realme แบรนด์สมาร์ทโฟนน้องใหม่ที่เพิ่งมีอายุครบหนึ่งปีด้วยการเปิดตัว realme 3 Pro ไปสดๆร้อนๆ และยังคงบุกตลาดสมาร์ทโฟนเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด realme ส่งต่อความคุ้มค่าให้มากยิ่งขึ้นด้วยสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น realme C2 ที่จะเข้ามาทำตลาดแทนที่รุ่น realme C1 ในปีที่แล้วและ realme C1 2019 รุ่นอัพเกรดในช่วงต้นปี
ที่บอกว่าคุ้มค่ายิ่งขึ้นนั่นก็เพราะ realme C2 ได้รับการอัพเกรดสเปกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดีไซน์สวยงามขึ้น แต่ยังคงตรึงราคาไว้เท่าเดิม (ราคาเปิดตัวเท่ากับรุ่น realme C1) เพื่อให้สมกับเป็น “King of entry level – ที่สุดแห่งความคุ้มค่า”
มาเริ่มกันที่แกะกล่องกันก่อนเช่นเคยโดย realme C2 ใช้กล่องสีเหลืองตามสีโลโก้ของแบรนด์ ตรงกลางมีชื่อรุ่น C2 และโลโก้อยู่ด้านล่าง
เปิดฝาออกมาก็จะพบกับซองสีเหลืองที่ใส่คู่มือการใช้งาน เอกสารรับประกัน และเข็มจิ้มถาดใส่ซิม ไว้ด้านใน
ถัดมาก็จะพบกับตัวเครื่อง realme C2 ที่มีความโดนเด่นที่ดีไซน์ Diamond Cut สุดงาม
ที่ด้านล่างเราก็จะพบกับชาร์จแบบพกพา USB Power Adapter และ สาย Micro USB เสียดายที่ในรุ่นนี้ไม่มีชุดหูฟัง และเคสใสแถมมาให้ด้วย แต่กับราคาที่ได้มาก็ถือว่าคุ้มค่ามากแล้ว
แกะกล่องกันไปแล้วเรามาดูกันต่อเลยดีกว่าว่า realme C2 มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง สิ่งแรกที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้เลยนั่นก็คือด้านหลังตัวเครื่องใช้ดีไซน์เหลี่ยมเพชร Diamond Cut เคลือบผิว 3 ชั้น พร้อมโรยผงไข่มุก ทำให้พื้นผิวเปล่งประกายเมื่อมีแสงมาตกกระทบ ให้ความรู้สึกหรูหรา
โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Diamond Blue ที่สะท้อนแสงจนดูเหมือนโลหะ และ สีดำ Diamond Black ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มองเห็นดวงดาวระยิบระยับ
ด้านหลังมาพร้อมกล้องคู่ความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซลที่หาได้ยากในสมาร์ทโฟนกลุ่มราคาในระดับนี้ และไม่มีการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ แต่รองรับฟีเจอร์ Facial Unlock หรือปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้า
realme C2 มาพร้อมจอแสดงผล HD+ (1560 x 720 พิกเซล) ขนาด 6.1 นิ้ว ขอบจอบาง อัตราส่วนภาพ 19.5:9 อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 89.35% และใช้รอยบากแบบหยดน้ำ ซึ่งเล็กลงกว่ารุ่นแรก ทำให้จอแสดงผลของ realme C2 มีความละเอียดกว่า realme C1
อีกทั้งยังมีการเพิ่มวัสดุ APCF ช่วยให้จอแสดงผลของ realme C2 มีความสว่างมากยิ่งขึ้น มองเห็นชัดกว่าเดิม เมื่อใช้งานในที่กลางแจ้ง แต่ใช้พลังงานน้อยลงหรือประหยัดแบตเตอรี่ได้ดีกว่าจอแสดงผลของรุ่นก่อน
กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ติดตั้งไว้ในรอยบากรูปทรงหยดน้ำ รองรับทั้งการถ่ายภาพเซลฟี่ และใช้สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค เหนือขึ้นไปมีลำโพงหูฟัง สำหรับใช้ฟังเสียงสนทนา
ขอบด้านข้างมีความบาง 8.5 มิลลิเมตร โดยวางปุ่มเพาเวอร์ไว้ที่ฝั่งซ้ายของจอแสดงผล
อีกข้างหนึ่งมีถาดใส่การ์ดแบบ 3 ช่อง จึงสามารถใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM ได้พร้อมกัน 2 ช่อง ส่วนอีกช่องสำหรับใส่การ์ดความจำ microSD รองรับความจุสูงสุด 256GB ขยับสายตาลงมาเล็กน้อยจะเห็นปุ่มเพิ่มและลดเสียงลำโพง
ด้านล่างประกอบไปด้วยลำโพงตัวหลัก, พอร์ต Micro-USB, ไมโครโฟน และ ช่องเสียบแจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
นอกเหนือจากความสวยงาม realme C2 ยังได้รับการทดสอบเกรดเดียวกับในรุ่นแฟลกชิปทั้งการ Drop Test หรือทดสอบทำตกถึง 10,000 ครั้ง ทดสอบการกดปุ่มถึง 100,000 ครั้ง และทดสอบการเสียบช่อง USB ถึง 10,000 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าสมาร์ทโฟนมีความทนทานสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
