Apple ได้เปิดตัว iOS 13 ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดสำหรับ iPhone ที่งานประชุม WWDC 2019 แต่ยังไม่ได้ปล่อยซอฟต์แวร์ออกมาให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้อัพเดท ซึ่งปกติจะปล่อยออกมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง อย่างไรก็ตาม สำหรับเวอร์ชั่น Beta ของ iOS 13 ถูกปล่อยออกมาแล้ว ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นทดลองใช้ ที่ยังไม่มีความสมบูรณ์และอาจเกิดข้อผิดพลาดได้
iOS 13 เวอร์ชั่น Beta ที่ปล่อยออกมาให้อัพเดท เหมาะสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่ผู้ใช้งานทั่วไป ก็สามารถติดตั้งได้เช่นกัน ถ้าหากต้องการทดลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
สมัครเข้าร่วมโปรแกรมพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Apple
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า เวอร์ชั่น Beta ของ iOS 13 ที่ปล่อยออกมาแล้ว เหมาะสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ วิธีการเดียวที่จะรับ iOS 13 เวอร์ชั่น Beta ต้องสมัครเข้าร่วมโปรแกรมพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Apple เพื่อรับบัญชี Apple Developer จึงจะสามารถดาวน์โหลด iOS 13 เวอร์ชั่น Beta มาติดตั้งได้
แต่การสมัครเข้าร่วมโปรแกรมพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Apple นั้นไม่ฟรี!! เพราะมีการเก็บค่าสมัคร 99 ดอลล่าร์สหรัฐต่อปี หรือราว 3,100 บาท
สามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Apple ได้ที่นี่
หลังจากเข้าร่วมโปรแกรมพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Apple เรียบร้อยแล้ว จะได้รับการอัพเดท iOS 13 เวอร์ชั่น Beta ผ่านทางระบบ over-the-air เหมือนอัพเดทเวอร์ชั่นตามปกติ
หรือรอ iOS 13 เวอร์ชั่น Public Beta
iOS 13 เวอร์ชั่น Public Beta เป็นเวอร์ชั่นทดลองใช้เหมือนกับเวอร์ชั่นสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ และจะถูกปล่อยออกมาให้อัพเดทในเดือนกรกฎาคมนี้ ถึงจะมาช้า แต่ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย
สามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมทดสอบเวอร์ชั่น Public Beta ของ Apple ได้ที่นี่
หลังจากสมัครแล้วจะได้รับการอัพเดท iOS 13 เวอร์ชั่น Public Beta ผ่านทางระบบ over-the-air เหมือนอัพเดทเวอร์ชั่นตามปกติ
หรือรอเวอร์ชั่น Final Release
iOS 13 เวอร์ชั่น Final Release หรือเวอร์ชั่นสมบูรณ์ จะถูกปล่อยออกมาให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้อัพเดท โดยที่ไม่ต้องไปสมัครหรือลงทะเบียนใดๆ เพียงแค่รอรับการแจ้งเตือน และอัพเดทผ่านทางระบบ over-the-air ซึ่งคาดว่าจะมาถึงในช่วงท้ายของเดือนกันยายนนี้
สำหรับใครที่ต้องการสมัครเข้าร่วมโปรแกรม Beta ของ Apple ต้องยอมรับความเสี่ยงที่ซอฟต์แวร์จะทำงานผิดพลาด ซึ่งบางครั้งอาจส่งผลให้อุปกรณ์ทำงานผิดปกติ เพราะยังไม่ใช่เวอร์ชั่นสมบูรณ์
ทั้งนี้ ระบบปฏิบัติการ iOS 13 รองรับเฉพาะอุปกรณ์ที่มีรายชื่อดังต่อไปนี้
- iPhone XS
- iPhone XS Max
- iPhone XR
- iPhone X
- iPhone 8
- iPhone 8 Plus
- iPhone 7
- iPhone 7 Plus
- iPhone 6s
- iPhone 6s Plus
- iPhone SE
- iPod touch (7th generation)
ที่มา – iDropNews
https://www.flashfly.net/wp/254622