ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด iOS 13 และ iPadOS 13 ที่ Apple เปิดตัวในงานประชุม WWDC 2019 พร้อมปล่อยเวอร์ชั่น Beta ออกมาเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ประกอบไปด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายอย่างที่ยังไม่เคยถูกพบใน iPhone และ iPad แต่ก็มีหลายฟีเจอร์เหมือนกันที่มีใช้งานอยู่แล้วบนอุปกรณ์ Android ส่วนจะมีฟีเจอร์อะไรบ้าง iPhoneHacks ได้รวบรวมมาให้แล้ว
รองรับหน่วยบันทึกข้อมูลภายนอก
iPad Pro รุ่นใหม่ล่าสุดได้เปลี่ยนพอร์ตเชื่อมต่อ Lightning มาเป็น USB-C ช่วยให้ iPad รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกที่หลากหลาย รวมถึงอุปกรณ์อย่าง Flash Drive หรือ Thumb Drive ซึ่งที่จริงแล้วอุปกรณ์ Android รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เหล่านี้มาหลายปีแล้ว ถึงจะไม่ใช่ทุกรุ่นที่รองรับก็ตาม
ด้วยการปลดล็อคนี้ ทำให้แอพ Lightroom บน iPad สนับสนุนการนำเข้าไฟล์รูปภาพจากการ์ด SD ของกล้องได้โดยตรง ถ้าหากว่าผู้ใช้งานมี Adapter
Swipe Keyboard
ฟีเจอร์ Swype keyboard คือวิธีการป้อนข้อความบนแผงคีย์บอร์ดบนหน้าจอ ด้วยวิธีการลากปลายนิ้วผ่านตัวอักษรที่ต้องการพิมพ์ แทนการยกนิ้วแล้วไล่กดไปที่ละปุ่ม มันเคยเป็นฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมจาก Windows Phone 8.1 ก่อนจะถูกรวมไว้ในแผงคีย์บอร์ดบน Android และล่าสุดมาถึง iOS 13 กับ iPadOS 13 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งความจริงเจ้าของ iPhone หรือ iPad อาจจะเคยใช้งานมาก่อนแล้ว แต่นั่นเป็นแผงคีย์บอร์ดของบุคคลที่สาม แตกต่างจาก iOS 13 และ iPadOS 13 ที่มาจาก Apple โดยตรง
วิดเจ็ตบนหน้าจอหลัก
อุปกรณ์ Android มีวิดเจ็ตบนหน้าจอหลักใช้งานมาหลายปีแล้ว บางวิดเจ็ดสามารถใช้งานฟีเจอร์ได้อย่างเต็มที่และสามารถวางวิดเจ็ดได้อย่างอิสระบนหน้าจอหลัก แต่กรณี iOS สามารถใช้งานวิดเจ็ตได้ที่หน้าซ้ายสุดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม iPadOS สามารถใช้งานวิดเจ็ตได้อย่างเต็มที่มากกว่า ซึ่งอาจเป็นเพราะจอแสดงผลมีขนาดใหญ่กว่า
Dark Mode
Dark Mode อาจไม่ใช่คุณสมบัติดั้งเดิมของอุปกรณ์ Android แต่ Google ได้นำมาใช้อย่างจริงจังกับ Android Q ซึ่งได้รับการแนะนำตัวก่อนที่ Apple จะเปิดตัว iOS 13 และ iPadOS 13 ในเดือนถัดมา
แต่ก่อนหน้านั้น ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Android หลายรายก็พัฒนา Dark Mode มานานแล้ว และมีให้ใช้กับสมาร์ทโฟนบางรุ่นหรือบางค่าย แต่อาจมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังพบว่า Dark Mode มีใช้งานตั้งแต่ Windows Phone 7
ทั้งนี้ Dark Mode จะช่วยให้ iPhone ที่มาพร้อมจอแสดงผล OLED ประหยัดพลังงานของแบตเตอรี่ได้มากขึ้น
Download Manager
Download Manager ไม่ใช่คุณสมบัติดั้งเดิมของอุปกรณ์ Android เพราะถือเป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานของทุกระบบปฏิบัติการและทุกแพลตฟอร์ม และตอนนี้ Download Manager ก็ถูกรวมอยู่ใน iOS 13 และ iPadOS 13 ซึ่งถือเป็นฟีเจอร์ที่สาวก iOS รอคอยมานานถึง 12 ปี
Download Manager ช่วยให้จัดการการดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ บน Safari ช่วยให้ผู้ใช้งานเลือกไดเรคทอรี่จัดเก็บไฟล์ที่กำลังดาวน์โหลดได้ และเราเคยนำเสนอวิธีใช้งานไปแล้ว อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
Street View
มุมมองแผนที่สมจริงทีใช้งานอยู่หลายปีแล้วบนแอพ Google Maps ซึ่งเจ้าของอุปกรณ์ iOS ยอมรับว่าทำงานได้ดีกว่า Apple Maps แต่หลังจาก Apple ปล่อย iPadOS 13 และ iOS 13 ออกมา ก็ช่วยยกระดับให้ Apple Maps ตอบสนองการใช้งานได้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งในบางฟีเจอร์ยังไม่พบในอุปกรณ์ของ Google
ท่องเว็บไซต์ระดับ Desktop บน Safari
ถึงแม้อุปกรณ์ Android ยังให้ประสบการณ์ในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆ ได้ไม่สมบูรณ์แบบนัก แต่ Google ก็ทำได้ดีกับ Chrome OS ซึ่งอยู่ในระบบนิเวศของ Android และตอนนี้ Apple ก็พัฒนา iPadOS ให้มีความสามารถเทียบเท่าแล้ว
แอพพลิเคชั่น Safari บน iPadOS 13 ช่วยให้ iPad ท่องเว็บไซต์ได้ง่ายและราบรื่นขึ้น รวมถึงการเข้าใช้งาน Google Docs, YouTube, WordPress และอื่นๆ ซึ่งก่อนหน้านี้จะได้รับคำเตือนว่าอุปกรณ์ไม่สนับสนุน แต่ตอนนี้ iPad กลายเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้เจ้าของอุปกรณ์ทำงานต่างๆ บนเว็บเบราว์เซอร์ได้อย่างเต็มที่
หลายคนอาจจะบอกว่าถ้า Steve Jobs ยังอยู่ เราอาจไม่ได้เห็น Apple เดินตามหลัง Android แต่เชื่อไหมว่าความคิดนี้อาจจะผิด เพราะอดีตซีอีโอผู้ล่วงลับของ Apple เคยหยิบวลีเด็ดของ Pablo Picasso ออกมากล่าวอ้าง วลีที่ว่าก็คือ “Good artists copy, great artists steal.”
ทั้งนี้ iOS 13 และ iPadOS 13 ยังอยู่ในช่วงทดสอบ แต่คาดว่า Apple จะปล่อยให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้อัพเดทภายในเดือนกันยายนนี้
ที่มา – iPhoneHacks
https://www.flashfly.net/wp/255464