มาแล้วรีวิวฉบับเต็มของ OPPO Reno2 F สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของ OPPO Reno2 Series ที่จะมาต่อยอดความสำเร็จหลังจากที่ได้วางจำหน่ายไปก่อนหน้าแล้ว 2 รุ่นนั่นก็คือ OPPO Reno และ OPPO Reno 10x Zoom ที่สร้างความฮือฮาของวงการมาแล้วนั่นเอง ซึ่งก่อนหน้าทางทีมงาน @flashfly ได้ทำการแกะกล่องพรีวิว OPPO Reno2 F กันไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงรีวิวฉบับเต็มกันบ้าง ตามมาดูกันได้ว่าจะถ่ายภาพได้สวยขนาดไหน
สำหรับชื่อเรียกของ OPPO Reno2 F นั้นหลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องมี F ต่อท้าย แต่ถ้าบอกว่ารุ่นนี้คือรุ่นอัพเกรดของสมาร์ทโฟนซีรีย์ F ที่ทำยอดขายถล่มทลายอย่างในรุ่น OPPO F7 ,OPPO F9 หรือ OPPO F11 Pro เชื่อว่าหายสงสัยกันอย่างแน่นอน ซึ่งครั้งนี้ OPPO ได้นำเอาความสามารถด้านการถ่ายภาพของซีรีย์ F มาผสมผสานเข้ากับนวัตกรรมของ Reno ภายใต้แนวคิด “สวยทุกมุมมอง” นั่นเอง
ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ดีไซน์สวยงามตามแบบฉบับของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมเท่านั้น แต่ยังหมายถึงระบบกล้องที่สามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างสวยงามในทุกมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้า Rising Camera ที่ซ่อนไว้ด้านในตัวเครื่องและกล้องหลังที่จัดมาให้ถึง 4 ตัวความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล ทำให้ได้สมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปสวย มีดีไซน์พรีเมี่ยม และราคาจับต้องได้ง่ายออกมานั่นเอง
OPPO Reno2 F โดดเด่นตั้งแต่ด้านหน้า ซึ่งถูกใช้เป็นพื้นที่จอแสดงผลถึง 91.1% ด้วยจอแสดงผล AMOLED (2340 x 1080 พิกเซล) ขนาด 6.5 นิ้ว ดีไซน์ Panoramic Screen จอกว้างสุดขอบแบบไร้รอยบาก
ให้รายละเอียดภาพหรือคอนเท้นต์ที่กำลังรับชมได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ขาดหายไปเหมือนจอแสดงผลที่ถูกเจาะรูหรือทำรอยบากเพื่อวางกล้องเซลฟี่
ใต้จอแสดงผลติดตั้งเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือแบบออปติคอล Hidden Fingerprint Unlock 3.0 สามารถสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคได้ไวกว่าเดิม 11.3% อีกทั้งยังครอบทับด้านหน้าทั้งหมดด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 ที่ต้านทานรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี และติดฟิล์มป้องกันริ้วรอยมาให้แล้วจากโรงงาน
เบื้องหลังที่ทำให้จอแสดงผลไร้รอยบาก นั่นคือการซ่อนกล้อง Rising Camera ไว้ในตัวเครื่อง สามารถสไลด์กล้องขึ้น-ลงอัตโนมัติ เมื่อต้องการใช้งาน โดยใช้เวลาในการสไลด์เพียง 0.74 วินาที ผ่านการทดสอบสไลด์กล้องถึง 200,000 ครั้ง
และมีระบบ Free-fall Protection ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ด้วยการดึงกล้องกลับทันที เมื่อพบว่าสมาร์ทโฟนกำลังจะหล่นลงพื้น
ด้านหลังใช้กระจกโค้ง 3D Corning Gorilla Glass 5 เช่นเดียวกับด้านหน้า ดีไซน์สวยงามหรูหราจากการเคลือบผิวหลายชั้นจนเกิดเป็นพื้นผิวแบบไล่ระดับสี จากโทนสีอ่อนไปหาโทนสีเข้ม สะท้อนสีแตกต่างกันตามองศาของมุมมอง
ผลิตออกมาให้เลือก 2 เฉดสี ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ ได้แก่สีขาว Sky White และ สีเขียว Lake Green
กล้องหลังทั้ง 4 ตัว วางเรียงซ้อนกันในแนวตั้ง อยู่ตรงกึ่งกลางทำให้การออกแบบดูสมมาตร โมดูลกล้องทั้งหมดยังฝังอยู่ในด้านหลังอย่างเรียบเนียน และมี O-Dot ซึ่งเป็นจุดเซรามิกที่มีความนูน ช่วยป้องกันเลนส์กล้องเมื่อวางสมาร์ทโฟนบนพื้นราบ
ส่วนขอบด้านข้างมีความบาง 8.7 มิลลิเมตร โดยวางปุ่มปรับระดับเสียงไว้ด้านขวาของจอแสดงผล
