Samsung วางจำหน่ายสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุด Galaxy Watch eSim ในประเทศไทยทางการแล้ว หลังจากที่วางจำหน่ายรุ่นปกติมาก่อนหน้า ซึ่งในรุ่น eSIM นี้จะทำให้ผู้สวมใส่เป็นอิสระจากสมาร์ทโฟนมากยิ่งขึ้น ด้วยการสนับสนุนเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในระบบ 4G หรือ 3G ในบ้านเราทั้ง 3 ค่ายดัง โดยมีดีไซน์สวยงามพรีเมี่ยม สามารถสวมใส่แทนนาฬิกาข้อมือปกติได้ มาพร้อมฟีเจอร์ติดตามสุขภาพและการทำกิจกรรมตลอดทั้งวัน และยังออกแบบมาให้กันน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร
ตัวเรือนของ Galaxy Watch eSim ผลิตด้วยวัสดุสแตนเลสสตีล หน้าปัดทรงกลมดูเหมือนนาฬิกาข้อมือระดับพรีเมี่ยม มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 42 มม. กับ 46 มม. โดยขนาด 42 มม. มีตัวเรือนให้เลือก 2 สี (Midnight Black, Rose Gold) สามารถเปลี่ยนสายนาฬิกาทั่วไปที่มีขนาด 20 มม. ส่วนขนาด 46 มม. มีให้เลือกสีเดียว (Silver) และสามารถเปลี่ยนสายนาฬิกาทั่วไปที่มีขนาด 22 มม. สำหรับสายสายนาฬิกาที่ติดมากับ Galaxy Watch eSim เป็นวัสดุซิลิโคนที่มีน้ำหนักเบา
Galaxy Watch eSim มาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED (360 x 360 พิกเซล) ระบบสัมผัส ขนาด 1.2 นิ้ว สำหรับรุ่น 42 มม. ส่วนรุ่น 46 มม. จะมีขนาดหน้าจอ 1.3 นิ้ว รองรับฟีเจอร์ Always On Display ให้ผู้ใช้ดูเวลาได้ทันทีเหมือนสวมใส่นาฬิกาข้อมือปกติ และครอบทับด้วยกระจกป้องกันรอยขีดข่วน
ส่วนขอบของหน้าปัดถูกออกแบบมาให้ใช้ควบคุม User Interface ด้วยการหมุนขอบหน้าปัดไปตามเข็มหรือทวนเข็มนาฬิกา โดยตามขอบจะมีรอยหยักเพื่อความถนัดในการหมุน ซึ่งเป็นวิธีการใช้งานเหมือนกับ Galaxy Watch รุ่นก่อนๆ ของ Samsung
ปุ่มกดด้านข้าง มี 2 ปุ่ม คือ ปุ่มโฮม (ปุ่มเพาเวอร์) กับปุ่มย้อนกลับ และมีรูไมโครโฟนติดตั้งอยู่ทางฝั่งเดียวกัน
อีกข้างดูเหมือนรูไมโครโฟนแต่มี 3 รูติดกัน แท้จริงแล้วเป็นตำแหน่งของลำโพง
Galaxy Watch eSim ติดตั้ง Heart Rate Sensor ไว้ที่ด้านหลัง นอกจากนี้ยังมี Accelerometer, Barometer, Gyro และ Light Sensor สำหรับการเชื่อมต่อรองรับ Wi-Fi 802.11 b/g/n (2.4GHz), Bluetooth 4.2, NFC และ GPS
Galaxy Watch eSim ออกแบบมาให้มีความทนทานสูงมาตรฐานกองทัพสหรัฐฯ (MIL-STD-810G) และกันน้ำที่ความลึกสูงสุด 50 เมตร ตามมาตรฐาน 5ATM
นอกจากขนาดตัวเรือนและจอแสดงผลที่แตกต่างกัน Galaxy Watch eSim ขนาด 42 มม. กับ 46 มม. ยังมีความจุแบตเตอรี่ที่แตกต่างกันด้วย เรือนเล็กมีความจุแบตเตอรี่ 270mAh ส่วนเรือนใหญ่มีความจุแบตเตอรี่ 472mAh นั่นทำให้ Galaxy Watch eSim ขนาด 42 มม. มีน้ำหนักเบากว่า อยู่ที่ 49 กรัม ขณะที่ขนาด 46 มม. มีน้ำหนัก 63 กรัม
สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ ทำได้อย่างง่ายดาย เพราะมาพร้อมแท่นชาร์จไร้สาย เพียงแค่วาง Galaxy Watch eSim ไว้บนแท่นชาร์จ แบตเตอรี่ของสมาร์ทวอทช์ก็จะถูกชาร์จโดยอัตโนมัติ หรือจะชาร์จแบบไร้สายที่ด้านหลัง Galaxy S10 หรือ Galaxy Note 10 ได้อีกด้วยด้วยฟีเจอร์ Wireless PowerShare
เปิดใช้งาน eSim
eSim ที่อยู่ต่อท้ายชื่อ Galaxy Watch มาจากคำว่า Embedded-SIM ซึ่งหมายถึงใช้ซิมการ์ดที่ฝังไว้ภายในอุปกรณ์ โดยไม่ต้องใช้ซิมการ์ดแบบทั่วไปที่ใช้ในสมาร์ทโฟน ดังนั้น ก่อนการใช้งาน Galaxy Watch eSim จำเป็นต้องลงทะเบียนหรือทำให้ eSim อยู่ในสถานะพร้อมใช้งานก่อน ซึ่งวิธีเปิดใช้งานก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไร
Samsung Galaxy Watch eSim วางจำหน่ายผ่านผู้ให้บริการฯ AIS, Dtac และ TrueMove H ดังนั้น ถ้าไปซื้ออุปกรณ์ที่ศูนย์บริการทั้ง 3 ราย สามารถขอให้พนักงานช่วยลงทะเบียน eSim ได้ทันที แต่ถ้าต้องการลงทะเบียนด้วยตัวเองก็ทำได้เช่นกัน
หากต้องการเปิดใช้ eSim ด้วยตัวเอง จะต้องจับคู่ Galaxy Watch eSim กับสมาร์ทโฟนที่ลงแอพพลิเคชั่น Galaxy Wearable (รองรับทั้ง Android และ iOS) เมื่อเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับ Galaxy Watch eSim ผ่านแอพ Galaxy Wearable ให้เข้าไปที่เมนู Mobile Network หรือ เครือข่ายมือถือ จากนั้นเลือกเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการเปิดใช้งาน eSim (เบอร์ที่อยู่ในสมาร์ทโฟน) จากนั้นให้ทำตามขั้นตอนที่แอพแนะนำเพียงไม่กี่ขั้นตอน เพื่อทำให้การลงทะเบียน eSim เสร็จสมบูรณ์ โดยผู้ใช้งานต้องเตรียมข้อมูลส่วนตัวอย่างหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนที่ใช้ลงทะเบียนซิมการ์ดปัจจุบันด้วย
หลังจาก Galaxy Watch eSim เชื่อมต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถใช้งานฟีเจอร์การโทรหรือข้อความได้เหมือนเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่ง โดยไม่ต้องมีสมาร์ทโฟนอยู่ใกล้ๆ อีกต่อไป นั่นหมายถึง ผู้สวมใส่ไม่จำเป็นต้องพกพาสมาร์ทโฟนติดตัวไปด้วย เมื่อต้องออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมนอกบ้าน และไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดสายสำคัญ เพราะสามารถกดรับสายจากสมาร์ทวอทช์ได้โดยตรง
ติดตามสุขภาพ
Galaxy Watch eSim สามารถติดตามการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมได้ถึง 39 รูปแบบ อาทิ การเดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ใช้เครื่องช่วยออกกำลังกายประเภทต่างๆ ในฟิตเนส รวมไปถึงว่ายน้ำ เพราะออกแบบมาให้กันน้ำได้ตามมาตรฐาน 5ATM
Galaxy Watch eSim สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะวิ่ง พร้อมจดจำเส้นทางการวิ่งด้วย GPS ในตัว และบันทึกสถิติต่างๆ อย่างระยะทาง ความเร็ว จำนวนแคลลอรี่ที่ถูกเผาผลาญ สามารถตรวจสอบรายงานผลจากการออกกำลังกายได้ทันทีจากสมาร์ทวอทช์ หรือตรวจสอบข้อมูลด้านสุขภาพอย่างละเอียดบนสมาร์ทโฟนผ่านแอพ Samsung Health
