บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2555 เป็นที่น่าพอใจ จากลูกค้าบริการ 3G+ ของทรูมูฟ เอช ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ บริการบรอดแบนด์เติบโตสูงเป็นประวัติการณ์ จากความสำเร็จของบริการ ULTRA hi-speed Internet
ในไตรมาส 1 ปี 2555 กลุ่มทรูมีรายได้จากการให้บริการโดยรวม จำนวน 15.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ทั้งนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับจากบริการ 3G+ ของทรูมูฟ เอช และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เป็นเงินสดในไตรมาสนี้ ที่ลดลงตามฤดูกาล เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าปกติในไตรมาส 4 ปี 2554 จากผลกระทบวิกฤติน้ำท่วม ทำให้กำไรจากการดำเนินงาน ก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA ของกลุ่มทรู ในไตรมาส 1 ปี 2555 ปรับตัวดีขึ้นเป็น 4.3 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.4 จากไตรมาสก่อนหน้า) อย่างไรก็ตาม EBITDA ปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2554 ส่วนใหญ่จากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จากการขยายธุรกิจ (บริการ 3G+ และบริการบรอดแบนด์) และผลการดำเนินงานที่อ่อนตัวลงของทรูวิชั่นส์
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1 ปี 2555 กลุ่มทรูรายงานผลขาดทุนสุทธิการดำเนินงานปกติ (NIOGO) ไม่รวมภาษีเงินได้รอตัดบัญชี จำนวนทั้งสิ้น 1.0 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ขาดทุน 1.8 พันล้านบาท ในไตรมาสก่อนหน้า และมีผลขาดทุนสุทธิสำหรับส่วนที่เป็นของบริษัท จำนวนทั้งสิ้น 456 ล้านบาท ซึ่งรวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 568 ล้านบาท
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร กล่าวว่า “ด้วยยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ ไลฟ์สไตล์ กลุ่มทรูเดินหน้าพัฒนาบริการและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริการ 3G+ ของทรูมูฟ เอช เติบโตอย่างชัดเจน รวมทั้งรายได้และยอดผู้ใช้บริการบรอดแบนด์รายใหม่สุทธิของทรูออนไลน์เพิ่ม สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์”
“บริษัทรู้สึกพอใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ปัจจุบัน ฐานลูกค้าระบบรายเดือนของทรูมูฟ เอช กว่าร้อยละ 60 เป็นลูกค้าใหม่ที่ไม่ได้ย้ายมาจากฐานลูกค้าเดิมของกลุ่มทรู ซึ่งความสำเร็จของทรูมูฟ เอช ที่สามารถตอบโจทย์ตรงใจกลุ่มลูกค้าที่มีการใช้จ่ายสูง ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับอนาคตของบริษัท ทั้งยังตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อธุรกิจของบริษัทและความ เป็นผู้นำด้านคุณภาพและความครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ โดยบริษัทจะยังสานต่อความเป็นผู้นำด้านคอนเวอร์เจนซ์ ไลฟ์สไตล์ นำเสนอนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น บริการ 3G+ บริการบรอดแบนด์ บนเทคโนโลยี DOCSIS 3.0 และ บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกด้วยระบบ High Definition เป็นต้น” นายศุภชัยกล่าวเสริม
แม้บริษัทจะมีความก้าวหน้าในหลายๆ ด้าน แต่ความท้าทายต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นจากการลักลอบใช้สัญญาณและการแข่งขัน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ของทรูวิชั่นส์อ่อนตัวลง ด้วยเหตุนี้ ทรูวิชั่นส์จึงเร่งการเปลี่ยนกล่องรับสัญญาณ เพื่อรองรับระบบออกอากาศใหม่ที่มีความปลอดภัยสูง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดียิ่งจากสมาชิกทรูวิชั่นส์ บริษัทเชื่อมั่นว่า เมื่อเริ่มใช้ระบบออกกาศใหม่ในไตรมาส 3 จะทำให้ยอดผู้ใช้บริการและรายได้ของทรูวิชั่นส์ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ ยังจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการขยายบริการแบบ Double-play ซึ่งเป็นการให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกและบริการ บรอดแบนด์ ผ่านเทคโนโลยี ADSL และ DOCSIS 3.0 ให้ครอบคลุมทั่วประเทศอีกด้วย
