ายภาพนิ่ง iPhone 11 Pro Max ได้รับ 124 คะแนน และการถ่ายวีดีโอได้รับ 102 คะแนน ขณะที่ Huawei Mate 30 Pro ได้รับ 131 คะแนน สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง และ 100 คะแนน สำหรับการบันทึกวีดีโอ นั่นหมายถึง iPhone 11 Pro Max ถ่ายวีดีโอได้ดีไม่เป็นรองใคร
DxOMark บอกว่าภาพถ่ายจาก iPhone 11 Pro Max มีรายละเอียดดี ให้ช่วงไดนามิคกว้างในสถานการณ์ส่วนใหญ่ ระบบโฟกัสทำงานรวดเร็วแม่นยำ ให้สีสันสดใส กล้องอัลตร้าไวด์ก็ให้รายละเอียดได้ดีเช่นกัน รวมถึงให้ไดนามิคกว้าง และควบคุมความคลาดเคลื่อนของสีได้ดี ส่วนระบบซูมทำได้ดีทั้งในระยะกลางและใกล้
จุดที่ต้องแก้ไขสำหรับการถ่ายภาพนิ่งของ iPhone 11 Pro Max ยังพบจุดรบกวนอยู่บ้างในทุกสภาพแสง สูญเสียรายละเอียดเมื่อซูมในระยะไกล ขาดรายละเอียดเมื่อใช้แฟลช ภาพถ่ายให้โทนสีเหลืองเมื่อถ่ายในที่แสงน้อยและเป็นแสงโทนอุ่น และขาดรายละเอียดเมื่อถ่ายด้วยกล้องอัลตราไวด์
สำหรับการถ่ายวีดีโอด้วย iPhone 11 Pro Max ให้ช่วงไดนามิกกว้าง ให้รายละเอียดดี ควบคุมจุดรบกวนได้ดีทั้งการบันทึกภายในและภายนอกอาคาร ให้สีสันสดใส และระบบป้องกันภาพสั้นไหวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังมีจุดที่ต้องแก้ไข เพราะยังพบอาการ Jello Effect เมื่อบันทึกวีดีโอในขณะเดิน
ที่มา – DxOMark
https://www.flashfly.net/wp/274004