Consumer Reports เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสื่อฯ ที่ยืนอยู่ข้างผู้บริโภค ได้ยกให้ iPhone 11 Pro Max อยู่ในอันดับบนสุดจากการทดสอบของพวกเขา ขณะที่ iPhone 11 Pro และ iPhone 11 ก็ทำคะแนนได้สูงเช่นกัน ซึ่งในความจริงแล้วจากการจัดอันดับ Top 10 ของ Consumer Reports มีคะแนนห่างกันเพียง 6 จุดเท่านั้น
จากการทดสอบของ Consumer Reports พบว่า iPhone 11 Pro Max มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานที่สุดถึง 40.5 ชั่วโมง เพิ่มขึ้นถึง 11 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับ iPhone XS Max ด้าน iPhone 11 Pro ให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน 34 ชั่วโมง ขณะที่ iPhone XS ทำได้ 27.5 ชั่วโมง และ iPhone 11 ให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน 28 ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 30 นาที เมื่อเทียบกับ iPhone XR
iPhone 11 Pro Max และ iPhone 11 Pro ที่มาพร้อมระบบกล้องหลัง 3 ตัว โดยการเพิ่มกล้องอัลตราไวด์เข้ามา สามารถทำคะแนนสูงสุดในการจัดอันดับคุณภาพการถ่ายภาพนิ่ง และ iPhone 11 series ทั้ง 3 รุ่น ยังถ่ายวีดีโอได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้ง Night Mode กับ Slofie ก็ใช้งานได้ดี
Consumer Reports ยังทดสอบความทนทานของ iPhone รุ่นใหม่ด้วย โดยพบว่า iPhone 11 Pro Max, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 สามารถป้องน้ำได้เป็นอย่างดี แต่ iPhone 11 Pro เป็นรุ่นเดียวที่ไม่ผ่านการทดสอบ Drop Test
การทดสอบ Drop Test ของ Consumer Reports จะปล่อย iPhone ลงมาที่ความสูงราว 80 เซนติเมตร เพื่อตรวจสอบความทนทานในหลายๆ มุม ซึ่ง iPhone 11 กับ iPhone 11 Pro Max ผ่านการทดสอบ Drop Test ถึง 100 ครั้ง และเกิดรอยขีดข่วนเพียงเล็กน้อย ขณะที่ iPhone 11 Pro ถูก Drop Test ได้ 50 ครั้ง ก็พบว่าจอแสดงผลเสียหายและไม่ทำงาน แม้จะทดสอบกับ iPhone 11 Pro เครื่องที่ 2 ก็ได้ผลเหมือนกัน
Consumer Reports ยังประทับใจในความแรงของชิปประมวลผล Apple A13 ที่อยู่ใน iPhone รุ่นใหม่ โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่า iPhone ในปีที่แล้ว รวมถึงสมาร์ทโฟนระดับสูงของ Android นอกจากนี้ จอแสดงผลของ iPhone 11 series ก็สว่างขึ้น คุณภาพของลำโพงดีกว่าปีที่แล้ว
ที่มา – Consumer Reports
https://www.flashfly.net/wp/269835