อีกข้างหนึ่งมีถาดใส่การ์ดแบบ 3 ช่อง รองรับ 2 ซิมการ์ด และ เพิ่มการ์ด MicroSD ได้อีกช่อง ถัดลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์
ด้านล่างพบกับลำโพง, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และ ไมโครโฟนตัวหลัก
มีไมโครโฟนตัวที่ 2 อยู่ด้านบน ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้าง
OPPO Reno2 F มาพร้อมระบบกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก Ultra-clear ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F1.79
กล้องมุมกว้าง Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 กล้อง Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 และกล้อง Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4
กล้องหลังของ OPPO Reno2 F ถ่าพภาพได้อย่างสวยงามทั้งในสภาพแสงตอนกลางวันและกลางคืน โดยมี Ultra Night Mode 2.0 มาข่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อย ด้วยขนาดรูรับแสง F1.79 ของกล้องหลังที่ผสานการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีลดจุดรบกวนแบบหลายเฟรม และะการถ่ายภาพช่วงไดนามิกสูง
อีกทั้งยังใช้ AI มาช่วยระมวลผลฉากหลังให้แยกออกจากบุคคลที่อยู่เบิ้องหน้า ทำให้ได้ฉากหลังที่น่าสนใจ โดยที่โทนสีผิวของบุคคลยังโดดเด่นแบบธรรมชาติ
OPPO Reno2 F สามารถถ่ายภาพบุคคลหรือ Portrait ได้อย่างสวยงามในหลายสถานการณ์ด้วย HDR Portrait ช่วยถ่ายภาพบุคคลในบริเวณที่มีสภาพแสงสว่างแตกต่างกันอย่างชัดเจน ช่วยลดแสงในพื้นที่แสงจ้าเกินไป และเพิ่มแสงในส่วนที่แสงน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในสภาพแสงปกติ สามารถใช้โหมด Portrait Bokeh ปรับระดับความเบลอของฉากหลังได้ง่ายๆ และจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว AI Beauty Mode รองรับการถ่ายภาพบุคคลสูงสุด 4 คน ในเฟรมเดียว โดยนำ AI มาช่วยปรับโทนสีผิวให้เหมาะสมกับสภาพแสงในช่วงเวลานั้น
กล้องมุมกว้าง Ultra Wide Angle ยังช่วยให้ผู้ใช้งานเก็บภาพในมุมมองกว้างถึง 119 องศา และใช้ได้กับการถ่ายวีดีโอด้วย ทำให้ได้ภาพเคลื่อนไหวในมุมมองกว้างพิเศษที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่ากล้องทั่วไปที่ให้มุมแคบกว่า
กล้องเซลฟี่ Rising Camera ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.0 รองรับฟีเจอร์ Portrait Bokeh และ AI Beauty Mode เหมือนกับกล้องหลัง
และยังมาพร้อมไฟแสดงสถานะ Atmosphere Light ที่อยู่ด้านข้างของกล้องเซลฟี่ ช่วยเพิ่มความสวยงามและยังใช้เป็นตัวนับถอยหลังเมื่อถ่ายภาพเซลฟี่
OPPO Reno2 F สามารถถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด Full HD 1080p ด้วยอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังสามารถถ่ายวิดีโอด้วยเลนส์มุมกว้างได้อีกด้วย โดยมีฟีเจอร์ Smart Video Editor แอพตัดต่อวิดีโอที่ชาญฉลาด ช่วยให้การตัดต่อวีดีโอเป็นเรื่องง่าย สามารถแทรกเพลงให้ตรงกับช่วงเวลาของวีดีโอโดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย OPPO Reno2 F
OPPO Reno2 F มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4000mAh เล่นวีดีโอนานต่อเนื่อง 13 ชั่วโมง เล่นเกมนานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง สนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 ชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 51% ในเวลาเพียง 30 นาที
อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูง ด้วยระบบป้องกันถึง 5 ขั้นตอน ตั้งแต่อุปกรณ์ที่ชาร์จไปจนถึงแบตเตอรี่ที่อยู่ภายในสมาร์ทโฟน สามารถเล่นเกมไปพร้อมกับการชาร์จได้โดยที่ตัวเครื่องไม่ร้อนอีกด้วย