กลุ่ม ทรู โมบาย ประกอบด้วย ทรูมูฟ ทรูมูฟ เอช และฮัทช์ มีรายได้จากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 7.5 พันล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในอัตราร้อยละ 11.8 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ทรูมูฟ เอช ซึ่งเริ่มให้บริการ 3G+ ในปลายไตรมาส 3 ปี 2554 เป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างการเติบโตให้กับกลุ่มทรู โมบาย ซึ่งเห็นได้จากการเติบโตของรายได้จากบริการ 3G+ บริการ CDMA และอื่นๆ ถึงร้อยละ 171.0 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า และร้อยละ 55.8 จากไตรมาสที่ผ่านมา เป็น 1.6 พันล้านบาท โดยการใช้บริการโมบาย อินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับกระแสความนิยมในการใช้บริการ 3G ผ่าน Net SIM บนแอร์การ์ด และแท็บเล็ต ส่งผลให้รายได้จากบริการที่ไม่ใช่เสียงเพิ่มขึ้นร้อยละ 60.1 จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ในไตรมาส 1 ปี 2555 ทรูมูฟ เอช มียอดผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิ 625,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มีการใช้งานสูง ทำให้ทรูมูฟ เอชมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เป็น 1.1 ล้านราย และส่งผลให้กลุ่มทรู โมบาย มีจำนวนผู้ใช้บริการโดยรวมทั้งสิ้นกว่า 19.3 ล้านราย
ทรูออนไลน์ มีรายได้จากการให้บริการ 7.0 พันล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2555 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า จากความสำเร็จอย่างสูงของแพ็คเกจ ULTRA hi-speed Internet ความเร็ว 7-100 Mbps ซึ่งส่งผลให้รายได้จากบริการบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไปเติบโตสูงถึง ร้อยละ 21.1 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า และมียอดผู้ใช้บริการ บรอดแบนด์รายใหม่สุทธิในไตรมาส 1 ปี 2555 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่จำนวนทั้งสิ้น 68,000 ราย ทำให้มีฐานลูกค้า บรอดแบนด์เพิ่มขึ้นเป็น 1.4 ล้านราย ทั้งนี้ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำการให้บริการบรอดแบนด์ และ WiFi ของทรูออนไลน์ ในไตรมาส 1 ทรูออนไลน์ได้ขยายความครอบคลุมของโครงข่าย DOCSIS 3.0 เป็น 1.2 ล้านครัวเรือน (จาก 1.1 ล้านครัวเรือนในไตรมาส 4 ปี 2554) รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับการขยายความครอบคลุมของบริการ WiFi ในพื้นที่ต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง
ทรูวิชั่นส์ มีรายได้จากการให้บริการ 2.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 จากไตรมาสที่ผ่านมา และร้อยละ 0.9 จาก ไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า โดยรายได้จาก 2 คอนเสิร์ตใหญ่ (Super Junior และ Girls’ Generation) และรายได้จากค่าโฆษณาที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า สามารถชดเชยรายได้ค่าสมาชิกที่ลดลง ซึ่งเป็นผลจากการลักลอบใช้สัญญาณ และการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1 แคมเปญการเปลี่ยนกล่องรับสัญญาณรุ่นใหม่ ได้รับการตอบรับจากสมาชิกอย่างดียิ่ง โดยได้เปลี่ยนกล่องรับสัญญาณเป็นจำนวนทั้งสิ้น 330,000 กล่อง ให้กับผู้ใช้บริการแพ็กเกจพรีเมียม กว่า 240,000 ราย ณ สิ้นเดือนเมษายน 2555 การเปลี่ยนกล่องรับสัญญาณดังกล่าวนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อใช้งานระบบออกอากาศใหม่ที่มีความปลอดภัยสูง และสามารถรองรับเทคโนโลยี MPEG-4 โดยคาดว่าจะเปิดใช้งานระบบออกอากาศใหม่ในช่วงกลางไตรมาส 3 ของปีนี้
นาย นพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการเงิน กล่าวว่า “เป็นที่น่ายินดีที่ผลประกอบการของกลุ่มทรูปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 1 ปี 2555 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากความทุ่มเทของบริษัทในการดำเนินมาตรการ เพื่อลดค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และความพยายามของทุกฝ่ายเพื่อเพิ่มรายได้ในธุรกิจที่มีโอกาสการเติบโตสูง โดยบริษัทฯ มีการประเมินผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกัน ก็มุ่งมั่นบริหารการลงทุนและหนี้สินให้มีประสิทธิผล ซึ่งทั้งหมดนี้ จะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานภาพทางการเงินของบริษัทในระยะ ยาว”