Joe Hollier และ Kai Tang ร่วมก่อตั้ง Light ในปี 2014 และเคยออกโทรศัพท์มือถือ Light Phone รุ่นแรกในปี 2017 ซึ่งทำได้แค่โทรออก-รับสายเท่านั้น และด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่ทันสมัย ก็ทำให้ Light Phone รุ่นแรก ประสบความสำเร็จเกิดความคาดหมาย
Light Phone รุ่นแรก สามารถระดมทุนผ่าน Kickstarter ได้ถึง 400,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 12.3 ล้านบาท และสามารถจัดส่งได้ 15,000 เครื่อง ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้ Joe Hollier และ Kai Tang ต้องพัฒนา Light Phone 2 ออกมาต่อยอด
Joe Hollier และ Kai Tang ผู้ร่วมก่อตั้ง Light Phone
Light Phone 2 มีความฉลาดขึ้นมาอีกเล็กน้อย จากรุ่นแรกที่ทำได้เพียงโทรออก-รับสาย รุ่นใหม่นี้รองรับข้อความ และสามารถตั้งปลุกได้ โดยใช้จอแสดงผลแบบ e-ink เหมือนกับ Kindle ของ Kindle มีให้เลือก 2 สี (ขาว/ดำ) ขนาดบอดี้ 95.85 x 55.85 x 8.75 มิลลิเมตร น้ำหนัก 78 กรัม
ถึงแม้ Light Phone 2 จะทำได้แค่ 3 อย่าง คือ โทร, ข้อความ, ตั้งปลุก แต่ก็รองรับ 4G สนับสนุนเครือข่าย AT&T, T-Mobile, Verizon มีการเชื่อมต่อ Wi-Fi, GPS, Bluetooth, Headphone jack, micro-USB แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 7 วัน แต่ใช้งานทั่วไป 2 – 3 วัน
Light Phone 2 เปิดรับจองผ่าน Indiegogo ราคา 350 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 10,700 บาท คาดว่าจะเริ่มจัดส่งได้ในเดือนตุลาคมนี้
นอกจากนี้ Joe Hollier และ Kai Tang ยังมีแผนเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้กับ Light Phone 2 อย่างเครื่องเล่นเพลง, ระบบนำทาง และ ฟีเจอร์ค้นหาอุปกรณ์ เนื่องจากมีกระแสตอบรับมาจากลูกค้าที่ซื้อ Light Phone ไปให้เด็กๆ ใช้ และต้องการติดตามตำแหน่งของเด็กๆ
ที่มา – BusinessInsider
https://www.flashfly.net/wp/265828