ปัจจุบันการสร้างคอนเท้นต์วีดีโอไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไม่จำเป็นต้องมีสตูดิโอระดับมืออาชีพ เพียงแค่มีสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว ก็สามารถสร้างรายการทีวีของตัวเองได้แล้ว วันนี้ทีมงาน @flashfly มีสมาร์ทโฟนที่สามารถตอบโจทย์ Vlog หรือนักสร้างสรรค์วีดีโอมาแนะนำ กับ OPPO Reno2 สมาร์ทโฟนกล้องหลัง 4 ตัวรุ่นใหม่ล่าสุดจาก OPPO ที่มีความโดดเด่นด้านการถ่ายวิดีโออย่างมากโดยเฉพาะระบบกันสั่นขั้นเทพ
โดยก่อนหน้าทีมงานก็ได้ทำการรีวิวฉบับเต็มของ OPPO Reno2 กันไปเรียบร้อยแล้วคราวนี้จะเป็นการทดสอบใช้งานฟีเจอร์กล้องวิดีโอกันบ้างตามมาชมกันได้เลยจะสุดยอดขนาดไหน
Ultra Steady Video กันสั่นขั้นเทพ
วีดีโอจะออกมาสวยงามและดูเป็นมืออาชีพ จำเป็นต้องมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งพบได้ในสมาร์ทโฟน OPPO Reno2 ที่มาพร้อมโหมด Ultra Steady Video สามารถถ่ายวีดีโอได้อย่างคมชัด และราบรื่นในทุกเฟรม แม้กำลังเคลื่อนไหวอยู่ก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหวทั้ง OIS (Optical Image Stabilization) และ EIS (Electronic Image Stabilization)
Ultra Steady Video ช่วยให้ผู้ใช้งานถ่ายวีดีโอหรือภาพยนตร์ได้อย่างมืออาชีพ และสามารถเปิดใช้งานได้ง่ายๆ เพียงเข้าไปที่แอพกล้อง สลับไปยังโหมดวีดีโอ แล้วเปิดฟีเจอร์ Ultra Steady Video ไอคอนรูปกล้องที่มีเส้นซิกแซ็กอยู่ข้างๆ จากนั้นก็สามารถแตะปุ่มชัตเตอร์เพื่อเริ่มบันทึกวีดีโอได้ทันที
การถ่ายวีดีโอด้วยโหมด Ultra Steady Video ให้ภาพเคลื่อนไหวที่ราบรื่น แม้ว่าในระหว่างถ่ายทำจะมีการเคลื่อนไหวสมาร์ทโฟนตามวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ไปด้วย แต่ภาพที่ออกมาจะไม่สั่นไหวจนตาลาย โดยไม่จำเป็นต้องใช้ Gimbal มาช่วยจับ
ถ่ายวีดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอได้เหมือนกล้องโปร
OPPO Reno2 สามารถถ่ายวีดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอได้เหมือนกล้องโปร ด้วยโหมด Bokeh Effect Video รองรับทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เหมาะสำหรับการถ่ายวีดีโอเพื่อเน้นตัวบุคคลที่อยู่ด้านหน้าฉากหรือวัตถุ หรือถ่ายวีดีโอเซลฟี่ ซึ่งจะทำให้ตัวบุคคลโดดเด่นขึ้นมา
ถ่ายวีดีโอมุมกว้างแบบสุดๆ 160 องศา
OPPO Reno2 มาพร้อมกล้อง Wide Angle รองรับการถ่ายภาพในมุมมองกว้างพิเศษและสามารถใช้ถ่ายวีดีโอด้วยเช่นกัน เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ สถานที่ท่องเที่ยว หรือ อาคาร สถาปัตยกรรมต่างๆ ที่ต้องการเก็บองค์ประกอบให้ครอบคลุมทั้งหมด เพียงเข้าที่แอพกล้อง สลับไปยังโหมดวีดีโอ เปิดการตั้งค่ากล้องเพื่อเลือกความละเอียด (แนะนำที่ 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที) แล้วเปิดใช้งานกล้องมุมกว้างพิเศษ ด้วยการแตะที่ไอคอน Ultra Wide Angle (ไอคอนคล้ายจอภาพยนตร์ที่มีจุดตรงกลาง) แล้วปุ่มชัตเตอร์เพื่อเริ่มบันทึกวีดีโอ (ก่อนกดปุ่มชัตเตอร์ ผู้ใช้งานสามารถแตะหน้าจอค้างไว้ เพื่อล็อคจุดโฟกัสวัตถุได้)
