ในเวลานี้เชื่อได้ว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักเครือข่าย TrueMove H ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว กับจุดเด่นที่ถูกนำมาเป็นจุดขายนั่นคือความเร็ว 3G+ ที่สูงสุดถึง 42 MB หรือไปไกลถึง 3.9G นั่นเอง แล้วทางด้าน TrueMove ก็มี 3G อยู่แล้วจะแตกต่างกับ TrueMove H อย่างไรกันแน่ ทำไมต้องเปลี่ยนไปใช้ TrueMove H ในเมื่อ 3G ก็มีเหมือนกันแม้จะแรงไม่เท่าก็ตาม
ก่อนอื่นก็ต้องบอกก่อนว่า TrueMove H และ Truemove นั้นเป็นคนละเครือข่ายกัน ถ้าจะมองให้ง่ายๆนั่นก็คือในประเทศไทยมี Operators ใหญ่อยู่ 4 เจ้าคือ AIS,dtac,Truemove และ Truemove H นั่นเอง โดย Truemove นั้นมาจาก Orange เดิม ส่วน Truemove H มาจาก Huch เดิมนั่นเอง และที่สำคัญ Truemove กำลังจะหมดสัมปทานทดลองเปิดบริการ HSPA (3G) บนคลื่น 850 MHz ในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้แล้ว (True ต้องทำการส่งมอบคลื่นคืน กสท ภายในเดือนมีนาคม) ซึ่งส่งผลทำให้ลูกค้าจำนวนกว่า 4แสนเลขหมายจะไม่สามารถใช้งาน 3G บนคลื่น 850 MHz อีกต่อไป จะเหลือแต่บริการ 2G บนคลื่น 1800 MHz เท่านั้น ทั้งนี้ทาง กสทเองได้เปิดให้บริการเองภายใต้แบรนด์ “my” และขายส่งความจุโครงข่ายให้กลุ่มทรูให้บริการภายใต้แบรนด์ TrueMove H เป็นที่เรียบร้อย
มาถึงตรงนี้ผู้ที่ใช้งาน Truemove เดิมก็จะเริ่มได้รับ SMS แจ้งเตือนให้ทำการย้ายเครือข่ายไปยัง Truemove H แล้ว โดยสามารถใช้ Package และ Promotion เดิมจาก Truemove ที่ใช้อยู่ได้เลยซึ่งจะจะมีผลไปอีกประมาณ 6 เดือน แต่ได้ความเร็วบนเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ถ้าไม่พอใจใน Promotion ของทาง Truemove H ก็สามารถย้ายไปยังค่ายอื่นได้ตามใจชอบ
ตอนนี้ Truemove H ได้ขยายสัญญาณ 3G+ ทั่วกรุงเทพฯ และ 16 จังหวัด ทั้งปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี อยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี เชียงใหม่ สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต นครศรีธรรมราช กระบี่ และทั่วประเทศเร็วๆ นี้
สรุปง่ายๆคือ TrueMove H ได้ไปต่อ ขณะที่ Truemove อาจต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้าน!!
ตรวจสอบโปรโมชั่นของ Truemove H ที่นี่
บทความโดย – flashfly.net
