มาแล้วสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Vivo ที่จะมาต่อยอดความสำเร็จจากรุ่น Vivo V15 และ Vivo V15 Pro ที่วางจำหน่ายไปในช่วงต้นปี 2019 ที่ผ่านมา นั่นก็คือรุ่น Vivo V17 Pro โดยมาพร้อมกล้องเซลฟี่แบบป๊อปอัพ
แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปเพราะมาพร้อมกล้องหน้า 2 ตัว Dual Pop-up Selfie Camera ความละเอียด 32 ล้านพิกเซลรุ่นแรกในโลก ส่วนกล้องหลังก็ได้รับการอัพเกรดจากกล้อง 3 ตัว เป็น 4 ตัวความละเอียด 48 ล้านพิกเซล AI Quad Camera ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างไร้ขีดจำกัดทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังจริงๆ
ซึ่งวันนี้ทีมงาน @flashfly ก็ได้ตัวเครื่อง Vivo V17 Pro มารีวิวเป็นที่เรียบร้อย มาเริ่มกันด้วยการแกะกล่องกันก่อนเป็นอย่างแรกอีกเช่นเคย มาดูกันเลยว่าจะมีอะไรแถมมาให้บ้าง
ตัวกล่องของ Vivo V17 Pro ถูกออกแบบใหม่ บนฝากล่องเป็นรูปลายกราฟิกที่โชว์พื้นที่หน้าจอขนาดใหญ่ และกล้องทั้งด้านหน้าและด้านหลังเครื่องที่รวมกันแล้วมีถึง 6 ตัวเลยทีเดียว ด้านบนไม่มีโลโก้ Vivo ย้ายไปด้านข้างกล่องแทน โดยจะโชว์ชื่อรุ่น V17 Pro ชัดเจน ที่มุมขวาบนจะระบุว่ามีแรม 8GB ความจุ 128GB
ที่ด้านหลังกล่องจะบอกฟีเจอร์ที่สำคัญของรุ่นนี้ไว้ชัดเจนก็คือ กล้อง 32MP Dual Sefle Camera หรือกล้องหน้า 2 ตัวความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ถัดมาจะเป็นกล้องหลัง 4 ตัว 48MP AI Quad Camera ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล สุดท้ายก็คือหน้าจอไร้รอยบาก Ultra FullView Display สัดส่วน 20:9
เปิดกล่องออกมาก็จะพบกับซองกระดาษระบุชื่อรุ่นชัดเจน V17 Pro สะท้อนแสงสวยงาม
ด้านในมีเอกสารรับประกันตัวเครื่อง คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
เคสสีขาวคุณภาพสูงแบบแข็งปกป้องริ้วรอยและการเผลอทำเครื่องตกหล่นได้เป็นอย่างดี
สายชาร์จและเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แบบ USB Type-C
และขาดไม่ได้เลยกับเข็มจิ้มถาดใส่ซิม
มาดูกันต่อที่ด้านล่างจะเห็นตัวเครื่อง Vivo V17 Pro พระเอกของเราอยู่ในห่อพลาสติกอย่างดี
แกะห่อพลาสติกออกก็จะพบกับตัวเครื่องที่สวยงามแบบนี้
ในกล่องยังเหลืออุปกรณ์อีก 2 ชิ้นที่สำคัญก็คือ Power Adapter เหลือที่ชาร์จแบบพกพารองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging (9V 2A)
สุดท้ายกับชุดหูฟังแบบ 3.5 มม. ที่หลายๆแบรนด์เริ่มตัดออกเพื่อลดต้นทุน แต่ใน Vivo V17 Pro ยังคงแถมมาให้ในกล่อง
ดีไซน์ของ Vivo V17 Pro ได้ละทิ้งความซับซ้อนแล้วกลับมาสู่ความเรียบง่ายด้วยสีสันที่คลาสสิค คือ สีดำ Knight Black ที่สื่อถึงความเป็นอิสระ กับ สีขาว Crystal White ที่สื่อถึงความบริสุทธิ์
ภายใต้ดีไซน์ที่หรูหรา ผ่านการออกแบบอย่างพิถีพิถัน และใช้วัสดุกระจกที่มีคุณภาพ Corning Gorilla Glass 6 ประกอบกับโครงสร้างหลักที่เป็นโลหะ
จอแสดงผลของ Vivo V17 Pro ใช้ดีไซน์ Ultra FullView Display ไม่มีรอยบากหรือถูกเจาะรูเพื่อวางกล้องเซลฟี่ จึงมีขอบจอแสดงผลรอบด้านที่บางเฉียบ ให้อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 91.65%
มาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED (2400 x 1080 พิกเซล) ขนาด 6.44 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 20:9 ใช้จอภาพ E3 OLED แสดงสีสันตามมาตรฐาน DCI-P3 สูงถึง 100% สามารถกรองแสงสีฟ้าได้ถึง 42% เมื่อเทียบกับจอ E2
และยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยถนอมสายตาจากการใช้งานในที่แสงน้อย ผ่านการรับรองจาก TÜV สถาบันรับรองความปลอดภัยของประเทศเยอรมัน
Vivo V17 Pro ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอ โดยได้รับการพัฒนาทั้งเทคโนโลยีและอัลกอริธึม จนสามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียง 0.39 วินาที
