Apple ยังมีเวลาอีก 5 – 6 เดือน กว่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการออกแบบของ iPhone รุ่นถัดไป และหลายปีที่ผ่านมา Apple มีการออกแบบ iPhone ไว้หลายแบบ เพื่อค้นหาแบบที่ดีที่สุด ซึ่งหนึ่งในนั้นได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว โดยดีไซน์เนอร์ Ben Geskin ที่ไม่มีความแม่นยำเท่าไรนักหากพูดถึงข่าวลือ
แหล่งข่าวอ้างว่า Apple กำลังปรับปรุง Face ID ในอนาคต โดยใช้ประโยชน์จากเลนส์ออปติกใหม่ ทำให้รอยบากมีความกว้างน้อยลง และอาจมีขนาดเล็กพอให้ฝังไว้ในขอบจอด้านบน Face ID ใหม่ ยังมีความปลอดภัยและทำงานได้รวดเร็วขึ้น จนอาจสามารถสแกนใบหน้าได้แม้ iPhone จะวางอยู่บนพื้นราบ
Face ID ใหม่ อาจนำมาใช้กับ iPhone รุ่น Pro เท่านั้น ส่วนรุ่นพื้นฐานยังได้รับ Face ID แบบเดิม ด้วยเหตุผลด้านต้นทุนการผลิต แต่ข่าวดีก็คือ iPhone ทุกรุ่นในปีหน้า ถูกลือว่าจะใช้จอแสดงผล OLED และ รองรับ 5G หมดทุกรุ่น
คาดว่า iPhone 12 ยังคงใช้จอแสดงผล 6.1 นิ้ว แต่ iPhone 12 Pro จะมีขนาดเล็กลงเหลือ 5.4 นิ้ว และ iPhone 12 Pro Max จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย 6.7 นิ้ว
สำหรับดีไซน์ด้านหลัง คาดว่ายังดูคล้ายกับ iPhone ในปี 2019 แต่กล้องหลังของ iPhone รุ่น Pro จะได้รับกล้อง 3D ToF (Time-of-Flight) ส่วน iPhone 12 จะได้รับกล้องเทเลโฟโต้
ส่วนกรอบด้านข้างยังใช้วัสดุอะลูมิเนียมกับ iPhone 12 ส่วนรุ่น Pro จะใช้สแตนเลสสตีล โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่เส้นเสาอากาศจากพลาสติกเปลี่ยนเป็นกระจกเซรามิกหรือแซฟไฟร์ ซึ่งช่วยให้สัญญาณไร้สายทะลุผ่านได้ดีกว่า และเข้ากันได้กับเทคโนโลยี 5G ที่จะเริ่มนำมาใช้กับ iPhone ทุกรุ่น ในปีหน้า
iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ยังถูกลือว่าจะเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ส่วน iPhone 12 ยังติดอยู่กับพอร์ต Lightning แต่คาดว่า iPhone ในปี 2023 อาจจะไม่มีพอร์ตเหล่านี้เหลืออยู่เลย เพื่อเข้าสู่ยุคไร้สายอย่างสมบูรณ์
ที่มา – Phonearena
https://www.flashfly.net/wp/272084