OPPO Reno2 F ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Heilo P70 ประกอบด้วยซีพียู Octa Core (ARM Cortex-A53 + ARM Cortex-A73) ความเร็วสูงสุด 2.1GHz จีพียู Mali-G72 MP3 900MHz ความจำ RAM 8GB จับคู่กับ ROM 128GB รองรับการ์ด MicroSD สูงสุด 256GB
OPPO Reno2 F รองรับเทคโนโลยี Hyper Boost 2.0 ที่มาพร้อม Frame Boost 2.0 และ Touch Boost 2.0 ช่วยให้เล่นเกมได้ราบรื่นและสนุกขึ้น
โดย Frame Boost 2.0 ช่วยจัดการทำงานของระบบที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อลดปัญหาเฟรมเรทตก รวมถึงแก้ไขปัญหาความล่าช้าของเกม จนทำให้ความสเถียรของเฟรมเรทในเกม ROV เพิ่มขึ้น 30% และลดโอกาสที่จะทำให้เกม PUBG Mobile เกิดปัญหาล่าช้าได้ 50% อีกทั้ง Frame Boost ยังมีส่วนในการปรับปรุงพลังงานและความร้อนของสมาร์ทโฟน เพื่อควบคุมอุณหภูมิไม่ให้สูงเกินไป
สำหรับ Touch Boost 2.0 ช่วยให้สมาร์ทโฟนตอบสนองการสัมผัสได้เร็วขึ้น อย่างเช่นเกม ROV กับ PUBG Mobile สามารถตอบสนองการสัมผัสได้เร็วขึ้น 15.5% และ 27.9% ตามลำดับ และปรับปรุงประสิทธิภาพทั่วไปให้ดีขึ้น 35.2%
ไม่เพียงแค่นั้น OPPO Reno2 F ยังผ่านการรับรองประสิทธิภาพการเล่นเกมระดับ 5 ดาว จาก TUV Rheinland ผู้นำในการตรวจสอบมาตรฐานการบริการระดับโลก หลังจากได้ทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมของ Reno2 F รวมถึงทดสอบจอแสดงผล อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ รวมไปถึงประสิทธิภาพของสัญญาณไร้สาย ซึ่งจำเป็นสำหรับการเล่นเกมผ่านระบบออนไลน์
ทำงานบนบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie สวมทับด้วย ColorOS 6.1 ซึ่งออกแบบมาสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ใช้ดีไซน์ Full Screen หรือ Panoramic Screen ให้พื้นที่ของจอแสดงผลกว้างสุดขอบ
ColorOS 6.1 ได้รับการออกแบบ User Interface ใหม่ โดยเน้นพื้นหลังที่เรียบง่าย สบายตา ไล่เฉดสีอย่างนุ่มนวล และให้ผู้ใช้งานควบคุมหน้าจอด้วยคำสั่งท่าทางได้ง่ายๆ แม้ใช้มือเพียงข้างเดียว
นอกจาก UI ใหม่ ColorOS 6.1 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Smart Assistant นำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้งานโดยเฉพาะ แสดงผลในรูปแบบการ์ดบนหน้าจอหลัก รองรับบริการ Cloud ที่เน้นความปลอดภัยเป็นสำคัญ
เอาใจสายเกมด้วย Game Space 2.0 ช่วยปิดกั้นการรบกวนระหว่างเล่นเกม จัดการเกมต่างๆ ที่ดาวน์โหลดมา ปรับการตั้งค่าของประสิทธิภาพให้เหมาะกับเกมแต่ละประเภท
โดยรวมแล้ว OPPO Reno2 F จัดเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงของแบรนด์ OPPO แต่ออกแบบมาให้เป็นเจ้าของได้ง่ายกว่า Reno2 ที่เปิดตัวพร้อมกัน โดยมีจุดเด่นที่จอแสดงผลไร้รอยบาก ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว แต่ยังคงจับถือได้อย่างถนัด กล้องดิจิตอลให้ภาพถ่ายออกมาสวยงามในทุกมุมมอง ทั้งกล้อง Rising Camera ที่ซ่อนในตัวเครื่องและกล้องหลัง 4 ตัว และให้ประสิทธิด้านการเล่นเกมดังอย่าง PUBG Mobile และ ROV อีกทั้งยังสนับสนุนระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos ให้มิติเสียงสมจริง ช่วยให้เล่นเกม ดหรือแม้แต่การดูหนังฟังเพลงก็ทำให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้นไปอีกขั้น
OPPO Reno2 F เปิดราคาออกมาที่ 11,990 บาท โดยมีโปรโมชั่นร่วมกับค่ายมือถือทั้ง AIS ,dtac และ Truemove H เริ่มต้นเพียง 3,490 บาท เมื่อสมัครแพ็คเกจที่ร่วมรายการ โดยตัวเครื่องเปิดจองตั้งแต่วันที่ 9 – 25 ตุลาคม 2562 ได้ของแถมเป็นกระเป๋าเป้ และบัตร VIP รับประกันจอแตกนาน 2 ปี
บทความโดย – www.flashfly.net