เบิ้องหลังที่ทำให้จอแสดงผลของ Vivo V17 Pro ไร้รอยบาก คือการใช้ระบบกล้องเซลฟี่แบบป๊อปอัพซ่อนไว้ที่ด้านบน โดยมาพร้อมกล้องคู่ 32 + 8 ล้านพิกเซล ติดตั้งไว้ตรงกึ่งกลาง ช่วยให้ภาพถ่ายเซลฟี่มีความสมดุลมากขึ้น จากรุ่นก่อนที่ติดตั้งไว้ทางฝั่งซ้ายของจอแสดงผล
กล้องคู่เซลฟี่แบบป๊อปอัพ ได้รับการปรับปรุงระบบมอเตอร์ให้ดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมฟีเจอร์ Auto Retraction ช่วยป้องกันความเสียหายจากการทำตก ด้วยการดึงกล้องกลับอัตโนมัติ เมื่อตรวจจับได้ว่าสมาร์ทโฟนกำลังจะหล่น และยังออกแบบโมดูลกล้องมาอย่างแข็งแรงด้วยบอดี้แบบ Unibody ใช้วัสดุอลูมิเนียม
ด้านหลังมาพร้อมกล้อง 4 ตัว AI Quad Camera ความละเอียด 48 + 8 + 2 + 2 ล้านพิกเซล จัดเรียงซ้อนกันในแนวตั้ง และวางอยู่ตรงกึ่งกลาง บนพื้นผิวกระจกมุมโค้ง 2.5D ที่มีให้เลือก 2 เฉดสี คือ สีดำ กับ สีขาว
ขอบด้านข้างมีความบาง 9.8 มิลลิเมตร มาพร้อมปุ่มปรับระดับเสียง ที่ด้านซ้ายของจอแสดงผล ถัดลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์
อีกข้างหนึ่งมีปุ่ม Smart Button สำหรับกดเพื่อเรียกใช้งานผู้ช่วยดิจิตอล Google Assistant หรือกดสองครั้งติดกัน เพื่อเปิดฟีเจอร์ Image Recognizer ของ Jovi
ผู้ใช้งาน Vivo V17 Pro สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เพียงเอ่ยปากขอให้ Google Assistant ช่วยทำให้ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหารูปภาพที่ต้องการในอัลบั้ม เปิดใช้งานกล้องเซลพี่ พร้อมโหมด AI Face Beauty สั่งให้โทรหาบุคคลที่อยู่ในรายชื่อ รวมไปถึงค้นหาข้อมูลที่ต้องการ โดยไม่ต้องใช้วิธีพิมพ์ข้อความใน Google Search
นอกจากกล้องคู่เซลฟี่แบบป๊อปอัพ ที่ด้านบนยังมีช่องต่อหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และไมโครโฟนตัวที่สองช่วยกรองเสียงรบกวนรอบข้าง
ด้านล่างจะพบกับถาดใส่ซิมการ์ด (รองรับ Dual Nano-SIM) ไมโครโฟน พอร์ตเชื่อมต่อมาตรฐานใหม่ USB-C และ ลำโพง
Vivo V17 Pro ติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ภายใน ความจุ 4100mAh (รุ่นก่อนมีความจุ 3700mAh) และสนับสนุนรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging (9V 2A) พร้อมระบบป้องกันความปลอดภัยให้กับแบตเตอรี่ถึง 9 ชั้น
Vivo V17 Pro มาพร้อมชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 675 AIE ความจำ RAM 8GB จับคู่กับ ROM 128GB สนับสนุนการเชื่อมต่อ 4G LTE, Wi-Fi 2.4GHz/5GHz, Bluetooth 5.0, GPS/GLONASS พร้อมด้วยเซ็นเซอร์ Accelerometer, Gyroscope, Ambient Light, Proximity และ E-compass
Vivo V17 Pro ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 9.1 (Based on Android 9 Pie) ได้รับการปรับปรุง User Interface ให้เรียบง่ายสบายตา
และยังมาพร้อม Dark Mode สำหรับใช้งานสมาร์ทโฟนในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืน โดยจะเปลี่ยนการแสดงผลเป็นโทนสีเข้ม ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตา และยังประหยัดพลังงานของแบตเตอรี่ได้อีกด้วย
ตอบสนองการเล่นเกมและใช้งานแอพพลิเคชั่นได้รวดเร็วขึ้น ด้วยฟีเจอร์ Multi-Turbo ที่ประกอบด้วย Center Turbo, AI Turbo, Cooling Turbo และ Game Turbo ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Vivo V17 Pro ให้ทำงานได้รวดเร็วและลื่นไหลยิ่งขึ้นอย่างเกม ROV เล่นที่เฟรมเรทถึง 61Fps แทบไม่มีตกเลย
Center Turbo ช่วยเพิ่มความเร็วให้กับระบบ ด้วยการลดความล่าช้าของหน่วยความจำ และลดอาการเฟรมเรตตกได้ถึง 78% AI Turbo ช่วยให้เข้าถึงแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานบ่อยได้เร็วขึ้น 20%