SOLOOP แอพตัดต่อมือโปรในคลิกเดียว
ขั้นตอนสุดท้ายก่อนแชร์วีดีโอออกไป นั่นคือการตัดต่อวีดีโอให้สมบูรณ์ ผู้ใช้งาน OPPO Reno2 ไม่จำเป็นต้องถ่ายโอนไฟล์วีดีโอไปตัดต่อในคอมพิวเตอร์ให้ยุ่งยาก เพราะสามารถใช้แอพพลิเคชั่น SOLOOP ที่ติดตั้งมาให้แล้ว ตัดต่อแก้ไขวีดีโอได้ทันที
แอพพลิเคชั่น SOLOOP ช่วยให้การตัดต่อเป็นเรื่องง่าย โดยที่ยังรักษาคุณภาพของวีดีโอไว้เหมือนต้นฉบับ มีเอฟเฟกต์และเครื่องมือตัดต่อมากมายที่ใช้งานง่าย พร้อมด้วยเอฟเฟกต์ระหว่างเปลี่ยนฉาก มีฟิลเตอร์ให้เลือกหลายแบบ แทรกเสียงลงในวีดีโอได้ รวมถึงการแทรกข้อความเพื่อใช้เป็นชื่อเรื่องหรือคำบรรยาย
นอกจากการบันทึกวีดีโอแล้ว กล้องหลัง 4 ตัวของ OPPO Reno2 ยังถ่ายภาพนิ่งได้อย่างคมชัดทุกระยะไม่ว่าจะเป็นกล้องหลังความละเอียด ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้างพิเศษ ภาพถ่ายบุคคลหน้าชัดหลังเบลอ รวมไปถึงภาพถ่ายในที่แสงน้อย Ultra Dark Mode ที่ช่วยให้ภาพถ่ายสว่างกว่าโหมดถ่ายภาพทั่วไป มองเห็นรายละเอียดในพื้นที่เงาอย่างชัดเจน และยังควบคุม Noise หรือจุดรบกวนได้เป็นอย่างดี
OPPO Reno2 ยังได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงาม และพรีเมี่ยม มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Luminous Black และ Sunset Pink ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ เจาะกลุ่มผู้ใช้งานทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ไม่ว่าจะเลือกสีอะไร ก็ให้ความโดดเด่นและสร้างความแตกต่าง ด้วยกล้องหน้าที่ซ่อนไว้ในตัวเครื่องแบบ Shark Fin หรือครีบฉลามที่ไม่เหมือนใคร
สรุปแล้ว OPPO Reno2 Series เป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพรีเมี่ยม พร้อมด้วยกล้องหลัง 4 ตัว ที่สามารถถ่ายภาพนิ่งได้อย่างคมชัดทุกสภาพแสง และยังถ่ายวีดีโอได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบคู่ (EIS + OIS) ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนไว้ถ่ายวีดีโอโดยเฉพาะ
OPPO Reno2 Series พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 11,990 บาท สำหรับ Reno2 F และราคา 17,990 บาท สำหรับ Reno2 พร้อมแคมเปญสุดพิเศษ เก่าแลกใหม่! นำสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าแลกรับส่วนลดในการจองหรือซื้อ OPPO Reno2 พิเศษรับส่วนลดเพิ่มอีก 500 บาท