นอกจาก GPS สมาร์ทวอทช์ Galaxy Watch eSim ยังมีเซ็นเซอร์ Altimeter และ Barometer (เครื่องวัดความสูงและความกดอากาศ) จึงสามารถระบุตำแหน่งของผู้สวมใส่ได้แม่นยำทั้งในแนวราบ และการขึ้นที่สูง
Galaxy Watch eSim รองรับฟีเจอร์สตรีมเพลงจากแอพที่ให้บริการฟังเพลงออนไลน์ แล้วฟังเพลงผ่านหูฟังไร้สายที่จับคู่กันผ่าน Bluetooth ช่วยเพิ่มความสนุกและผ่อนคลายในระหว่างออกกำลังกาย
Galaxy Watch eSim ยังสามารถติดตามสุขภาพการนอนหลับได้ด้วย โดยจะบันทึกและวิเคราะห์การนอนหลับอย่างละเอียดออกเป็น 4 ช่วง ก่อนนอนยังมีฟีเจอร์สรุปผลจากการทำกิจกรรมตลอดทั้งวัน และหลังจากตื่นนอนยังแสดงข้อมูลที่สำคัญของวันใหม่ (กรณีมีการบันทึกนัดหมายไว้) และรายงานสภาพอากาศในแต่ละวัน
สเปก
Galaxy Watch eSim ทั้ง 2 ขนาด ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Tizen สามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟนได้ทั้ง iOS และ Android แต่เมื่อใช้งานกับ มาพร้อมชิปประมวลผล 1.15GHz Dual Core ความจำ RAM 1.4 GB จับคู่กับ ROM 4GB
Galaxy Watch eSim ขนาด 46 มม. มีความจุแบตเตอรี่ 472mAh ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 168 ชั่วโมง แต่ถ้าเปิด GPS, ฟังเพลง และใช้ฟีเจอร์การโทร พลังงานแบตเตอรี่ก็จะหมดไวขึ้น ขณะที่ขนาด 42 มม. มีความจุแบตเตอรี่ 270mAh ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 120 ชั่วโมง และเช่นเดียวกับเรือนใหญ่ ถ้าหากมีการเปิด GPS, ฟังเพลง และใช้ฟีเจอร์การโทร แบตเตอรี่ก็จะหมดไวเร็วขึ้น แต่เมื่อใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถอยู่ได้นานตั้งแต่เช้าจรดเย็นอย่างแน่นอน เนื่องจาก Galaxy Watch eSim ถ้าจับคู่กับสมาร์ทโฟนก็จะประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้น เพราะจะมีการปิดระบบเชื่อมต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ
สรุป
Samsung Galaxy Watch eSim เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทวอทช์ที่มีลักษณะคล้ายนาฬิกาข้อมือทั่วไป บนดีไซน์สวยงามพรีเมี่ยม สามารถเปลี่ยนไปใช้สายนาฬิกาทั่วไปเพื่อให้เข้ากับแฟชั่นการแต่งตัวของแต่ละคนได้ ตัวเรือนมีสีสันและขนาดที่สวมใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง สนับสนุนฟีเจอร์ติดตามสุขภาพที่ครบครัน และยังมีราคาถูกกว่าคู่แข่งอยู่พอสมควร เมื่อเทียบกับสมาร์ทวอทช์ที่มี eSim ในตัว
Samsung พร้อมวางจำหน่าย Galaxy Watch eSim แล้ววันนี้ ในราคาเริ่มต้น 11,900 บาท สำหรับขนาด 42 มม. มีตัวเรือนให้เลือก 2 สี (Midnight Black, Rose Gold) และราคา 12,900 บาท สำหรับขนาด 46 มม. มีให้เลือกสีเดียว (Silver)
บทความโดย – www.flashfly.net