แบตเตอรี่ของ realme C2 ให้พลังงานยาวนานตลอดทั้งวัน สำหรับการชาร์จเพียงครั้งเดียว ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4000mAh พร้อมเทคโนโลยี CorePilot จาก Mediatek ที่ฝังมากับชิปประมวลผล 12nm FinFET ของ Helio P22 ช่วยปรับสมดุลการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และยังถูกออกแบบมาให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น
ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ช่วยให้ realme C2 สามารถใช้สนทนาได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง ท่องเว็บไซต์นานสูงสุด 26 ชั่วโมง หรือดูวีดีโอบน YouTube ได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง
ถึงแม้ realme C2 จะเป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัด แต่ก็ยังมาพร้อมกล้องคู่หลัง ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 ขนาดพิกเซล 1.12 ไมครอน กล้องรองหรือกล้องโบเก้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 ขนาดพิกเซล 1.75 ไมครอน
กล้องหลังของ realme C2 รองรับ PDAF จึงสามารถจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อม Bokeh Effect ช่วยให้การการละลายฉากหลังในโหมด Portrait สวยงามยิ่งขึ้น
และยังมี Chroma Boost สำหรับเติมสีสันให้ภาพถ่ายออกมาสดใสมีชีวิตชีวามากขึ้น นอกจากนี้ยังมีโหมด Pro, HDR และ Panorama มาให้ใช้งานด้วย
สำหรับการถ่ายวีดีโอ รองรับความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p และมีโหมด Slo-mo 80 เฟรมต่อวินาที ที่ความละเอียด 480p รวมถึงโหมด Time-Lapse
กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.0 ขนาดพิกเซล 1.12 ไมครอน รองรับโฟมดถ่ายภาพ Portrait ด้วย AI ช่วยให้ภาพถ่ายสวยงามเหมือนถ่ายอยู่ในสตูดิโอ ถ่ายเซลฟีด้วย AI Beautification และสามารถถ่ายวีดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p
กล้องหน้ายังมาพร้อม AI Facial Unlock สำหรับสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคสมาร์ทโฟน แทนการใช้วิธีสแกนลายนิ้วมือแบบดั้งเดิม ซึ่งปกติจะติดตั้งเซ็นเซอร์ไว้ที่ด้านหลังทำให้ต้องเสียเวลาใช้ปลายนิ้วคลำหาตำแหน่ง
แต่เมื่อใช้ Facial Unlock ทำให้การปลดล็อคเป็นไปอย่างรวดเร็ว เพียงแค่มองหน้าจอหรือกล้องหน้าเท่านั้น ซึ่งฟีเจอร์สแกนใบหน้าของ realme C2 มีความปลอดภัยด้วยระบบจดจำใบหน้า 128 จุด และสามารถปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้าในเวลาเพียง 0.3 วินาที
realme C2 เลือกใช้ชิปประมวลผล Mediatek Helio P22 Octa Core 2.0GHz มาพร้อมจีพียู IMG PowerVR GE8320 650MHz รองรับการเล่นเกมเบาๆ ได้อย่างสบาย ส่วนเกมหนักๆ อย่าง PUBG Mobile ก็พอเล่นได้ถ้าหากปรับบคุณภาพกราฟิกต่ำสุด
ส่วนเกม ROV เล่นได้ที่ 30 fps แบบไม่มีอาการกระตุก เกมดังอื่นๆก็เล่นได้หมดไม่ว่าจะเป็น Asphalt 9 หรือ Free Fire ต้องไม่ลืมว่านี่เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นเท่านั้น แต่ที่สำคัญคือให้ความจำ RAM 3GB จับคู่กับ ROM 32GB ถือว่าให้มาเยอะที่สุดเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับเดียวกัน
realme C2 ทำงานบนพื้นฐาน Android 9.0 Pie สวมทับด้วย ColorOS 6.0 ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสำหรับสมาร์ทโฟนที่ใช้ดีไซน์ Full Screen โดยเฉพาะ
การนำทางหรือเข้าถึงฟังก์ชั่นต่างๆ ด้วยระบบ Gesture หรือใช้ปลายนิ้วกวาดหน้าจอ และมี App Drawer มาให้แล้ว ทำให้หน้าจอโฮมดูสะอาดสบายตามากขึ้น
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องด้านหลัง
สรุปแล้ว realme C2 ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาไม่แพง แต่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ที่ครบครัน เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว ถือว่าอัดสเปกมาให้เหนือกว่า
โดยเน้นจอแสดงผลขนาดใหญ่ สำหรับดูทีวีหรอวีดีโอออนไลน์ รวมถึงคอนเท้นต์อื่นๆ ได้เต็มตา แบตเตอรี่ก้อนใหญ่ช่วยให้ผู้ใช้งานไม่ต้องพกพา Power Bank ให้หนักกระเป๋า และยังมีกล้องคู่หลังที่ให้คุณภาพในระดับน่าพอใจ เหนือสิ่งอื่นใด realme C2 มีราคาเพียง 3,599 บาท เท่านั้น โดยวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้
บทความโดย – www.flashfly.net