Cooling Turbo อาศัยการออกแบบโครงสร้างภายในและระบบ ทำให้ระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ Game Turbo ช่วยรีดประสิทธิภาพของระบบสำหรับการเล่นเกม สนับสนุนเกมยอดนิยมอย่างเช่น PUBG Mobile และ Mobile Legend
Funtouch OS 9.1 ยังช่วยให้ Vivo V17 Pro เล่นเกมได้สนุกขึ้น ด้วยฟีเจอร์ Ultra Game Mode ช่วยปิดระบบการแจ้งเตือน ไม่ให้รบกวนระหว่างเล่นเกม
และยังมี Voice Changer สามารถเปลี่ยนโทนเสียงสนทนาของผู้ใช้งานในระหว่างเล่นเกม ให้เป็นเสียงโทนต่ำหรือเสียงที่สร้างความตลกให้กับเพื่อนๆ ได้
Vivo V17 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกล้องคู่เซลฟี่แบบป๊อปอัพ มีความโดดเด่นที่ระบบสไลด์กล้องอัตโนมัติ และระบบ Auto Retraction ซ่อนกล้องทันทีเมื่อพบว่าสมาร์ทโฟนกำลังตก โดยกล้องหลักมีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 วางคู่กับกล้องมุมกว้างพิเศษ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
กล้องมุมกว้างพิเศษ Super Wide-Angle Camera ช่วยเก็บภาพเซลฟี่ในมุมมอง 105 องศา เหมาะสำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ร่วมกับเพื่อนๆ หรือถ่ายภาพเซลฟี่ตัวเองพร้อมกับฉากหลังที่น่าสนใจ
กล้องคู่เซลฟี่ของ Vivo V17 Pro มีจุดเด่นที่โหมด Super Night Selfie สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ในเวลากลางคืนได้อย่างสวยงาม และสำหรับมือใหม่หัดเซลฟี่ สามารถใช้ฟีเจอร์ Pose Master มาช่วยแนะนำการโพสท่าได้ โดยจะแสดงเส้นประเป็นท่าทางการโพสท่าในรูปแบบต่างๆ
มาถึงไฮไลท์ของ Vivo V17 Pro คือ ระบบกล้องหลัง 48MP AI Quad Camera ซึ่งประกอบด้วยกล้องมุมกว้างพิเศษ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 (Sony IMX582) กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และ กล้องเทเลโฟโต้ 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5
กล้องหลังของ Vivo V17 Pro มาพร้อมโหมดถ่ายภาพในเวลากลางคืน AI Super Night Mode ซึ่งใช้ประโยชน์จากขนาดรูรับแสง f/1.8 ของกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล พร้อมปรับปรุงระบบ HDR ให้จับภาพได้เร็วขึ้น รวมถึงปรับปรุงระบบ Multi-frame และเทคโนโลยีลดจุดรบกวนบนภาพถ่าย ทำให้ Vivo V17 Pro สามารถถ่ายภาพในเวลากลางคืนได้สวยงามทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า
AI Super Wide-Angle ของกล้องหลัง ช่วยเก็บภาพในมุมมองกว้างถึง 120 องศา ขณะที่กล้อง Super Macro Camera สามารถถ่ายภาพในระยะใกล้ถึง 4 เซนติเมตร เหมาะสำหรับถ่ายภาพดอกไม้ วัตถุขนาดเล็ก และลวดลายบนสิ่งของต่างๆ
นอกจากนี้ยังมี กล้องเทเลโฟโต้ สามารถซูมภาพแบบออปติคอลได้ 2 เท่า และซูมดิจิตอลได้สูงสุด 10 เท่า และยังรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ 4K อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย Vivo V17 Pro
สรุปแล้ว Vivo V17 Pro ถูกสร้างมาเพื่อผู้ใช้งานที่เน้นการถ่ายภาพที่หลากหลาย โดดเด่นทั้งการถ่ายเซลฟี่และภาพถ่ายในเวลาคืน หรือจะถ่ายภาพระยะใกล้ไปจนถึงมุมมองกว้างพิเศษก็ทำได้ อีกทั้งยังมีการออกแบบที่สวยงามพรีเมี่ยม
จอแสดงผลกว้างสุดขอบรองรับการชมคอนเท้นต์วีดีโอได้เป็นอย่างดี ขณะที่ชิปประมวลผลก็ตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลไม่แพ้รุ่นราคาแพง ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่น่าสนใจมากอีกรุ่นในตลาด
สำหรับราคาเปิดตัวของ Vivo V17 Pro นั้นอยู่ที่ 12,999 บาทเท่านั้นมีให้เลือก 2 สีได้แก่สีดำ Black Night และสีขาว Crystal White เปิดจองตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. 62 – 4 ต.ค. 62 รับเครื่องวันที่ 5 ต.ค. 62 พร้อมรับฟรี กระเป๋าพรีเมี่ยม มูลค่า 1,099 บาท สามารถไปจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
#VivoV17Pro #ฉีกทุกกฎในทุกช็อต #VivoV17ProxMTBB #V17ProLookBeyond